https://192.168.19.136:2583/SiteCollectionImages/2023/Market%20tigger/09-Core-Satellite-Portfolio_BN.jpg
HIGHLIGHTS :
• GDP จีน ไตรมาส 3/2566 ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าคาด โตถึง 4.9%
• ตลาดคาดว่า จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ได้
• ตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ในเดือนก.ย. ส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นในบางภาคส่วน
• คงคำแนะนำเป็น Neutral ทยอยสะสมได้ แนะนำสัดส่วน 10-15% ของพอร์ตการลงทุน
GDP จีน ไตรมาส 3/2566 ขยายตัวแข็งแกร่งกว่าคาด
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงาน GDP ไตรมาส 3/2566 ขยายตัว 4.9% (เทียบรายปี) แข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 4.6% ซึ่งทำให้ตลาดคาดหวังว่า จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ได้ หากดูรายไตรมาส ตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของจีนขยายตัว 1.3% ซึ่งแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 0.9% เป็นผลจากการที่รัฐบาลจีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งช่วยให้เศรษฐกิจจีนเริ่มมีเสถียรภาพ
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ ของจีนในเดือน ก.ย. มีประกาศดังนี้
o การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 4.5% (เทียบรายปี) ซึ่งเป็นการขยายตัวในระดับเดียวกับเดือนส.ค. และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 4.3%
o ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้น 5.5% (เทียบรายปี) ซึ่งดีกว่าในเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 4.6% และแข็งแกร่งกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 4.9%
o ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวขึ้น 3.1% (เทียบรายปี) ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าอาจเพิ่มขึ้น 3.2% ส่วนในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.) ยอดการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น 3.2%
o การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ ลดลง 9.1% (เทียบรายปี) หลังจากลดลง 8.8% ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-ส.ค.)
o อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 5% (เทียบรายปี) จากระดับ 5.2% ในเดือนส.ค.
ตัวเลข GDP ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ของตลาด รวมทั้งตัวเลขกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ส่งสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นในบางภาคส่วน บ่งชี้ภาพเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวและมีเสถียรภาพมากขึ้น แต่ยังต้องจับตาภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากถ้าพิจารณาการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรพบว่ายังคงชะลอตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนสถานการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงเปราะบาง
ทั้งนี้ ตลอดช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ทางการจีนทยอยออกมาตรการเพื่อหนุนเศรษฐกิจมากขึ้น อาทิ ล่าสุดวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีไว้ที่ระดับ 2.50% ตามที่ตลาดคาด แต่ได้ทำการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าไปในระบบเพิ่มเติม เป็นจำนวนเงินสูงถึง 2.89 แสนล้านหยวน ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2020 เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารพาณิชย์จีน และหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ สะท้อนว่าทางการจีนมีความพยายามที่จะประคับประคองเศรษฐกิจและทำให้ Downside risk จำกัด
KAsset ยังคงมุมมองต่อตลาดหุ้นจีนเป็น Neutral จากที่เราเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาสะท้อนโมเมนตัมการฟื้นตัวและความมีเสถียรภาพมากขึ้น ประกอบกับมาตรการพยุงเศรษฐกิจของทางการจีนที่ทยอยประกาศ แม้จะยังเน้นนโยบายแบบสมดุล แต่เป็นการประกาศออกมาอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการปรับลดคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนเริ่มหยุดลงได้แล้ว ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนด้าน Valuation ที่ P/E ลดลงมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และได้ Price in ความกังวลด้านความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ไประดับหนึ่ง แต่ยังต้องติดตามความต่อเนื่องของมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจในระยะถัดไป และผลต่อทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างความกังวลอยู่
นักลงทุนที่ยังไม่มีกองทุนหุ้นจีนสามารถทยอยสะสมได้
แนะนำสัดส่วน 10-15% ของพอร์ตการลงทุน ในกองทุน K-CCTV และ K-CHX ส่วนนักลงทุนที่ถืออยู่สามารถถือต่อได้
สำหรับนักลงทุนที่มีสัดส่วนสูงกว่าแนะนำมาก และมีความกังวลกับความผันผวนของตลาดจีน สามารถลดสัดส่วนกองทุนหุ้นจีนลงมาได้
โดยเราแนะนำให้สับเปลี่ยนกองทุนหุ้นจีนในส่วนที่เกินจาก 10-15% ไปลงทุนในกองทุนหุ้นสหรัฐฯ K-USA หรือหุ้นอินเดีย K-INDIA เนื่องจากมีปัจจัยสนับสนุนทั้งในระยะสั้นอย่างการใกล้หยุดขึ้นดอกเบี้ยของ Fed และส่วนในระยะยาว ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ และอินเดียที่อยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น และโครงสร้างเศรษฐกิจจะช่วยหนุนการเติบโตในอนาคต
สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ เราแนะนำให้สับเปลี่ยนส่วนที่เกินจากสัดส่วนแนะนำไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้เพื่อลดความเสี่ยงและรอดูสถานการณ์ในช่วงปีนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนอีกครั้ง
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com
บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 19 ตุลาคม 2023
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
อัปเดตวิกฤตอสังหาริมทรัพย์จีน …เกิดอะไรขึ้น? >>
Clickเมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ย ...แต่ไม่ชัดว่าเป็นครั้งสุดท้าย >>
Clickสรุปสัญญาณ จากประชุม Politburo ของจีน >>
ClickGDP จีนไตรมาสแรกขยายตัว 4.5% สูงกว่าคาด >>
Click