11/15/2022

ได้เวลาวางแผนภาษี มีแค่ Provident Fund เพียงพอ...หรือไม่?​

​​​​​​​messageImage_1668499264377.jpg
การที่เราจะใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข เราจำเป็นต้องมีรายได้หรือเงินที่เพียงพอ สำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงชีวิตนั้นๆ 

มนุษย์เงินเดือนหลายคน ก็โชคดีที่บริษัทมี Provident Fund หรือ PVD ซึ่งเป็นกองทุนสำรองเพื่อการเลี้ยงชีพหลังเกษียณอายุ ทำให้มีเงินก้อนหนึ่งสำหรับใช้จ่ายหลังการเกษียณ โดยทั่วไปก็จะเก็บ 3-5% ของเงินเดือน 

อนึ่ง โดยทั่วไปเราพบว่าแค่เงิน PVD ก้อนนี้ ไม่น่าจะเพียงพอต่อการดำรงชีวิตหลังเกษียณอีกประมาณ 20 ปี ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องออมเงิน หรือวางแผนการลงทุนเพิ่มอีกส่วนหนึ่งด้วยตัวเอง


ลองสำรวจดูว่า คุณอยากเป็นคนวัยเกษียณในกลุ่มใด 
• กลุ่มเกษียณชิล ใช้จ่ายเดือนละ 15,000 บาท ต้องมีเงินเก็บตอนเกษียณ 4 ล้านบาท
• กลุ่มเกษียณสุขใจ ใช้จ่ายเดือนละ 30,000 บาท ต้องมีเงินตอนเกษียณ 8 ล้านบาท
• กลุ่มเกษียณสำราญ ใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท ต้องมีเงินตอนเกษียณ 13.4 ล้านบาท

messageImage_1668161373344.jpg
ส่วนจะต้องออมเงินอีกเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับว่า ต้องการมีเงินใช้จ่ายเดือนละเท่าไหร่ในช่วง 20 ปีหลังเกษียณ ซึ่งลองคำนวณได้จากค่าใช้จ่ายประจำวัน, ค่ารักษาพยาบาล, ค่าใช้จ่ายเพื่อความสุข, ท่องเที่ยวและช้อปปิ้ง หรือใครที่คิดว่าต้องมีมรดกให้ลูกหลานหรือมีเงินบริจาค ทำบุญ อีกด้วย ก็ยิ่งต้องวางแผนตั้งแต่วันนี้เพื่อให้มีเงินเพียงพอสำหรับวันข้างหน้า
ดังนั้น ถ้าเราฝันอยากมีเงินใช้สบายๆ หลังเกษียณ ก็ต้องรีบลงมือวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้!!

เงินเดือนสูง เสียภาษีเยอะขึ้น …แต่ก็ขอคืนภาษีได้เยอะขึ้นเช่นกัน
 “การวางแผนภาษี” คือ การเตรียมการเพื่อเสียภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน ในฐานะพลเมืองที่ดี และใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีต่างๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้ ไปใช้ลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปี 

ทั้งนี้ ก็เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้น้อยลง ไม่ต้องเสียภาษีมากจนเกินไป รวมถึงไม่ต้องชำระภาษีเพิ่ม หรือเสียเบี้ยปรับโดยใช่เหตุ และยิ่งถ้าเราวางแผนภาษีได้เป็นอย่างดี เงินที่ประหยัดได้นี้ ก็สามารถนำไปต่อยอดให้ออกดอกออกผล สร้างเงินกลับมาให้เราได้อีกต่อหนึ่งด้วย

messageImage_1668161415401.jpg

ก่อนจะขอลดหย่อน เราก็ต้องคำนวณภาษีกันก่อน 
เริ่มแรกเรามาคำนวณภาษีที่ต้องจ่ายในปีนั้นๆ กันก่อน โดยเงินภาษีที่เราต้องจ่ายนั้นจะคิดจาก จำนวนเงินได้สุทธิคูณกับอัตราภาษีของเรา โดยอัตราภาษีนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดตามรายได้ของเรา โดยขั้นแรกคือ 0% หรือได้รับการยกเว้นภาษี สำหรับผู้ที่มีเงินได้สุทธิไม่ถึง 150,000 บาท/ปี และเพิ่มขั้นทีละ 5% ไปจนถึงผู้ที่มีเงินได้สุทธิมากกว่า 5,000,000 บาท/ปี ขึ้นไป ที่จะมีอัตราภาษี 35%
ส่วนเงินได้สุทธินั้นจะคิดจากการนำรายได้ของเราทั้งหมดมารวมกัน แล้วนำมาหักลบกับค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนภาษีของเรา

ทางเลือกกองทุน สำหรับคนที่ต้องการออมเงินเพื่อการเกษียณ และได้สิทธิลดหย่อนภาษี มีอะไรบ้าง?
หลักๆ จะมี 2 รูปแบบ คือ กองทุน SSF และกองทุน RMF โดยแต่ละแบบมีเงื่อนไขในการลงทุน ดังนี้

กองทุน SFF :
ต้องซื้อแล้วต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปี นับจากวันที่ซื้อ แต่ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี สามารถซื้อได้สูงสุด 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกินปีละ 200,000 บาท และเมื่อรวมกับเงินกลุ่มเกษียณทั้งหมดต้องไม่เกิน 500,000 บาท โดยสามารถเลือกลงทุนได้ในหลากหลายสินทรัพย์ เช่น หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ และตราสารหนี้

กองทุน RMF : 
ซื้อได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ที่ต้องเสียภาษี ลงทุนได้สูงสุด 500,000 บาท แต่เมื่อรวมกับเงินกลุ่มเกษียณทั้งหมดต้องไม่เกิน 500,000 บาท สามารถลงทุนในสินทรัพย์ทุกประเภท เมื่อซื้อแล้วจะต้องซื้อติดต่อกันทุกปีไปจนอายุครบ 55 ปี สามารถเว้นวรรคการซื้อได้ไม่เกิน 1 ปี และต้องถือครองไปจนถึงอายุ 55 ปี
messageImage_1668161398079.jpg
​​
หากขายคืน SSF / RMF ก่อนครบอายุจะต้องคืนภาษีที่เคยได้ลดหย่อนไปทั้งหมด และต้องจ่ายเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือนของจำนวนภาษีที่ได้รับลดหย่อนตั้งแต่เดือนเม.ย.ของปีที่ได้รับลดหย่อนภาษี

ใครควรซื้อ SSF / RMF และควรซื้อตอนไหน ซื้อเท่าไหร่ดี?
กองทุน SSF / RMF เหมาะกับคนที่ต้องการออมเงินเพื่อการเกษียณและต้องการลดหย่อนภาษี ถ้ามีเงินได้สุทธิเกินปีละ 150,000 บาท เริ่มซื้อกองทุน SSF / RMF ได้

"ถ้าอายุต่ำกว่า 45 ปี แนะนำให้ซื้อ SSF ก่อน หากต้องการวางแผนเกษียณระยะยาว จะซื้อ RMF เพิ่มก็ได้ แต่ถ้าอายุเกิน 45 ปี ควรเลือกซื้อ RMF เพราะใช้เวลาถือครองน้อยกว่า"

ในภาวะที่ตลาดผันผวน การลงทุนเงินก้อนเดียวซื้อครั้งเดียว (Market Timing) เหมาะกับคนที่สามารถวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและเศรษฐกิจได้ดี มีเวลาในการติดตามข่าวสารการลงทุน และมีเงินก้อนและรอคอยเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนได้ การลงทุนแบบนี้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากกว่า หากสามารถจับจังหวะลงทุนได้ถูกต้อง 

การลงทุนสม่ำเสมอแบบ DCA เหมาะสำหรับคนที่มีวินัยในการลงทุน ไม่อยากใช้เงินก้อนลงทุน และไม่มีเวลาติดตามข่าวสารการลงทุน อาจจะมีโอกาสผลตอบแทนน้อยกว่า แต่ก็แลกกับการถัวเฉลี่ยความเสี่ยงในการจับจังหวะลงทุนผิด
บางคนอาจเลือกลงทุนแบบผสม คือ แบ่งเงินก้อนไว้ซื้อครั้งเดียว และทยอยลงทุนแบบ DCA
messageImage_1668161445211.jpg
กองทุน SSF / RMF ที่น่าสนใจ แบ่งตามความสามารถในการรับความเสี่ยงของผู้ลงทุน
ลงทุนความเสี่ยงต่ำ : เหมาะสำหรับคนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ หรือคนที่รับความเสี่ยงได้สูง แต่ต้องการที่พักเงินช่วงตลาดผันผวน แนะนำกองทุน K-SF-SSF และ RMF เน้นลงทุนตราสารหนี้ไทยระยะสั้นของภาครัฐและเอกชนที่มีเครดิตดี  คนที่รับความเสี่ยงได้สูง แต่ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ตลาดช่วงนี้ อาจจะลงทุนไว้ก่อนแล้วโยกเงินไปลงทุนกองทุน SSF หรือ RMF ที่มีความเสี่ยงสูงกว่าได้ 

ลงทุนความเสี่ยงปานกลาง : แนะนำกองทุน K-GINCOME-SSF และ RMF เป็นกองทุนผสม ที่ลงทุนในสินทรัพย์ 3,000 ตัวทั่วโลก ทั้งหุ้น หุ้นปันผลสูง ตราสารหนี้ หุ้นกู้ฯ เพื่อกระจายความเสี่ยง และให้โอกาสผลตอบแทนสูงกว่าลงทุนในตราสารหนี้ แต่มีความเสี่ยงน้อยกว่าลงทุนในกองทุนหุ้น 

ลดหย่อนภาษีกับ SSF และ RMF กสิกรไทย รวมกองทุนระดับโลก ผลตอบแทนระดับท๊อป มีครบทุกเทรนด์ พร้อมโปรจัดเต็ม ซื้อเลยผ่าน K PLUS
ลงทุนความเสี่ยงสูง : แนะนำกองทุนหุ้น ซึ่งมีทั้งในประเทศและต่างประเทศ
หุ้นไทย แนะนำกองทุน K-STAR SSF และ RMF เน้นลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดี มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว มีการจับจังหวะปรับสัดส่วนน้ำหนักการลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน ถือเป็นจังหวะเก็บหุ้นไทยที่ราคาดี มีอนาคตเติบโต

หากสนใจลงทุนในต่างประเทศ : แนะนำกองทุน K-VIETNAM-SSF และ RMF ที่เน้นลงทุนตรงในหุ้นเวียดนาม ทั้งนี้ คาดว่าตลาดหุ้นเวียดนามน่าจะฟื้นตัวและกลับมาเติบโตได้ และอาจมาแรงที่สุดในกลุ่มตลาดเอเชีย ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่ดี คือ การเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลก เศรษฐกิจเติบโตสูงในระยะยาว ประเทศมีสัดส่วนคนวัยทำงานสูงที่สุดในอาเซียน ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ

กิจกรรม KAsset Live ใจดีแจกฟรี!! K-CASH 200 บาท

กติกาการร่วมกิจกรรม 
1. ลงทะเบียนเพื่อยืนยันการเข้าร่วมกิจกรรม >>Click<< 
2. เปิดบัญชีกองทุนครั้งแรกผ่าน K-My Funds เพื่อรับหน่วยลงทุน K-CASH 200 บาท* (สำหรับ 300 ท่านแรก)
*ให้สิทธิเฉพาะบุคคลธรรมดาที่ยังไม่เคยมีบัญชีกองทุนกสิกรไทยมาก่อน วันที่ 9 พ.ย. 65 เท่านั้น

เงื่อนไขการรับรางวัล 
1. รายการส่งเสริมการขายนี้ให้สิทธิเฉพาะบุคคลธรรมดาที่ยังไม่เคยมีบัญชีกองทุนกสิกรไทยมาก่อน ณ วันที่ 9 พ.ย. 65 และเปิดบัญชีกองทุนกสิกรไทยครั้งแรกผ่าน K-My Funds ในระหว่างวันที่ 9-30 พ.ย. 2565 เท่านั้น
2. บริษัทจะพิจารณาให้หน่วยลงทุน K-CASH มูลค่า 200 บาท กับบุคคลที่ปฏิบัติตามกฎกติกาและเงื่อนไขครบถ้วน 300 ท่านแรก โดยพิจารณาจากเวลาที่ลงทะเบียนยืนยันการเข้าร่วมกิจกรรม(Google Form) ทั้งนี้หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขจะให้สิทธิในลำดับถัดไป
3. บริษัทจะดำเนินการซื้อหน่วยลงทุน K-CASH ภายในเดือนธันวาคม 2565 เข้าบัญชีกองทุนที่เปิดครั้งแรก และจะดำเนินการแจ้งให้ทราบผ่านทางการแจ้งเตือนของ K-My Funds
4. บุคคลที่ได้รับสิทธิประโยชน์ในรายการส่งเสริมการขายนี้ จะไม่สามารถรับสิทธิประโยชน์ในรายการส่งเสริมการขายอื่นๆ ในช่วงเวลาเดียวกัน และ/หรือ เงินลงทุนเดียวกันได้อีก
5. บริษัทขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลง และ/หรือ ยกเลิกเงื่อนไขโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า กรณีมีข้อพิพาท คำตัดสินของบริษัทถือเป็นที่สิ้นสุด​

ที่มา จากงานสัมมนา : ได้เวลาวางแผนภาษี  “มีแค่กองทุน PVD เพียงพอ…หรือไม่?” 
คุณเกษตร ชัยวันเพ็ญ รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย 
ดร.พีรภัทร ฝอยทอง, CFP
ข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ย. 2565​

หมายเหตุ "กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน"​​


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
รู้หรือไม่? PVD สามารถเลือกแผนลงทุนได้ >> อ่านต่อ​
เทคนิค ลงทุนให้เหมาะกับช่วงเวลา​ >>อ่านต่อ​
ลงทุน Term Fund รับจังหวะดอกเบี้ยขาขึ้น​ >>อ่านต่อ​
รวมทุกเรื่องที่คุณต้องรู้ ก่อนลงทุนใน SSF/RMF​​ >>​อ่านต่อ​


Yes
11/15/2022