คุณรู้ไหม? ว่าไทยกำลังก้าวเข้าสู่​ยุคสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super Aged Society) ​แล้ว​

​​เหตุนี้เอง นักลงทุนอย่างเราๆ ​​จึงควรวางแผนพอร์ตเกษียณของตนเองไว้ เพื่อ​ให้แน่ใจได้ว่า ชีวิตหลังเกษียณจะดำเนินไปได้ด้วยดีแบบไม่มีปัญหา ​

ถ้าอยากให้พอร์ตเกษียณนี้สร้างความอุ่นใจและความมั่นคงในระยะยาว มี 3 เรื่องสำคัญที่ควรรู้ควบคู่ไปด้วยกัน... 

​​“เวลา” นับเป็นหัวใจสำคัญ โดยเฉพาะการลงทุนเพื่อการเกษียณ ยิ่งถ้าเริ่มต้นลงทุนไวเท่าไร ก็ยิ่งได้เปรียบมากขึ้นเท่านั้น เพราะทำให้พอร์ตมีเวลาเติบโต และยังลดความเสี่ยงของความผันผวนที่เกิดขึ้นในช่วงระยะสั้นได้ ซึ่งสามารถแบ่งสัดส่วนการลงทุนจากช่วงอายุได้ ดังนี้ ​

​​วัยนี้อยู่ในช่วงที่ยังมีเวลาลงทุน เหมาะกับการจัดพอร์ตแบบตั้งรับ (Defensive) เน้นควบคุมความผันผวนเพื่อรักษาเงินต้น แต่ยังเปิดโอกาสให้พอร์ตเติบโตต่อได้ ​

​​เป็นช่วงใกล้เกษียณ แม้จะยังลงทุนได้ แต่ระยะเวลาค่อนข้างน้อย พอร์ตการลงทุนควรเน้นความมั่นคงและปลอดภัยเป็นหลัก ​

​​วัยเกษียณเต็มตัว รายได้ประจำลดลงหรืออาจไม่มีเลย และยังเป็นวัยที่รับความเสี่ยงได้น้อยที่สุด การจัดพอร์ตจึงต้องเน้นความมั่นคง หาผลตอบแทนสม่ำเสมอ และมีสภาพคล่องสูง เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ​

​​เป็นสิ่งที่ลูกหลานควรทำความเข้าใจ เมื่อต้องวางแผนเกษียณให้พ่อแม่ เพื่อจะได้กำหนดแนวทางการลงทุนได้เหมาะสม และเตรียมความพร้อมในทุกด้าน เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายหลังเกษียณได้อย่างลงตัว​

​​ซึ่งสามารถใช้หลักการ ​“80% Rule”​ มาประเมินค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ หลังเกษียณได้ว่าควรอยู่ที่ประมาณ 80% ของค่าใช้จ่ายจากตอนทำงาน เช่น ค่าใช้จ่ายในช่วงที่ยังทำงานอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน เมื่อต้องการหาค่าใช้จ่ายหลังเกษียณ ต้องคำนวณด้วย 15,000 x 0.80 ค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 12,000 บาท นั่นเอง​

​​เพราะกองทุนในปัจจุบันมีให้เลือก​​มากมาย​​หลายรูปแบบ แถมแต่ละกองทุนก็มีนโยบาย ความเสี่ยง และผลตอบแทนที่แตกต่างกันไป การเลือกกองทุนที่เหมาะสม จึงต้องศึกษาและทำความเข้าใจให้ละเอียด ​

​​ซึ่ง KAsset ก็ขอแนะนำกลุ่มกองทุนตัวเลือกเพื่อพอร์ตเกษียณ ที่คัดมาแล้วว่าใช่ ​