กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF เปิดเผยในวันอังคารที่ 16 ก.ค. 2567 ที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไปในช่วง 2 ปีข้างหน้า
ปรับเพิ่มคาดการณ์ 'การเติบโตเศรษฐกิจโลก'
ทั้งนี้ IMF ได้ออกรายงาน World Economic Outlook (WEO) และคงคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2567 มีแนวโน้มขยายตัวที่ 3.2% แต่ปรับตัวเลขของปี 2568 ขึ้น 0.1% เป็น 3.3% จากประมาณการในเดือนเม.ย. ที่ 3.2%)
ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ เศรษฐกิจจีน
ขณะเดียวกัน มีการปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปี 2567 จาก 4.6% ที่ประเมินไว้เมื่อเดือนเม.ย. ขึ้นเป็น 5.0% ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับของรัฐบาลกรุงปักกิ่ง จากการบริโภคของประชาชน ที่ฟื้นตัวและการส่งออกที่แข็งแกร่ง พร้อมทั้งปรับขึ้นประมาณการเศรษฐกิจจีนในปี 2568 เป็น 4.5% จาก 4.1%
เศรษฐกิจยุโรป 'ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดแล้ว'
ในส่วนของยุโรป IMF ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจในปี 2567 เพิ่มขึ้น 0.1% เป็น 0.9% แต่คงตัวเลขปี 2568 ไว้ที่ 1.5% โดยเศรษฐกิจของประเทศในยุโรปนั้น “ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดแล้ว" จากการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ของภาคบริการในครึ่งปีแรก และการปรับขึ้นของค่าจ้างที่แท้จริง (real wage) ที่จะช่วยหนุนการบริโภคในปีหน้า และทำให้เกิดการผ่อนคลาย ด้านนโยบายทางการเงินเพื่อช่วยส่งเสริมการลงทุนด้วย
“โดย IMF ได้คาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2567 และ 2568 มองว่ายังมีการขยายตัว สะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในภาพรวม ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงอย่างตลาดหุ้นมีความน่าสนใจ"
แม้เงินเฟ้อทั่วโลกมีแนวโน้มลดลง แต่ด้วยอัตราที่ชะลอลง จากการเติบโตของค่าจ้างยังคงแข็งแกร่งในหลายประเทศ ทำให้เงินเฟ้อในภาคบริการยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานที่ชะลอความร้อนแรงลง ประกอบกับราคาพลังงานที่คาดว่าจะลดลง น่าจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับมาสู่เป้าหมายภายในสิ้นปี 2568
คำแนะนำการลงทุน
KAsset มองว่า เศรษฐกิจโลกยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการชะลอตัวของเงินเฟ้อทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้ธนาคารกลางหลายแห่งอาจลดดอกเบี้ยลง นี่เป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนของนโยบายในแต่ละประเทศ และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ยังคงเป็นปัจจัยที่สามารถทำให้ตลาดหุ้นผันผวนได้
ดังนั้น การกระจายเงินลงทุนไปในหลากหลายภูมิภาคทั่วโลก ผ่านการลงทุนในกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี ไม่ว่าตลาดจะอยู่ในวัฏจักรหุ้น Growth หรือหุ้น Value* จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยให้พอร์ตการลงทุน สามารถรับมือกับความผันผวนของตลาดได้ดียิ่งขึ้น
*หมายเหตุ
- หุ้น Growth หรือหุ้นเติบโต คือ หุ้นในกลุ่มธุรกิจที่มีการขยายตัวสูง มีการเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด มักจะผันผวนสูง และซื้อขายในราคาที่สูงกว่ามูลค่าแท้จริง
- หุ้น Value หรือหุ้นคุณค่า คือ หุ้นที่มีเสถียรภาพและมีความมั่นคง มีอัตราการจ่ายปันผลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ผลตอบแทนสม่ำเสมอ และซื้อขายในราคาไม่สูง
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com
บทความโดย
บลจ.กสิกรไทยข้อมูล ณ วันที่ 19 ก.ค. 2567