ตลาดหุ้นจีนเด้งแรง ขานรับธนาคารกลางจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เหนือความคาดหมายของตลาด
จากข่าว วันที่ 24 ก.ย. 2567 ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ เพื่อหวังฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อาจจะไม่เติบโตได้ตามเป้าหมายในปีนี้ อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการระบุชัดเจนว่ามาตรการทั้งหมดจะมีผลบังคับใช้เมื่อไร
โดยจากแหล่งข่าวรายงานว่า มาตรการจะครอบคลุมถึง
-นโยบายการเงิน: ลดอัตราส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ภายในสิ้นปี และลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร (Reverse Repurchase Rate) ระยะ 7 วัน ลง 0.2%
-นโยบายอสังหาฯ: ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านลง 0.5% และลดเงินวางดาวน์ซื้อบ้านหลังที่ 2 เหลือ 15% (เท่ากับบ้านหลังแรก)
-นโยบายตลาดทุน: อนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์และประกันสามารถเข้าถึงเงินทุนของธนาคารกลางเพื่อเอาไปซื้อหุ้น หวังเรียกความเชื่อมั่นตลาดทุน
มุมมองการลงทุน
การปรับนโยบายการเงินทั้งลดดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นและลดการกันสำรองขั้นต่ำ (RRR) สำหรับธนาคารพานิชย์พร้อมกัน เป็นเรื่องที่จีนแทบไม่เคยทำมาก่อน สะท้อนถึงความเร่งด่วนและความพยายามของจีนที่จะพยุงเศรษฐกิจ เรามองว่าการประกาศครั้งนี้เป็นข่าวบวกเล็กน้อยต่อเศรษฐกิจและเป็นการดำเนินนโยบายการเงินที่ก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง เพราะนอกจากที่จีนจะมีการลดดอกเบี้ยและปล่อยสภาพคล่องแล้ว จีนยังมีมาตรการต่างๆ ที่ช่วยให้โบรกเกอร์และกองทุนสามารถเข้าถึงเงินทุนของของธนาคารกลางในการเข้าซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้
ซึ่งมีเม็ดเงินถึง 114 พันล้านหยวน และธนาคารกลางยังตั้ง swap facility ซึ่งทำให้บริษัทหลักทรัพย์และประกันสามารถนำสินทรัพย์สภาพคล่องต่ำไปแลกสินทรัพย์สภาพคล่องสูง และซื้อหุ้นได้โดยตรง ทำให้ตลาดหุ้นทั้ง A-Shares และ H-Shares ตอบรับข่าวในทันที บวกมากกว่า 4% และพันธบัตรรัฐบาลของจีนอายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่ำแตะ 2% เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
มาตรการเรียกความเชื่อมั่นตลาดหุ้น
มาตรการที่ทางธนาคารกลางจีนประกาศออกมา ทำเพื่อต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตลาดหุ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นมาตรการและนโยบายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่บางความเห็นในตลาดมองว่า ค่อนข้างที่จะห่างไกลจากคำว่า bazooka และการที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจจะต้องใช้ทั้งปริมาณเงินและนโยบายที่มากกว่านี้ และที่สำคัญที่สุดคือภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งยังไม่มั่นใจว่าการที่ลดดอกเบี้ยจะเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุด และจะช่วยฟื้นภาคอสังหาฯได้มากน้อยแค่ไหน
คำแนะนำการลงทุน
โดยแม้ว่าการประกาศนี้เป็นสัญญาณบวกที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของรัฐบาลในการรักษาเสถียรภาพของตลาด แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการเหล่านี้จะสามารถแก้ปัญหาที่จีนกำลังเผชิญได้มากน้อยเพียงใด เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การส่งผ่านนโยบายการเงินไม่ได้เห็นผลอย่างชัดเจน และจีนยังสามารถทำอะไรได้อีกมาก เช่น นโยบายที่จะประกาศออกมาก็ควรมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาในส่วนสำคัญ อาทิ การกระตุ้นการเติบโตของรายได้ การฟื้นฟูภาคบริการ และการรักษาเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างนโยบายการเงินและการคลัง
อย่างไรก็ตาม มาตรการนี้เป็นการพยุงไม่ให้ตลาดปรับตัวลงไปมากกว่านี้ โดย KAsset แนะนำให้ดูมาตรการอื่นๆที่ออกมาเพิ่มเติม และยังคงมีมุมมอง Underweight ต่อตลาดหุ้นจีน
ที่มา: KAsset Investment Strategy บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 24 กันยายน 2567
คำเตือน ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com
