สรุปมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและตลาดหุ้น ที่รัฐบาลทยอยประกาศในช่วงตั้งแต่ 23 ก.ย. – 30 ก.ย. 2024
|
Policy |
Implication |
นโยบายการเงิน | ลดดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้น Reverse repo 7 วัน ลง 0.2% และ Reverse repo 14 วัน ลง 0.1% | ลดต้นทุนการกู้ยืม บรรเทาภาระดอกเบี้ย |
| ลดดอกเบี้ยนโยบายระยะกลาง (MLF - Medium-term Lending Facility Rate) ประเภท 1 ปี ลง 0.3% | |
| ลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% | ธนาคารจะสามารถปล่อยเงินกู้ได้มากขึ้นให้กับภาคธุรกิจและประชาชน เพิ่มสภาพคล่องในระบบ |
ภาคอสังหาฯ | ลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีอยู่เดิม (Existing Mortgage) ลง 0.5% | ลดภาระหนี้ของครัวเรือน ทำให้มีเงินเหลือมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น |
| ลดเงินวางดาวน์ซื้อบ้านหลังที่ 2 เหลือ 15% จาก 25% (เท่ากับบ้านหลังแรก) | กระตุ้นยอดขายบ้าน |
| PBoC สนับสนุนเงินให้รัฐบาลท้องถิ่นในการซื้อบ้านที่ขายไม่ออกมาปรับปรุงเป็นบ้านเพื่อสังคม (Social Housing) โดยเพิ่มสัดส่วนการกู้ยืมเป็น 100% จากเดิม 60% ของมูลค่าทรัพย์สิน | ช่วยเหลือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในการระบายสต็อกบ้านที่ขายไม่ออก |
การบริโภค | เซี่ยงไฮ้แจกเงินทาง e-coupon รวมมูลค่า 500 ล้านหยวน มอบส่วนลดค่าอาหาร ค่าที่พักโรงแรม ตั๋วภาพยนตร์และกีฬา | กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ |
| อัดฉีดเม็ดเงิน 1.55 แสนล้านหยวนเพื่อช่วยเหลือคนจนและกลุ่มเปราะบาง จํานวน 4.74 ล้านคน | |
ตลาดหุ้น | ธนาคารกลางจีนจัดหาสภาพคล่องพิเศษให้ 5 แสนล้านหยวนผ่านการนำทรัพย์สินมาค้ำประกัน เพื่อให้บริษัทหลักทรัพย์ กองทุนและบริษัทประกันสามารถเข้าถึงเงินทุนเพื่อเอาไปซื้อหุ้น | สร้างเสถียรภาพให้ตลาดหุ้น และเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุน |
| จัดตั้ง Special re-lending Program 3 แสนล้านหยวน สำหรับบริษัทจดทะเบียน และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เพื่อนำไปซื้อหุ้นคืน | |
ตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นแรงต่อเนื่อง A-Shares +16.5%* และ H-Shares +19.8%** ด้านกองทุนหุ้นจีนของบลจ.กสิกรไทยได้อานิสงส์จากแรงบวกดังกล่าว
K-CHINA-A(A)
| 17.3%
|
K-CHINA-A(D) | 17.3% |
K-CCTV-A(A) | 12.1%
|
K-CHX | 14.8% |
ผลตอบแทนกองทุน ช่วง 24 - 30 ก.ย. 2024 (K-CHINA ปิด 1 ต.ค. ส่วน K-CCTV และ K-CHX ปิด 1 – 7 ต.ค.)
*ผลตอบแทนดัชนี A-Shares ช่วง 24 - 30 ก.ย. 2024 (ตลาดหุ้นจีน A-Shares ปิดทำการ 1 – 7 ต.ค. เนื่องในวันชาติจีน)
**ผลตอบแทนดัชนี H-Shares ช่วง 24 - 2 ต.ค. 2024 (ตลาดหุ้นจีน H-Shares ปิดทำการ 1 ต.ค. เนื่องในวันชาติจีน)
มุมมองและคำแนะนำการลงทุน จาก KAsset Investment Strategy
ในระยะสั้น มองว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้จาก momentum และความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งภายในประเทศและต่างชาติ อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นในช่วงแรกของดัชนีจะเป็นการปรับตัวขึ้นที่มาจาก P/E และยังไม่ได้มาจาก EPS หรือกำไรของบริษัทจดทะเบียน จึงทำให้ตลาดหุ้นมีความผันผวนมาก และมีโอกาสปรับลดลงหากมาตรการไม่ได้ส่งผลไปสู่เศรษฐกิจจริง
ในระยะกลางถึงยาว เรายังคงมุมมอง Underweight ต่อตลาดหุ้นจีนจนกระทั่งเราได้เห็นว่ามาตรการต่างๆได้ทำให้เศรษฐกิจและภาคอสังหาริมทรัพย์ สามารถฟื้นตัวได้อย่างแท้จริง
สำหรับผู้ที่มีสัดส่วนในหุ้นจีนน้อย/ยังไม่มี: ถือต่อ/เข้าลงทุนได้
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาสร้าง Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นจีน ซึ่งมีแนวโน้มจะส่งผลดีต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง สามารถถือต่อ/เข้าลงทุน เพื่อรอรับประโยชน์จากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นจีน
สำหรับผู้ที่มีเยอะ: ลดสัดส่วนไปกระจายการลงทุนผ่าน Core-Sat Portfolio
ใช้โอกาสช่วงที่ตลาดปรับขึ้น พิจารณาลดสัดส่วนไปเข้ากลุ่มกองทุน K-WealthPLUS Series (ในส่วน Core Portfolio) หรือว่าหุ้นโลก อินเดีย เวียดนาม และไทย (ในส่วนของ Satellite Portfolio)
ที่มา: KAsset Investment Strategy บลจ.กสิกรไทย ข้อมูล ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2567
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่
www.kasikornasset.com / กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้