ตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงหนักในวันจันทร์ที่ 10 มี.ค. 2025 จากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยที่รุนแรงขึ้นหลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ

• ดัชนี Nasdaq -4.00% นับเป็นการลดลงมากที่สุดในรอบกว่าสองปี

• ดัชนี Dow Jones -2.08%

• ดัชนี S&P500 -2.70%

 

• เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 มี.ค.) ประธานาธิบดีทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับ Fox News และถูกถามเกี่ยวกับโอกาสที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้

• ทรัมป์ไม่ได้ปฏิเสธว่า นโยบายที่ทำในปัจจุบัน จะไม่เกิดเศรษฐกิจถดถอย

• โดยเขาตอบว่า "สหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน (Transition) ทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มกำแพงภาษีและปรับโครงสร้างกฎระเบียบทางธุรกิจ"

• เขายังกล่าวอีกว่า มาตรการทางเศรษฐกิจของเขาอาจสร้างผลกระทบระยะสั้น แต่ยืนยันว่า "เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะแข็งแกร่งขึ้นในระยะยาว"

• นักลงทุนมองว่าคำพูดของทรัมป์สะท้อนถึง ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีนี้ ทำให้ตลาดเกิดความตื่นตระหนก และเกิดแรงเทขายอย่างหนัก

 

• ดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวลงแรง 4%

• หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่อื่น ๆ ก็ร่วงลงเช่นกัน โดย Apple (AAPL) และ Microsoft (MSFT) ปรับตัวลดลง มากกว่า 3%

• หุ้นธนาคารได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่น Morgan Stanley (MS) ลดลง 6.4% และ Goldman Sachs (GS) ลดลง 5%

• ความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยและเศรษฐกิจถดถอยทำให้นักลงทุนลดการถือครองหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงิน

 

• สายการบินและธุรกิจท่องเที่ยว ร่วงหนัก เนื่องจากการคาดการณ์ว่าผู้บริโภคจะใช้จ่ายน้อยลง

• Delta Airlines (DAL) ได้ปรับลดประมาณการรายได้และกำไร เนื่องจากแนวโน้มความต้องการเดินทางลดลง

• นักลงทุนแห่เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ลดลง

 

KAsset มองว่า โอกาสที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอย Recession หรือแม้แต่ Stagflation ถึงแม้ว่าจะเพิ่มขึ้นจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและนโยบาย แต่ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ต่ำ 

ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ อาจจะชะลอตัวลงน่าจะยังไม่ถึงกับติดลบในไตรมาส 1 ปี 2025 ตลาดแรงงานยังคงมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเกณท์ที่ดี และอัตราว่างงานยังคงต่ำ Fed ยังคงสามารถลดดอกเบี้ยได้หากจำเป็นเพราะว่าในรอบนี้ สินเชื่อของภาคธุรกิจยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ งบดุลของบริษัทในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง ทำให้เราคาดว่า จะเป็นสถานการณ์ที่เศรษฐกิจชะลอตัว มีมากกว่าโอกาสที่จะเกิดเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง

อย่างไรก็ดี การที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก มาจากความคาดหวังในเชิงนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ในเรื่องของ นโยบาย American First, ภาษีนำเข้า และ US exceptionalism ที่ค่อนข้างสูง และอาจมองข้ามผลลัพธ์จากนโยบายในช่วงแรก ว่าจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง เรามองว่าตลาดหุ้นกำลังปรับความคาดหวังให้ใกล้เคียงกับสิ่งที่ผลลัพธ์จากนโยบายของรัฐบาลทรัมป์ จึงเกิด Correction ขึ้น 

ในสถานการณ์ที่ตลาดผันผวนและปรับตัวลง ทาง KAsset ได้มีการปรับลดมุมมองหุ้นสหรัฐฯลงมาแล้ว จาก Overweight  เป็น Slightly Overweight ตามที่สื่อสารไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากเรามองว่าหุ้นสหรัฐฯอาจเผชิญความผันผวนจากนโยบายของทรัมป์ และเห็นว่าประเทศอื่นๆ มีการเติบโตของกำไรที่เพิ่มขึ้น และน่าสนใจกว่าหุ้นสหรัฐฯโดยรวม 

สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้มาก เป็นโอกาสในการสะสม กองทุนประหยัดภาษี 

K-WPBAL-RMF K-WPSPEED-RMF และ K-WPULTI-RMF​  ที่มีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก

สำหรับผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงลดมาบ้าง แนะนำ

K-FIXEDPLUS กองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ดูเรชั่น 2-4 ปี ที่ลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ ในช่วงที่ดอกเบี้ยโลกและไทย กำลังอยู่ในวัฏจักรขาลง จะเป็นปัจจัยสนับสนุนกองทุนตราสารหนี้

สำหรับลงทุนระยะยาวเป็น Core Portfolio แนะนำกองทุนผสม 

K-WPBALANCED K-WPSPEEDUP และ K-WPULTIMATE​ ที่มีการกระจายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก ​