
Highlights :
• ตัวเลขเศรษฐกิจจีน เดือน ม.ค.-ก.พ. 2025 ฟื้นตัวได้ดีเกินคาด และรัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ
• KAsset มีมุมมองต่อตลาดหุ้นจีนดีขึ้น หลังจากเห็นแนวโน้มการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีของรัฐบาลจีนที่ชัดเจน
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ของเดือนม.ค.-ก.พ. 2025 ในวันนี้ (17 มี.ค.)
• ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม: ขยายตัว 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลงจาก 6.2% ในเดือนธันวาคม แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 5.3%
• ยอดค้าปลีก: เพิ่มขึ้น 4.0% จากปีก่อนหน้า สูงกว่า 3.7% ในเดือนธันวาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยเฉพาะใน Segment ของ E-commerce เพิ่มขึ้นถึง 7.3%
• การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร: ขยายตัว 4.1% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.2% แต่มาจากการลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีที่มากขึ้น
• ราคาบ้าน (กุมภาพันธ์) : ยังคงปรับตัวลง 4.8% จากปีที่แล้ว ราคาบ้านอาจจะดูมีเสถียรภาพและปรับลดน้อยลงแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ส่งสัญญาณฟื้นตัว
รัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคภายในประเทศ
คณะมนตรีรัฐกิจ (State Council) และคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ออก “แผนปฏิบัติการฟื้นฟูการบริโภค” เพื่อเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการบริโภคภายในประเทศ โดยมุ่งเน้นที่ การเพิ่มรายได้ของประชาชน การปรับปรุงศักยภาพการบริโภค การยกระดับคุณภาพบริการ และการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการบริโภค
มาตรการที่ 1 :
ส่งเสริมการเติบโตของรายได้ในเมืองและชนบท เพื่อเพิ่มกำลังซื้อของประชาชน รัฐบาลได้กำหนดแนวทาง เช่น
1. เพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ ในระดับภูมิภาค
2. ขยายโครงการจ้างงานผ่านงานสาธารณะ (work-relief programs) เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงาน
3. จัดการปัญหาค่าจ้างค้างจ่ายสำหรับธุรกิจ SMEs เพื่อลดปัญหาลูกจ้างไม่ได้รับค่าตอบแทน
นอกจากนี้ ยังมี มาตรการเพิ่มช่องทางรายได้จากสินทรัพย์ (Property Income) ได้แก่
1. รักษาเสถียรภาพของตลาดหุ้น และส่งเสริมการลงทุนระยะยาว
2. ผ่อนคลายข้อจำกัดในการเข้าถึงตลาดทุน สำหรับนักลงทุนระยะยาว
3. บริหารจัดการมูลค่าตลาดของรัฐวิสาหกิจจีน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน
มาตรการที่ 2 :
เพิ่มศักยภาพการบริโภค รัฐบาลมุ่งเน้นเพิ่มกำลังซื้อของประชาชนผ่านสวัสดิการและโครงการสนับสนุน เช่น เพิ่มเงินอุดหนุนด้านการดูแลเด็ก และ เพิ่มเงินบำนาญให้กับประชาชนในปี 2025
มาตรการที่ 3 :
ยกระดับการบริโภคภาคบริการ เช่น ปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานสำหรับผู้สูงอายุ เช่น การพัฒนาบริการดูแลที่บ้าน หรือ ออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อ กระตุ้นภาคการท่องเที่ยว
มาตรการที่ 4 :
ยกระดับการบริโภคสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น สนับสนุนโครงการนำของเก่ามาแลกใหม่ทั่วประเทศ เช่น รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อัจฉริยะ และ พัฒนาตลาดสินค้ามือสอง
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ เช่น การปรับปรุงคุณภาพการบริโภค เช่น พัฒนาแบรนด์ “China Service” เพื่อยกระดับมาตรฐานบริการ และ ส่งเสริมผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม (Cultural IP Products) เพื่อดึงดูดตลาดภายในและต่างประเทศ หรือมีการใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเช่น พัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโดรน
มุมมองการลงทุน
KAsset มีมุมมองต่อตลาดหุ้นจีนที่ดีขึ้น โดยได้มีการปรับมุมมองจีนขึ้นมาจาก Slightly Underweight มาเป็น Neutral หลังจากเห็นแนวโน้มการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีของรัฐบาลจีนที่ชัดเจน และการเติบโตของกำไรในหุ้นกลุ่มเทคฯ ทำให้เรามองว่าในระยะสั้น ตลาดหุ้น H-shares น่าจะได้รับผลประโยชน์จากกระแส AI เนื่องจากมีสัดส่วน Software Tech ที่สูงกว่า A-shares อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวคาดว่าหุ้น A-shares น่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการสนับสนุนของรัฐบาล ในขณะเดียวกัน กำไรบริษัทจดทะเบียนใน H-Shares มีแนวโน้มทรงตัว ไม่ได้ถูกปรับลงแล้ว ต่างจาก A-Shares ที่นักวิเคราะห์ยังมีการปรับประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียน A-Shares ลง
"ตลาดหุ้นจีน ในขณะนี้ยังได้การสนับสนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจ และตัวเลขเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จับตามองว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนจะเข้ามาช่วยทำให้กำไรของบริษัทจดทะเบียนของจีนถูกปรับเพิ่มขึ้นได้หรือไม่"
คำแนะนำการลงทุน
สำหรับนักลงทุนที่มีสัดส่วนหุ้นจีนน้อยกว่า 5% หรือยังไม่มี แนะนำ
•
K-CHX ลงทุนหุ้นจีน A-shares เพื่อให้ผลตอบแทนเป็นไปตามดัชนี FTSE China A50
•
K-CHINA ที่มีการลงทุนในทั้งตลาด A-shares และ H-shares โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่ม Information Technology และ
Communication services ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนของรัฐบาล
สำหรับนักลงทุนที่มีสัดส่วนหุ้นจีนในพอร์ตมากแล้ว แนะนำใช้โอกาสช่วงที่ตลาดปรับตัวขึ้น ทยอยลดสัดส่วนหุ้นจีนไปยังกองทุนรวมผสม
ที่มา: KAsset Investment Strategy บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 17 มีนาคม 2025
คำเตือน ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่
www.kasikornasset.com