คณะกรรมการ FOMC มีมติเอกฉันท์
คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.25-4.50% ในการประชุมเดือน พ.ค. 2568
สรุปถ้อยแถลงของ Fed ดังนี้
- กิจกรรมเศรษฐกิจยังขยายตัวแข็งแกร่ง แม้ยอดส่งออกสุทธิมีความผันผวน
- ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง อัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ
- เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง
- แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนมากขึ้น
- Fed เริ่มประเมินความเสี่ยง “Stagflation” คือ เงินเฟ้อและการว่างงาน อาจปรับตัวสูงขึ้นพร้อมกัน
'Fed ส่งสัญญาณจะประเมินข้อมูลเศรษฐกิจในระยะต่อไป เพื่อพิจารณาทิศทางในการดำเนินนโยบายการเงิน'
มุมมองการลงทุน
ในกรณีฐาน เราคาดว่า Fed จะปรับลดดอกเบี้ย 2-3 ครั้งในปีนี้ โดยมีแนวโน้มจะรักษาสมดุลของเป้าหมายทั้งสองด้าน (การจ้างงานเต็มที่และเสถียรภาพของเงินเฟ้อ) อย่างระมัดระวัง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายภาษีนำเข้า อย่างไรก็ตาม หากตลาดแรงงานส่งสัญญาณชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ การผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมก็ยังคงเป็นไปได้ ซึ่งเป็นผลบวกต่อการลงทุนในตราสารหนี้ และการถือครองตราสารหนี้จะช่วยลดความผันผวนของพอร์ตในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวนได้
กองทุนตราสารหนี้ แนะนำจากกสิกรไทย
K-SF : ลงทุนระยะสั้น 1-3 เดือน สำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงและอยากพักเงินระยะสั้น เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก
K-SFPLUS : ลงทุนระยะสั้น 3-6 เดือน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ผ่านการลงทุนในต่างประเทศ
K-FIXEDPLUS : ลงทุนอย่างน้อย 1-1.5 ปี กองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว ดูเรชั่น 2-4 ปี ที่ลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ
K-FIXED : ลงทุนอย่างน้อย 1-1.5 ปี กองทุนตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว ดูเรชั่น 2-4 ปี ลงทุนในไทยเท่านั้น (Morningstar 4 ดาว ณ 31 มี.ค. 2025)
ที่มา: KAsset Investment Strategy บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 8 พฤษภาคม 2025
คำเตือน ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่
www.kasikornasset.com