
เมื่อปีนี้เป็นปีที่ LTF จะครบอายุทั้งหมดแล้ว หลายคนคงสงสัยว่าจะต้องเดินหน้าต่อไปอย่างไรดี จะตัดสินใจขาย หรือถือต่อไป ? วันนี้เราจะชวนทุกคนไปหาคำตอบที่เหมาะกับตัวเองกัน
โดยหากมองย้อนกลับไปได้เกิดเหตุการณ์ที่เราไม่อาจคาดเดาได้เลย ซึ่งเข้ามากระทบกับภาพรวมการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
GDP ของไทยในไตรมาส 4 ขยายตัวอยู่ที่ 3.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยได้รับแรงขับเคลื่อนจากภาคเอกชนและการส่งออก แต่ก็ยังถือว่ามีการขยายตัวต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้
นโยบายของ ทรัมป์
จากที่ทรัมป์ประกาศว่าจะใช้มาตรการภาษีกับหลายประเทศ อย่างแคนาดากับเม็กซิโกก็จะโดนขึ้นภาษี 25% และแม้ไทยจะยังไม่โดนขึ้นภาษี แต่ก็ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ อยู่
ด้วยสถานการณ์ที่ผ่านมาอาจทำให้ผลตอบแทนของ LTF ไม่ได้หวือหวามากนัก จนทำให้หลายคนสงสัยว่า ควรรับมือต่อไปอย่างไร ในวันที่ LTF ครบกำหนดแล้ว และยังต้องเสียภาษีอยู่ ดังนั้น มาเริ่มต้นเช็กไปพร้อม ๆ กัน
เมื่อรู้ว่า LTF ที่เราซื้อนั้นครบกำหนดในปีนี้แล้ว แนะนำว่าให้ ดูภาพรวมพอร์ตการลงทุนของตัวเอง ว่ามีสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ หรือภูมิภาคไหนมากที่สุด เมื่อรู้แล้วก็มีทางเลือกให้เดินหน้า 2 ทางด้วยกัน คือ
เส้นทางที่ 1 : คนที่มีสัดส่วนหุ้นไทยน้อย
แนะนำว่ายังไม่ต้องทำอะไรให้ถือต่อไปก่อนอีกสักระยะหนึ่ง แล้วรอจังหวะที่สถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ความชัดเจนของนโยบายทรัมป์ หรือสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยเริ่มกลับมาดีขึ้นก่อน แล้วค่อยขายออก ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีได้
เส้นทางที่ 2 : คนที่มีสัดส่วนหุ้นไทยเยอะ
สำหรับคนที่ 'ขาดทุนจำนวนมาก' สามารถถือต่อไปก่อนได้ หรือจะขายออกบางส่วน โดยเหลือสัดส่วนหุ้นไทยไว้ไม่เกิน 5% แล้วมองหาทางเลือก เพื่อกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคอื่นๆ ด้วยกองทุนลดหย่อนภาษี อย่าง RMF หรือ ThaiESG เพิ่มเติม
ส่วนคนที่ 'ขาดทุนน้อย และระหว่างลงทุนได้กำไร' รวมถึงสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนไปบ้างแล้วอาจจะพิจารณาขายออก แล้วนำไปลงทุนต่อในกองทุนลดหย่อนภาษีต่อได้ตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นกองทุน RMF ที่มีนโยบายการลงทุนให้เลือกหลากหลาย หรือกองทุน ThaiESG ที่ลงทุนในหุ้นไทยที่เน้นด้านความยั่งยืน
หลังจากที่ทุกคนได้ทำความเข้าใจสถานการณ์และมองเห็นทางเลือกที่สอดคล้องกับแผนการเงินของตัวเองแล้ว เชื่อเลยว่าจะช่วยให้เดินหน้าไปสู่เป้าหมายด้านการเงินได้ตามที่คาดหวังเอาไว้ โดยเฉพาะในยุคที่มีความท้าทายเกิดขึ้นตลอดเวลา
สำหรับใครที่มองหากองทุนลดหย่อนภาษี หรืออยากเปลี่ยนจาก LTF ที่ครบกำหนดอายุแล้ว มาเป็นกองทุน RMF หรือ กองทุน ThaiESG ทาง KAsset ก็มีโปรโมชันพิเศษ ที่ขยายเวลา ตั้งแต่วันนี้ -31 มี.ค.68
ที่มา: บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 5 มีนาคม 2568
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
LTF ยังมีหวัง หรือไม่? >>อ่านต่อ
เทรนด์ AI โอกาสลงทุนปี 2025 >>อ่านต่อ
รับมืออย่างไร? ในวันที่ไม่มี SSF >>อ่านต่อ
จัดการเงินโบนัส ให้ชนะเงินเฟ้อ >>อ่านต่อ
คำเตือน *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บลจ.กสิกรไทยกำหนด กองทุนนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน