นาทีนี้ลงทุนหุ้นไทยอย่างเดียวไม่พอ ต้องเสริมพอร์ตต่อด้วยกองทุนหุ้นจีนมาแรงแห่งปี
กับ K-CHINA
จากกสิกรไทย
ที่เน้นลงทุนหุ้นจีนยักษ์ใหญ่ชั้นนำ อย่าง Tencent,
Alibaba, Meituan,Pinduoduo และลงทุนครอบคลุมทุกตลาดสำคัญทั่วโลก
(All
China) ทั้ง
A-shares,
H-shares, ADR ผ่านกองทุนหลัก
JPMorgan
Funds - China Funds, Class JPM China I (acc) -
USD ที่ผลการดำเนินงานโดดเด่นติดอันดับ
5 ดาว Morningstar
และ
Top
10 ของโลก
(ข้อมูล ณ 31 ธ.ค. 63) เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น K-CHINA
มาพร้อมนโยบายจ่ายปันผล
ที่จ่ายมาตลอด 8 ปี ไม่ขาด
พิเศษ! รับยุคดิจิทัล
ลดค่าธรรมเนียมการซื้อ 50% ทันที เมื่อซื้อผ่านทางออนไลน์ ได้ทั้ง K
PLUS, K-My Funds และ
K-Cyber
Invest ตั้งแต่
8 ก.พ.
-15
มี.ค. 64 เท่านั้น ดูข้อมูลกองทุน เพิ่มเติมคลิก
ตลาดหุ้นจีนกำลังมาแรง
และเป็นเป้าหมายการลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก เวลานี้ถ้าอยากเพิ่มผลตอบแทนให้พอร์ต
ต้องขยับออกไปลงทุนในจีน
ยิ่งเริ่มเร็วยิ่งได้เปรียบ
üในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีน
MSCI
China
ปรับบวกสูงถึง 29%
นำหน้าตลาดหุ้นโลก และตลาดหุ้นเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ที่ปรับบวกได้
16%,
25% ตามลำดับ
(ที่มา
Morningstar
1 ม.ค.
- 31 ธ.ค. 2563)
üเศรษฐกิจจีนยังเติบโตได้อีกมาก
โดย IMF
ประมาณการการเติบโตทางเศรษฐกิจปี2564
นำโดยจีนจะโตถึง 8.1% ในขณะที่สหรัฐฯ โต 5.1% และยูโรโซนโต 4.2%
เมื่อเทียบกับไทยที่โต 2.7%
üจีนก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีแห่งใหม่ของโลกและยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมากจากนวัตกรรมใหม่ๆ
ทำให้หุ้นในกลุ่มนี้มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จีนตั้งเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจเบอร์
1 ของโลก โดยเน้นหนักในการพัฒนาอุตสาหกรรม New
Economy 3
ด้าน ได้แก่ 1.เทคโนโลยี 2.การแพทย์ 3.สินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงสินค้าฟุ่มเฟือย
นอกจากนี้กลุ่มชนชั้นกลางของจีนกว่า
700 ล้านคน หรือคิดเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งประเทศ* มีฐานะที่ดีขึ้น
และมีกำลังซื้อมหาศาล
นิยมบริโภคสินค้าที่ผลิตในประเทศ พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบาย “จีนทำ
จีนใช้ จีนเติบโต”
อีกทั้งรัฐบาลจีนมีนโยบายที่ชัดเจนในเรื่องลดการพึ่งพาจากต่างชาติ
เช่น ลดการส่งออกและหันมาเน้นเรื่องการเพิ่มรายได้ การบริโภคภายในประเทศ
และเน้นการใช้เทคโนโลยีมาสร้างความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ
Øการลงทุนในกองทุนหุ้นจีนช่วงนี้
ราคาหุ้นมีความน่าสนใจและยังไม่สูงมาก มีโอกาสทำกำไรได้อีกในยาว
เป็นจังหวะดีในการเข้าลงทุน
*ข้อมูลประชากรในปี 2561: https://chinapower.csis.org/china-middle-class/
กองทุน K-CHINA
จากกสิกรไทย
ลงทุนครอบคลุมตลาดหุ้นจีนทุกตลาดที่สำคัญ
(All
China) เพื่อหาโอกาสทำกำไรจากทั่วโลก
และช่วยกระจายความเสี่ยง
1. A-shares
บริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นจีนแผ่นดินใหญ่
(ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นเซินเจิ้น)
2. H-shares
บริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง
3. ADR บริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
4. Red-chips
บริษัทจีนที่รัฐบาลจีนเป็นผู้ถือหุ้น
จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง
5. P-chips
บริษัทจีนที่เอกชนเป็นผู้ถือหุ้น
จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง
โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก JPMorgan
Funds – China Fund, Class JPM China I (acc) -
USD ที่มีความโดดเด่น
ดังนี้
•ผลตอบแทนติดอันดับ
5 ดาว Morningstar*
และติดอันดับ Top 10 ของโลก**
•ได้รับความนิยมสูงมีขนาดกองทุนเติบโตกว่า
208 %
ในช่วง
7 เดือนที่ผ่านมา***
Øกองทุน
K-CHINA
ยังมีการจ่ายปันผลอย่างสม่ำเสมอตลอด 8 ปีที่ผ่านมา
รวม 4.55 บาทต่อหน่วย
(ข้อมูลการจ่ายปันผลตั้งแต่ปี
2556-2563)
ดูรายละเอียด เพิ่มเติมคลิก
กองทุน K-CHINA
สามารถทำผลการดำเนินงานกลับมาเอาชนะดัชนีชี้วัดตั้งแต่เปลี่ยนกองทุนหลัก ได้ทันทีในช่วง 3 เดือน
*K-CHINA
เปลี่ยนกองทุนหลักเป็น JPMorgan Funds – China Fund, Class JPM China I
(acc) -
USD เมื่อเดือนพฤศจิกายน
2563 โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่
10 กุมภาพันธ์ 2564
ดังนี้
3
เดือน 32.21% , 6
เดือน
34.90% , 1
ปี
(ต่อปี)
30.71% , 3
ปี
(ต่อปี) 6.36% , 5 ปี
(ต่อปี)
14.92%
, 10
ปี
(ต่อปี) 7.67%
และตั้งแต่จัดตั้ง
(ต่อปี)
6.95%
เทียบกับดัชนีชี้วัด 21.63% , 35.86% , 52.40% , 14.83% , 20.93% , 10.89% และ
9.80% ตามลำดับ
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติม
กองทุนหลักเน้นลงทุนหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่
ที่เป็นผู้ชนะในตลาด มีชื่อเสียงและมีความมั่นคง ที่สามารถฝ่าฟันวิกฤตโควิด-19 มาได้
และมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมาก เช่น
1. Tencent เจ้าของ
Application
WeChat ที่มีคนใช้บริการมากกว่า
1 พันล้านคน และยังทำธุรกิจเกมออนไลน์ เพลง และภาพยนตร์
2. Alibaba
Group บริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีธุรกิจหลายด้าน
เช่น E-commerce,
Cloud Service, Fintech, Smart Supermarket
3. Meituan เจ้าของแอปฯ
สั่งอาหารครบวงจรในจีน ที่เคยทำยอดได้สูงถึง 40 ล้านออเดอร์ต่อวันมาแล้ว
4. Ping
An Insurance บริษัทประกันใหญ่ที่สุดในจีน
และถูกจัดอันดับ Top brand บริษัทประกันระดับโลก 5 ปีติดต่อกัน
5. Wuxi Biologics
ผู้ผลิตและวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพ
และมีส่วนสำคัญในการพัฒนายาแนวใหม่ (Innovative
drug)
6. Pinduoduo บริษัทขายสินค้าออนไลน์อันดับ
3 ของจีน เป็นรอง Alibaba แค่ 3% เท่านั้น
7. NetEase เจ้าของเกมชื่อดัง
Identity
V และเป็นผู้จัดการแข่งขัน
Esports อย่าง
Top
Clans 2020
8. New
Oriental Education & Technology Group ติวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน
รายได้และกำไรมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
พอร์ตการลงทุนของกองทุนหลักเน้นลงทุนในธุรกิจกลุ่ม
New
Economy
ที่ตอบโจทย์กับกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศจีน
รวมถึงมีการใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนธุรกิจ
üเน้นหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภค
บริโภค รวมถึงสินค้าฟุ่มเฟือย ที่มีการซื้อ-ขายผ่านทางออนไลน์หรือ
E-Commerce
üหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและที่เกี่ยวข้อง
เช่น เกม ซอฟต์แวร์
üหุ้นกลุ่มการสื่อสาร
üหุ้นกลุ่มการแพทย์
เน้นการวิจัยและพัฒนา
üหุ้นกลุ่มการเงินที่มีความมั่นคง
ที่มา: ข้อมูลกองทุนหลัก ณ วันที่ 31 ธันวาคม
2563
สนใจลงทุนกองทุน K-CHINA
ผ่านช่องทางออนไลน์
ทั้ง K
PLUS, K-My Funds
และ K-Cyber
Invest
Øรับส่วนลดค่าธรรมเนียมการซื้อ
50%
ทันที
จาก 1.50%
เหลือเพียง
0.75%
ระหว่างวันที่ 8 ก.พ. – 15 มี.ค. 64 นี้เท่านั้น ดูข้อมูลกองทุน เพิ่มเติมคลิก
*JPMorgan
Funds – China Fund, Class JPM China C (acc) -
USD ติดอันดับ
5 ดาว ณ วันที่ 31 ธ.ค. 63 ซึ่งมีนโยบายการลงทุนแบบเดียวกับ Class
I ที่
K-CHINA
ลงทุนทุกประการ
**JPMorgan
Funds – China Fund, Class JPM China I (acc) -
USD ที่
K-CHINA
ลงทุน
ติด Top
10 เทียบในกลุ่ม
Morningstar
Category EAA OE China Equity ณ 31 ธ.ค. 63
***ข้อมูล Morningstar
ณ
21 ม.ค. 64
• K-CHINA,
K-CCTV และ
K-CHX ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า
75%
เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
• ผลการดำเนินงานในอดีต
มิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
• ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า
เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
• สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่
ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา