กองทุนแนะนำ

K-SFPLUS

ลงทุนตราสารหนี้ระยะสั้น
ความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง

Icon

ดอกเบี้ยไทยและโลกเข้าใกล้จุดสูงสุดแล้ว

แม้ว่า Fed จำเป็นต้องคงดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงอีกระยะหนึ่ง แต่การปรับขึ้นของ Bond Yield น่าจะจำกัดมากขึ้น

Icon

ความผันผวนลดลง ตลาดเริ่มเข้าสู่ ภาวะปกติมากขึ้น

ทั้งนี้อาจมีความผันผวนได้บ้างตาม Event Risk เช่น เงินเฟ้อสูงยาวนานกว่าคาด, ปัญหาด้านภูมิรัฐศาสตร์, การปรับเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลาง

Icon

การลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชนยังเป็นทางเลือก
ที่จะให้ผลตอบแทนเพิ่มเติม

จากส่วนต่างด้านเครดิต และยังมีความมั่นคงภายใต้
ความเสี่ยงการผิดชำระหนี้ที่ต่ำ เนื่องจากตลาดคาดว่า
เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ในระยะข้างหน้า

Icon

ทางเลือกที่ดีในการกระจายความเสี่ยง

ในภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง

ทำไมต้อง K-SFPLUS กสิกรไทย

เน้นลงทุนตราสารหนี้ไทยคุณภาพดีระยะสั้น เฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี และเปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นผ่านการลงทุนในต่างประเทศ

ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน K-SFPLUS

K-SFPLUS

ต้นปีถึง
ปัจจุบัน
0.46%
3 เดือน
0.33%
6 เดือน
0.62%
1 ปี (ต่อปี)
0.98%
3 ปี (ต่อปี)
0.72%
5 ปี (ต่อปี)
1.05%
ตั้งแต่จัดตั้ง
(ต่อปี)
1.19%

ดัชนีชี้วัด

ต้นปีถึง
ปัจจุบัน
0.56%
3 เดือน
0.29%
6 เดือน
0.76%
1 ปี (ต่อปี)
-1.94%
3 ปี (ต่อปี)
-0.44%
5 ปี (ต่อปี)
0.41%
ตั้งแต่จัดตั้ง
(ต่อปี)
0.75%

• ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 66 • กองทุนจัดตั้งเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 59 • ดัชนีชี้วัด ค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนรวมของดัชนีพันธบัตรที่มีอายุคงที่ (ZRR) อายุประมาณ 6 เดือน (35%) อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงินน้อยกว่า 5 ล้านบาท เฉลี่ยของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หลังหักภาษี (35%) ดัชนี US Generic Government 6 Month Yield บวกด้วยค่าเฉลี่ยของ Credit Spread ของตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ ในระดับ BBB อายุ 6 เดือน ในช่วงระยะเวลาที่คำนวณผลตอบแทน ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยง ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อเทียบเป็นสกุลเงินบาท ณ วันที่คำนวณผลตอบแทน (25%) และผลตอบแทนรวม ของดัชนีตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอายุคงที่ มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ BBB อายุ 1 ปี (5%) • ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันอนาคต

ตัวอย่างสินทรัพย์ที่กองทุน K-SFPLUS ลงทุน

ข้อมูล ณ วันที่ 28 เม.ย. 66
Icon
ธนาคารแห่งประเทศไทย
Icon
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
Icon
Qatar National Bank
Icon
บมจ.ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
Icon
บมจ.ปตท.

ทีมบริหารมีประสบการณ์สูง ในตลาดตราสารหนี้ไทย
และได้รับรางวัลชั้นนำทั้งในไทยและสากล

รางวัล Top Investment Houses in Asian Local Currency Bond (8 ปีซ้อน)
จากงาน The Asset Benchmark Research Awards 2021
รางวัล Most Prominent Fund House in Corporate Bond Market (5 ปีซ้อน)
จากงาน ThaiBMA Best Bond Awards 2021
รางวัล Best Fund Domestic Fixed Income
จาก Morningstar Fund Awards House 2022

เปรียบเทียบกองทุน K-SFPLUS กับกองทุนอื่นๆ

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับการลงทุนในตราสารหนี้

เงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ/เอกชน ทั้งในไทยและต่างประเทศ

ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และ ตั๋วเงินคลัง ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ และตั๋วแลกเงิน

จากดอกเบี้ยเมื่อถือตราสารหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด (Coupon) และ กำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain)

มีโอกาสขาดทุนได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคา เนื่องจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ สิ้นวัน (NAV) จะต้องปรับมูลค่าอ้างอิงตามราคาตลาด (Mark to Market) ดังนั้นเมื่อราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง จะส่งผลต่อราคา NAV ที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม หากถือกองทุนจนถึงระยะเวลาที่แนะนำก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง เช่น กองทุนตราสารหนี้ ระยะกลางถึงยาว ควรถือกองทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพื่อลดความผันผวน

อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน

ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย

ความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ โดยตราสารหนี้ที่ Credit Rating สูง จะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ (เรียงอันดับตั้งแต่จากสูงสุด AAA ไป ต่ำสุด D) โดยเป็นการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ซึ่งในประเทศไทยมี 2 แห่งคือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ต่ำกว่า โดยมีระดับความเสี่ยง 4 เปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นที่ระดับ 6

เกี่ยวกับกองทุน K-SFPLUS

นโยบายการลงทุนคล้ายกัน แต่ K-SFPLUS สามารถลงทุนในต่างประเทศได้มากกว่า คือไม่เกิน 79% ขณะที่ K-SF ลงทุนได้ไม่เกิน 50% โดยทั้ง 2 กองทุน จะป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ

เกี่ยวกับการเริ่มต้นลงทุน

สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย

  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ KBank และมีแอป K PLUS แล้ว กดเปิดบัญชีผ่านเมนู “ลงทุน” ได้เลย
  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ SCB, KTB เลือกเปิดบัญชีกองทุนผ่าน K-My Funds

สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา

K PLUS และ K-My Funds สามารถทำรายการซื้อ-ขาย กองทุนรวมของ กองทุนรวมของ KAsset ได้ทั้ง 2 แอปพลิเคชัน

K-My Funds เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับกองทุนรวมโดยเฉพาะ ดังนั้นจะมีข้อมูลและฟังก์ชันเชิงลึกมากกว่า เช่น พอร์ตการลงทุนแนะนำตามความเสี่ยง การแจ้งเตือนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกองทุนที่ถืออยู่ และการปรับพอร์ตลงทุน พร้อมทั้งยังมี โปรแกรมช่วยคำนวณภาษี และ การแสดงยอดเงินลงทุนกองทุน RMF/SSF/LTF รายปี เป็นต้น

K PLUS ช่วยรวบรวมข้อมูลการลงทุนของคุณใน app เดียว ทั้งเงินฝาก กองทุน และหุ้น และยังมีฟังก์ชันช่วยวางแผนการลงทุนผ่าน Wealth Plus บริการช่วยวางแผนการลงทุนส่วนตัว โดยจะช่วยกำหนดเป้าหมายการลงทุน ช่วยเลือกกองทุนที่พิจารณาแล้วว่ามีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดี มีโอกาสทำกำไร และมีความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของแผนการลงทุนที่เลือก ทั้งยังคอยดูแลแผนการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายตลอดเวลาอีกด้วย

• การลงทุนในตราสารหนี้อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
• ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
• สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ www.kasikornasset.com