ในภาวะที่เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูง
ด้วยกองทุนตราสารหนี้ไทย ที่บริหารโดยทีมที่มีรางวัลรับ
ประกัน
จากตราสารที่ครบกำหนดจะนำไปลงทุนต่อในตราสารที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงขึ้น
โอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก
ความเสี่ยงต่ำ ซื้อ-ขาย ได้ทุกวันทำการ
ลงทุนเซฟ เน้นเงินต้นปลอดภัย
พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อลงทุนตามเงื่อนไข
ค่าเฉลี่ยของผลตอบแทนรวมของดัชนีพันธบัตรที่มีอายุคงที่ (ZRR) อายุประมาณ 6 เดือน (35%)
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปี วงเงิน
น้อยกว่า 5 ล้านบาท
เฉลี่ยของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ
ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ หลังหักภาษี (35%)
ดัชนี
US Generic Government 6 Month Yield บวกด้วยค่าเฉลี่ยของ Credit Spread
ของตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือในระดับ A อายุ 6 เดือน
ในช่วงระยะเวลาที่คำนวณผลตอบแทน
ปรับด้วยต้นทุนการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (25%)
และผลตอบแทนรวมของดัชนีตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอายุคงที่
มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ
A อายุ 1 ปี (5%) / ข้อมูล ณ วันที่ 30 ธ.ค.65
/
กองทุนจัดตั้งเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 56 / ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันอนาคต
นโยบายการลงทุน |
ลงทุนได้หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ แต่เน้นพันธบัตรไทย และเงินฝากทั้งในและต่างประเทศ |
ลงทุนได้หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ แต่เน้นพันธบัตรและหุ้นกู้ไทย และหาโอกาสเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนในเงินฝากต่างประเทศ |
เหมาะกับใคร | ผู้ที่ต้องการพักเงินระยะสั้นตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป | ผู้ที่ต้องการพักเงินตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป |
การลงทุนตราสารหนี้ที่อยู่ระดับต่ำกว่า Investment Grade | ไม่มี | ไม่มี (นโยบายสามารถลงทุนได้) |
อายุเฉลี่ยของตราสารหนี้ (ณ 30 ธ.ค. 65) | 0.27 ปี | 0.62 ปี |
เงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ/เอกชน ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และ ตั๋วเงินคลัง ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ และตั๋วแลกเงิน
จากดอกเบี้ยเมื่อถือตราสารหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด (Coupon) และ กำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain)
มีโอกาสขาดทุนได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคา เนื่องจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ สิ้นวัน (NAV) จะต้องปรับมูลค่าอ้างอิงตามราคาตลาด (Mark to Market) ดังนั้นเมื่อราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง จะส่งผลต่อราคา NAV ที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม หากถือกองทุนจนถึงระยะเวลาที่แนะนำก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง เช่น กองทุนตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว ควรถือกองทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพื่อลดความผันผวน
อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย
ความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ โดยตราสารหนี้ที่ Credit Rating สูง จะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ (เรียงอันดับตั้งแต่จากสูงสุด AAA ไป ต่ำสุด D) โดยเป็นการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ซึ่งในประเทศไทยมี 2 แห่งคือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ต่ำกว่า โดยมีระดับความเสี่ยง 4 เปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นที่ระดับ 6
มี เนื่องจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ สิ้นวัน (NAV) จะต้องปรับมูลค่าอ้างอิงตามราคาตลาด (Mark to Market) ดังนั้นเมื่อราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง จะส่งผลต่อราคา NAV ที่ลดลงด้วย ทั้งนี้ แนะนำควรถือกองทุนตามระยะเวลาที่แนะนำให้ลงทุน เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารพอร์ตให้ NAV ไม่ติดลบ (3 เดือนขึ้นไป)
อัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย และทิศทางการดำเนินนโยบายของธนาคารประเทศแกนหลักต่างๆ
สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย
สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
K PLUS และ K-My Funds สามารถทำรายการซื้อ-ขาย กองทุนรวมของ KAsset ได้ทั้ง 2 แอปพลิเคชัน
K-My Funds เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับกองทุนรวมโดยเฉพาะ ดังนั้นจะมีข้อมูลและฟังก์ชันเชิงลึกมากกว่า เช่น พอร์ตการลงทุนแนะนำตามความเสี่ยง การแจ้งเตือนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกองทุนที่ถืออยู่ และการปรับพอร์ตลงทุน พร้อมทั้งยังมี โปรแกรมช่วยคำนวณภาษี และ การแสดงยอดเงินลงทุนกองทุน RMF/SSF/LTF รายปี เป็นต้น
K PLUS ช่วยรวบรวมข้อมูลการลงทุนของคุณใน app เดียว ทั้งเงินฝาก กองทุน และหุ้น และยังมีฟังก์ชันช่วยวางแผนการลงทุนผ่าน Wealth Plus บริการช่วยวางแผนการลงทุนส่วนตัว โดยจะช่วยกำหนดเป้าหมายการลงทุน ช่วยเลือกกองทุนที่พิจารณาแล้วว่ามีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดี มีโอกาสทำกำไร และมีความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของแผนการลงทุนที่เลือก ทั้งยังคอยดูแลแผนการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายตลอดเวลาอีกด้วย
• K-SF-A และ K-SFPLUS กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100%
•
การลงทุนในตราสารหนี้อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
• ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
•
สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ www.kasikornasset.com