มูลค่าการส่งออกฟื้นตัวต่อเนื่อง จากยอดสั่งซื้อสินค้าจากกลุ่มประเทศหลักของโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะถัดไป
ธนาคารกลางเวียดนาม (SBV) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปแล้ว 4 ครั้ง ในปี 2023 รวม 1.5% และยังคงส่งสัญญาณดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป
การยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับญี่ปุ่น มาเป็น Comprehensive Strategic Partnership ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเช่นเดียวกับ จีน รัสเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ จะสนับสนุนเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (FDI) ให้เติบโตได้ดีขึ้นอีกในระยะถัดไป
ราคาหุ้นอยู่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี จึงมี Downside ที่ค่อนข้างจำกัด
ลงทุนตรงกับหุ้นเวียดนามชั้นนำ
ผลตอบแทนโดดเด่น
เอาชนะดัชนีชี้วัดทั้งระยะสั้น
และระยะยาว
ลงทุนระยะยาวกับหุ้นเวียดนาม โอกาสสะสมผลตอบแทนเพื่ออนาคต พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
ลงทุนหุ้นเวียดนามมาแรง โอกาสทำกำไรโตเพื่อวัยเกษียณ พร้อมได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
K-VIETNAM
ดัชนีชี้วัด
ผู้นำค้าปลีกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ เชี่ยวชาญทั้งผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เช่น โทรศัพท์มือถือ รวมถึงผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับครัวเรือน
บริษัทที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
หรือ Vietcombank ธนาคารพาณิชย์ของรัฐ ให้บริการผลิตภัณฑ์ทางการเงินครบวงจร
ธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์
บริษัทที่ผลิตเหล็กสำหรับก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างชั้นนำในเวียดนาม
ช่วง 3-5 ปีย้อนหลัง ในกลุ่ม Thailand OE Vietnam Equity
(ข้อมูล Morningstar ณ 30 ธ.ค. 66)
จากค่า Drawdown ที่น้อยกว่าค่าเฉลี่ยในกลุ่ม Thailand OE Vietnam Equity ช่วง 3-5 ปีย้อนหลัง
(ข้อมูล Morningstar ณ 30 ธ.ค. 66)
และมีประสบการณ์ในการลงทุนหุ้นเวียดนามมาอย่างยาวนาน
มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน รวมถึงได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามในระยะยาว
โดยปัจจุบันระดับราคาหุ้นอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี รวมถึงมีโอกาสเติบโตสูงจากการเตรียมถูกปรับสถานะเป็นตลาดเกิดใหม่ Emerging Markets (ปัจจุบันเป็น Frontier Markets)
นโยบายการลงทุน | เน้นลงทุนตรงในหุ้นเวียดนาม และบางส่วนลงทุนในกองทุนรวมต่างประเทศ ที่ลงทุนในหุ้นเวียดนาม (ซึ่งรวมถึงETF) | ลงทุนตรงในหุ้นภูมิภาคอาเซียน (ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย) |
เหมาะกับใคร | ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหุ้นเวียดนาม สามารถรับความเสี่ยงได้สูง และยอมรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ | ผู้ลงทุนที่ต้องการกระจายลงทุนในหุ้นภูมิภาคอาเซียน และสามารถยอมรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ |
นโยบายจ่ายปันผล | ไม่มี | ไม่มี |
ติดตามได้จากดัชนีตลาด VNI Index
https://www.investing.com/indices/vnเนื่องจากหุ้นเวียดนามส่วนใหญ่เป็นหุ้นเติบโตสูงซึ่งมีแนวโน้มเติบโตของผลกำไร ขยายธุรกิจต่อเนื่อง และมีโอกาสจ่ายปันผลน้อยกว่าหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยเหตุนี้ กองทุนจึงไม่มีนโยบายจ่ายปันผล
เนื่องจากตลาดหุ้นเวียดนามเป็น Frontier Markets ซึ่งลักษณะของตลาดประเภทนี้จะมีความผันผวนสูง นักลงทุนจึงควรตั้งเป้าหมายการลงทุนอย่างน้อย 5 ปี การลงทุนในระยะสั้นมีโอกาสเห็นการขาดทุนได้สูงจากปัจจัยลบต่างๆ ขณะที่การลงทุนในระยะยาวจะเปิดโอกาสให้ราคาสามารถสะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตในระยะยาวของธุรกิจได้เต็มที่ จึงช่วยลดโอกาสขาดทุนจากการลงทุนได้
สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย
สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
K PLUS และ K-My Funds สามารถทำรายการซื้อ-ขาย กองทุนรวมของ KAsset ได้ทั้ง 2 แอปพลิเคชัน
K-My Funds เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับกองทุนรวมโดยเฉพาะ ดังนั้นจะมีข้อมูลและฟังก์ชันเชิงลึกมากกว่า เช่น พอร์ตการลงทุนแนะนำตามความเสี่ยง การแจ้งเตือนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกองทุนที่ถืออยู่ และการปรับพอร์ตลงทุน พร้อมทั้งยังมี โปรแกรมช่วยคำนวณภาษี และ การแสดงยอดเงินลงทุนกองทุน RMF/SSF/LTF รายปี เป็นต้น
K PLUS ช่วยรวบรวมข้อมูลการลงทุนของคุณใน app เดียว ทั้งเงินฝาก กองทุน และหุ้น และยังมีฟังก์ชันช่วยวางแผนการลงทุนผ่าน Wealth Plus บริการช่วยวางแผนการลงทุนส่วนตัว โดยจะช่วยกำหนดเป้าหมายการลงทุน ช่วยเลือกกองทุนที่พิจารณาแล้วว่ามีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดี มีโอกาสทำกำไร และมีความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของแผนการลงทุนที่เลือก ทั้งยังคอยดูแลแผนการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายตลอดเวลาอีกด้วย