K-FIXEDPLUS-A

เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน กับตราสารหนี้คุณภาพดี

ตลาดตราสารหนี้ไทยได้รับแรงกดดันน้อยกว่าตราสารหนี้ต่างประเทศ

เงินเฟ้อของไทยน่าจะพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว จึงช่วยลดแรงกดดันการปรับขึ้นดอกเบี้ยของกนง.ได้ และไม่ต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเหมือนประเทศอื่น

ยิ่งลงทุนระยะยาวยิ่งมีโอกาส ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น

เพราะอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับอายุของตราสาร ดังนั้นยิ่งลงทุนระยะยาวตั้งแต่ 1.5 ปีขึ้นไป K-FIXEDPLUS-A ยิ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น

ความเสี่ยงต่ำ และมีความมั่นคง กว่าการลงทุนประเภทอื่นๆ

เพราะตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือ หุ้นกู้ มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่จะจ่ายไว้ชัดเจน ทำให้ผลตอบแทนไม่ผันผวนเหมือนการลงทุนในหุ้น

K-FIXEDPLUS-A จากกสิกรไทยมั่นใจกว่า

เพราะเน้นคัดเลือกตราสารหนี้ไทยคุณภาพดี เกรด A*

พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อโอกาสหาผลตอบแทนที่มากขึ้น

เลือกลงทุนได้ 2 รูปแบบ

K-FIXEDPLUS-A

โอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝาก

K-FIXEDPLUS-SSF

ลดความผันผวนให้พอร์ต พร้อมรับ
สิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อลงทุนตามเงื่อนไข

ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน K-FIXEDPLUS-A

K-FIXEDPLUS-A

ต้นปีถึงปัจจุบัน
-0.02%
3 เดือน
0.67%
6 เดือน
0.90%
1 ปี (ต่อปี)
-0.15%
3 ปี (ต่อปี)
0.20%
5 ปี (ต่อปี)
1.14%
ตั้งแต่จัดตั้ง
(ต่อปี)
1.28%

ดัชนีชี้วัด

ต้นปีถึงปัจจุบัน
-0.09%
3 เดือน
0.39%
6 เดือน
0.18%
1 ปี (ต่อปี)
-1.30%
3 ปี (ต่อปี)
-0.07%
5 ปี (ต่อปี)
0.94%
ตั้งแต่จัดตั้ง
(ต่อปี)
1.06%

ตัวอย่างตราสารที่กองทุนลงทุน

ธ.แห่งประเทศไทย
กระทรวงการคลัง
บมจ. ซีพีออลล์
บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์
บมจ. โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่

กองทุนผลการดำเนินงานดี

ติด Top 10**

สำหรับผลการดำเนินย้อนหลัง
ในช่วง 1 ปี

ทีมบริหารมีประสบการณ์สูง
ในตลาดตราสารหนี้ไทย และได้รับรางวัลชั้นนำทั้งในไทยและสากล

รางวัล Top Investment Houses in Asian Local Currency Bond (8 ปีซ้อน)
จากงาน The Asset Benchmark Research Awards 2021
รางวัล Most Prominent Fund House in Corporate Bond Market (5 ปีซ้อน)
จากงาน ThaiBMA Best Bond Awards 2021
รางวัล Best Fund Domestic Fixed Income
จาก Morningstar Fund Awards House 2022

เปรียบเทียบกองทุน K-FIXEDPLUS-A กับกองทุนตราสารหนี้อื่นๆ

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับการลงทุนในตราสารหนี้

เงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ/เอกชน ทั้งในไทยและต่างประเทศ

ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และ ตั๋วเงินคลัง

ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ และตั๋วแลกเงิน

จากดอกเบี้ยเมื่อถือตราสารหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด (Coupon) และ กำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain)

มีโอกาสขาดทุนได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคา เนื่องจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ สิ้นวัน (NAV) จะต้องปรับมูลค่าอ้างอิงตามราคาตลาด (Mark to Market) ดังนั้นเมื่อราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง จะส่งผลต่อราคา NAV ที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม หากถือกองทุนจนถึงระยะเวลาที่แนะนำก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง เช่น กองทุนตราสารหนี้ ระยะกลางถึงยาว ควรถือกองทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพื่อลดความผันผวน

อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย

ความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ โดยตราสารหนี้ที่ Credit Rating สูง จะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ (เรียงอันดับตั้งแต่จากสูงสุด AAA ไป ต่ำสุด D) โดยเป็นการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ซึ่งในประเทศไทยมี 2 แห่งคือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ต่ำกว่า โดยมีระดับความเสี่ยง 4 เปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นที่ระดับ 6

เกี่ยวกับกองทุน K-FIXEDPLUS-A

กองทุนมีการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว จึงอาจเกิดความผันผวนทำให้ผลตอบแทนติดลบได้ระยะสั้นๆ แต่ถ้าผู้ลงทุนถือกองทุนได้ในช่วงเวลาที่แนะนำคือ 1.5 ปีขึ้นไป คาดว่ากองทุนจะทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

นโยบายการลงทุนเหมือนกัน เพียงแต่ K-FIXEDPLUS-SSF แยก class ออกมาเป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี

ผลตอบแทนของตราสารหนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพบริษัท สภาพตลาดตราสารหนี้ หรือ การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น

ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทคุณภาพดี อันดับความน่าเชื่อถือสูง คือมีความมั่นคงกว่า ดังนั้นความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้จึงต่ำและให้ผลตอบแทนน้อยกว่า ในทางกลับกัน ตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำ ผลตอบแทนจึงจะสูงกว่าเพื่อบวกค่าความเสี่ยงให้นักลงทุน เนื่องจากมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ได้

ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้จัดการกองทุนต่อสภาวะตลาดการเงิน เช่น ผลตอบแทนและความเสี่ยงของการลงทุนในต่างประเทศดีกว่าในประเทศหรือไม่ รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของประเทศหรือบริษัทนั้นๆ ว่าดีมากน้อยเพียงใด

เกี่ยวกับการเริ่มต้นลงทุน

สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย

  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ KBank และมีแอป K PLUS แล้ว กดเปิดบัญชีผ่านเมนู “ลงทุน” ได้เลย
  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ SCB, KTB เลือกเปิดบัญชีกองทุนผ่าน K-My Funds

สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา

*ข้อมูล ณ 28 ก.พ. 66
**กลุ่ม Thailand Fund Mid/Long Term Bond ไม่รวมกองทุน ETF ที่มา: Morningstar 10 พ.ค. 2566

ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A และ K-FIXEDPRO กองทุนความเสี่ยงระดับ 4
- K-SFPLUS กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100%
- K-FIXEDPLUS-A และ K-FIXEDPRO กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- การลงทุนในตราสารหนี้อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา