ตลาดตราสารหนี้ไทยได้รับแรงกดดันน้อยกว่าตราสารหนี้ต่างประเทศ
เงินเฟ้อของไทยน่าจะพ้นจุดสูงสุดไปแล้ว จึงช่วยลดแรงกดดันการปรับขึ้นดอกเบี้ยของกนง.ได้ และไม่ต้องเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเหมือนประเทศอื่น
ยิ่งลงทุนระยะยาวยิ่งมีโอกาส ได้ผลตอบแทนที่มากขึ้น
เพราะอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับอายุของตราสาร ดังนั้นยิ่งลงทุนระยะยาวตั้งแต่ 1.5 ปีขึ้นไป K-FIXEDPLUS-A ยิ่งมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ความเสี่ยงต่ำ และมีความมั่นคง กว่าการลงทุนประเภทอื่นๆ
เพราะตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือ หุ้นกู้ มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่จะจ่ายไว้ชัดเจน ทำให้ผลตอบแทนไม่ผันผวนเหมือนการลงทุนในหุ้น
พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อโอกาสหาผลตอบแทนที่มากขึ้น
ลดความผันผวนให้พอร์ต พร้อมรับ
สิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อลงทุนตามเงื่อนไข
ผลการดำเนินงานย้อนหลังกองทุน K-FIXEDPLUS-A
K-FIXEDPLUS-A
ดัชนีชี้วัด
ที่มา: บลจ.กสิกรไทย 28 ก.พ. 2566
กองทุนผลการดำเนินงานดี
สำหรับผลการดำเนินย้อนหลัง
ในช่วง 1 ปี
ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และ ตั๋วเงินคลัง
ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ และตั๋วแลกเงิน
จากดอกเบี้ยเมื่อถือตราสารหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด (Coupon) และ กำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain)
มีโอกาสขาดทุนได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคา เนื่องจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ สิ้นวัน (NAV) จะต้องปรับมูลค่าอ้างอิงตามราคาตลาด (Mark to Market) ดังนั้นเมื่อราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง จะส่งผลต่อราคา NAV ที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม หากถือกองทุนจนถึงระยะเวลาที่แนะนำก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง เช่น กองทุนตราสารหนี้ ระยะกลางถึงยาว ควรถือกองทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพื่อลดความผันผวน
อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย
ความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ โดยตราสารหนี้ที่ Credit Rating สูง จะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ (เรียงอันดับตั้งแต่จากสูงสุด AAA ไป ต่ำสุด D) โดยเป็นการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ซึ่งในประเทศไทยมี 2 แห่งคือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ต่ำกว่า โดยมีระดับความเสี่ยง 4 เปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นที่ระดับ 6
แนะนำ 1.5 ปีขี้นไป
กองทุนมีการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว จึงอาจเกิดความผันผวนทำให้ผลตอบแทนติดลบได้ระยะสั้นๆ แต่ถ้าผู้ลงทุนถือกองทุนได้ในช่วงเวลาที่แนะนำคือ 1.5 ปีขึ้นไป คาดว่ากองทุนจะทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นโยบายการลงทุนเหมือนกัน เพียงแต่ K-FIXEDPLUS-SSF แยก class ออกมาเป็นกองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว สำหรับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี
ผลตอบแทนของตราสารหนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพบริษัท สภาพตลาดตราสารหนี้ หรือ การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น
ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทคุณภาพดี อันดับความน่าเชื่อถือสูง คือมีความมั่นคงกว่า ดังนั้นความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้จึงต่ำและให้ผลตอบแทนน้อยกว่า ในทางกลับกัน ตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำ ผลตอบแทนจึงจะสูงกว่าเพื่อบวกค่าความเสี่ยงให้นักลงทุน เนื่องจากมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ได้
ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้จัดการกองทุนต่อสภาวะตลาดการเงิน เช่น ผลตอบแทนและความเสี่ยงของการลงทุนในต่างประเทศดีกว่าในประเทศหรือไม่ รวมถึงปัจจัยพื้นฐานของประเทศหรือบริษัทนั้นๆ ว่าดีมากน้อยเพียงใด
สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย
สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
*ข้อมูล ณ 28 ก.พ. 66
**กลุ่ม Thailand Fund Mid/Long Term Bond ไม่รวมกองทุน ETF ที่มา: Morningstar 10 พ.ค. 2566
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- K-SFPLUS, K-FIXEDPLUS-A และ K-FIXEDPRO กองทุนความเสี่ยงระดับ 4
- K-SFPLUS กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน 100%
- K-FIXEDPLUS-A และ K-FIXEDPRO กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
- การลงทุนในตราสารหนี้อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
- สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา