กองทุนแนะนำ

K-GINCOME

ลงทุนกองทุนเดียวจบ ได้ครบทุกสินทรัพย์

กระจายลงทุนในสินทรัพย์ได้
ทุกประเภท (Diversified)
ไม่ว่าจะเป็น เงินฝาก ตราสารหนี้
หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก

เน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่
จ่ายผลตอบแทนสม่ำเสมอ
ในทุกสภาวะตลาด (Income)

กองทุน K-GINCOME-A(R)
ลงทุนได้ทุกช่วงทุกเวลา เพราะมีการ
ปรับสัดส่วนการลงทุนให้ทัน
กับสภาวะตลาด (Dynamic)

ทำไมต้องมีกองทุน K-GINCOME ติดพอร์ต

กระจายการลงทุนหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลกกว่า 3,000 ตัว ได้ทั้งหุ้นและตราสารหนี้ ไม่ต้องจัดพอร์ตเอง
เน้นสินทรัพย์ที่จ่ายผลตอบแทนสม่ำเสมอ เพื่อโอกาสทํากําไรและลดความผันผวนในระยะยาว
ผ่านกองทุนหลัก JPMorgan Investment Funds – Global Income Fund, Class I (mth) - USD (hedged)

K-GINCOME เลือกลงทุนได้ 4 รูปแบบ

1. แบบสะสมมูลค่า
K-GINCOME-A(A)

(ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับเงินปันผล)

ลงทุนแบบสะสมผลตอบแทน
เพื่อให้เงินทุนเติบโตในระยะยาว
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับเงินก้อน หรือ
ชอบซื้อ-ขาย ทำกำไรด้วยตนเอง

2. แบบรับซื้อคืนอัตโนมัติ
K-GINCOME-A(R)

(ผู้ลงทุนจะได้รับเงินคล้ายปันผลแต่ไม่เสียภาษี)

ลงทุนแบบทยอยรับผลตอบแทนในทุกเดือน
โดยกองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ
สูงสุดไม่เกิน 12 ครั้งต่อปี
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับรายได้
สม่ำเสมอทุกเดือน

3. เพื่อการออม
K-GINCOME-SSF

(มีนโยบายจ่ายเงินปันผล)

ลงทุนระยะยาว พร้อมรับสิทธิประโยชน์
ทางภาษีเมื่อลงทุนตามเงื่อนไข
และมีโอกาสรับเงินปันผลระหว่างลงทุน
ไม่เกิน 4 ครั้ง/ต่อปี

4.เพื่อการเลี้ยงชีพ
K-GINCOME-RMF

(ไม่มีนโยบายปันผล)

ลงทุนกระจายความเสี่ยง
ลดความผันผวนของพอร์ตเกษียณ
พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษี

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน K-GINCOME-A(R)

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน K-GINCOME-A(R)

รับรายได้สม่ำเสมอเฉลี่ยประมาณ 4% ต่อปี*

จากการทยอยรับผลตอบแทนสูงสุด 12 ครั้งต่อปี
โดยกองทุนจ่ายผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง
ทุกเดือน ตั้งแต่จัดตั้งกองทุน

* ข้อมูลการจ่ายผลตอบแทนย้อนหลัง
Human Icon

มีผู้เชี่ยวชาญคอยปรับ
สัดส่วนการลงทุน

ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาด

เปรียบเทียบกองทุน K-GINCOME และกองทุนผสมอื่นๆ

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับกองทุนผสม

คือกองทุนที่กระจายการลงทุนในสินทรัพย์ได้ทุกประเภท ทั้งสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น เงินฝาก ตราสารหนี้
และสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น สินทรัพย์ทางเลือก เป็นต้น โดยสามารถลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ ขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของแต่ละกองทุน
โดยมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้ปรับสัดส่วนสินทรัพย์แต่ละประเภทให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดในช่วงเวลานั้นๆ

  • หุ้น เป็นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็ตามมาด้วยความเสี่ยงสูงเช่นกัน
  • ตราสารหนี้ เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าหุ้น มีความมั่นคง เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ เป็นต้น ให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอนและสม่ำเสมอ
  • สินทรัพย์ทางเลือก เช่น ทองคำ หรือน้ำมัน ช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ต

เนื่องจากไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสินทรัพย์ประเภทใดจะให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในแต่ละช่วงเวลา ดังนั้นการกระจายลงทุนจะช่วยกระจายความเสี่ยงให้พอร์ต มากกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งเพียงอย่างเดียว อีกทั้งช่วยให้ความผันผวนของราคาลดลงและจำกัดโอกาสการขาดทุนจำนวนมาก ในขณะที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าสนใจได้ในทุกภาวะตลาด

เกี่ยวกับกองทุน K-GINCOME

  • นักลงทุนมือใหม่ ที่อยากเริ่มลงทุนในกองทุนต่างประเทศ แต่ยังไม่อยากเสี่ยงสูงมาก และไม่รู้จังหวะในการเข้าลงทุน
  • นักลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนมาแล้ว แต่ไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ เพราะเคยลงทุนในสินทรัพย์ประเภทใดประเภทหนึ่งมากหรือน้อยเกินไป ไม่ได้กระจายความเสี่ยง หรือไม่มีเวลาปรับพอร์ตด้วยตนเอง

แนะนำควรถือครองกองทุนตั้งแต่ 3-5 ปี เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนตามเป้าหมาย และลดโอกาสขาดทุนในระยะสั้นๆ

มีโอกาส เพราะ ราคาของกองทุนมีการเคลื่อนไหวตามราคาตลาดของสินทรัพย์ลงทุนในขณะนั้นๆ เช่น หากหุ้นที่กองทุนลงทุนอยู่ปรับตัวลงตามสภาวะตลาด ซึ่งราคาของกองทุนก็จะปรับลดตาม หากหุ้นตัวนั้นๆ ยังสามารถจ่ายปันผลได้ กองทุนก็ยังคงมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นผู้ลงทุนควรถือกองทุนระยะยาว 3-5 ปี เพื่อลดโอกาสขาดทุน

เท่ากัน เพราะทั้ง 2 กองทุนลงทุนในกองทุนหลักเดียวกัน ผลตอบแทนจึงเท่ากัน โดย K-GINCOME-A(A) สะสมผลตอบแทนไปลงทุนต่อเนื่อง และ K-GINCOME-A(R) จ่ายผลตอบแทนออกมาอัตโนมัติ

ยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากกลยุทธ์ของกองทุนกระจายลงทุนในสินทรัพย์ที่สร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอมากกว่า 3,000 ตัว ทำให้ที่ผ่านมากองทุนสามารถจ่ายผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอ

เกี่ยวกับการเริ่มต้นลงทุน

สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย

  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ KBank และมีแอป K PLUS แล้ว กดเปิดบัญชีผ่านเมนู “ลงทุน” ได้เลย
  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ SCB, KTB เลือกเปิดบัญชีกองทุนผ่าน K-My Funds

สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา

K PLUS และ K-My Funds สามารถทำรายการซื้อ-ขาย กองทุนรวมของ กองทุนรวมของ KAsset ได้ทั้ง 2 แอปพลิเคชัน

K-My Funds เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับกองทุนรวมโดยเฉพาะ ดังนั้นจะมีข้อมูลและฟังก์ชันเชิงลึกมากกว่า เช่น พอร์ตการลงทุนแนะนำตามความเสี่ยง การแจ้งเตือนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกองทุนที่ถืออยู่ และการปรับพอร์ตลงทุน พร้อมทั้งยังมี โปรแกรมช่วยคำนวณภาษี และ การแสดงยอดเงินลงทุนกองทุน RMF/SSF/LTF รายปี เป็นต้น

K PLUS ช่วยรวบรวมข้อมูลการลงทุนของคุณใน app เดียว ทั้งเงินฝาก กองทุน และหุ้น และยังมีฟังก์ชันช่วยวางแผนการลงทุนผ่าน Wealth Plus บริการช่วยวางแผนการลงทุนส่วนตัว โดยจะช่วยกำหนดเป้าหมายการลงทุน ช่วยเลือกกองทุนที่พิจารณาแล้วว่ามีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดี มีโอกาสทำกำไร และมีความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของแผนการลงทุนที่เลือก ทั้งยังคอยดูแลแผนการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายตลอดเวลาอีกด้วย

*อัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นตัวชี้วัด หากลงทุนตามระยะเวลาที่แนะนำ

  • ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้ยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
  • K-GINCOME-A(R), K-GINCOME-A(A), K-GINCOME-SSF, K-GINCOME-RMF, K-GA และ KGARMF ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ /
    K-FIT ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจาก อัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือ
    ได้รับกำไรจาก อัตราแลกเปลี่ยนหรือ ได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • กองทุนมีนโยบายที่แตกต่างกันทั้งด้านสินทรัพย์/ภูมิภาค/ประเทศ/กลุ่มธุรกิจที่กองทุนลงทุน ราคาของหลักทรัพย์จึงมีความผันผวนตามปัจจัยที่กระทบ
  • สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ www.kasikornasset.com