โอกาสสะสมตราสารหนี้
คุณภาพดี
จากการที่ธนาคารกลางทั่วโลก
เข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงในปีนี้
ช่วยบริหารความเสี่ยงให้พอร์ตการลงทุน
จากการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก
เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน
ให้พอร์ตการลงทุน
จากการกระจายลงทุนในตราสารหนี้หลากหลาย ประเภท เน้นที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)
K-GB-A(D)
ดัชนีชี้วัด
• ข้อมูล ณ วันที่ 25 ม.ค. 67 • กองทุนจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 57 • ดัชนีชี้วัด Bloomberg Global Aggregate Total Return Index Value Hedged USD • ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันอนาคต
เงินฝาก, ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และ ตั๋วเงินคลัง ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ และตั๋วแลกเงิน
จากดอกเบี้ยเมื่อถือตราสารหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด (Coupon) และ กำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain)
มีโอกาสขาดทุนได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคา เนื่องจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ สิ้นวัน (NAV) จะต้องปรับมูลค่าอ้างอิงตามราคาตลาด (Mark to Market) ดังนั้นเมื่อราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง จะส่งผลต่อราคา NAV ที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม หากถือกองทุนจนถึงระยะเวลาที่แนะนำก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง เช่น กองทุนตราสารหนี้ ระยะกลางถึงยาว ควรถือกองทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพื่อลดความผันผวน
อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย
ความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ โดยตราสารหนี้ที่ Credit Rating สูง จะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ (เรียงอันดับตั้งแต่จากสูงสุด AAA ไป ต่ำสุด D) โดยเป็นการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ซึ่งในประเทศไทยมี 2 แห่งคือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ผลตอบแทนของตราสารหนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพบริษัท สภาพตลาดตราสารหนี้ หรือ การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทคุณภาพดี อันดับความน่าเชื่อถือสูง คือมีความมั่นคงกว่า ดังนั้นความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้จึงต่ำและให้ผลตอบแทนน้อยกว่า ในทางกลับกัน ตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำ ผลตอบแทนจึงจะสูงกว่าเพื่อบวกค่าความเสี่ยงให้นักลงทุน เนื่องจากมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ได้
สัมพันธ์ในทางตรงกันข้ามกัน เช่น หากตราสารหนี้ที่เข้าลงทุนจ่ายดอกเบี้ยที่ 2% แต่ต่อมาอัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับขึ้นเป็น 4% ตราสารหนี้ที่ออกขายใหม่ก็จะจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นด้วยเพื่อดึงดูดให้เข้าลงทุน ส่งผลให้ตราสารหนี้รุ่นที่ออกขายก่อนหน้ามีความน่าสนใจน้อยลงเนื่องจากจ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่ารุ่นใหม่ ดังนั้น หากนักลงทุนที่ต้องการจะขายตราสารหนี้รุ่นเก่าออกมา จึงจำเป็นต้องลดราคาตราสารหนี้เพื่อชดเชยผลตอบแทนให้แก่ผู้ที่เข้าลงทุนให้เทียบเคียงกับที่ได้อัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ 4%
อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย
มีตัวเลือกในการลงทุนที่มากกว่า ทำให้มีความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ตที่มากขึ้น ช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน ควบคู่ไปกับโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ปัจจัยหนุนสำคัญของการลงทุนตราสารหนี้ในปีนี้คือการที่ Fed มีแนวโน้มจะปรับลดดอกเบี้ย โดยตราสารหนี้จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนจาก Capital Gain จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง แต่ยังคงเน้นตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment grade)
ยังคงมีความไม่แน่นอนต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ท่ามกลางการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับสูงต่อไปอีก อย่างไรก็ดี คาดว่า Fed ได้จบวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว และเราคาดว่า Fed จะเริ่มปรับลดดอกเบี้ยในช่วงกลางปี และตราสารหนี้จะเป็นสินทรัพย์ที่มีความโดดเด่นในปีนี้
สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย
สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
K PLUS และ K-My Funds สามารถทำรายการซื้อ-ขาย กองทุนรวมของ กองทุนรวมของ KAsset ได้ทั้ง 2 แอปพลิเคชัน
K-My Funds เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับกองทุนรวมโดยเฉพาะ ดังนั้นจะมีข้อมูลและฟังก์ชันเชิงลึกมากกว่า เช่น พอร์ตการลงทุนแนะนำตามความเสี่ยง การแจ้งเตือนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกองทุนที่ถืออยู่ และการปรับพอร์ตลงทุน พร้อมทั้งยังมี โปรแกรมช่วยคำนวณภาษี และ การแสดงยอดเงินลงทุนกองทุน RMF/SSF/LTF รายปี เป็นต้น
K PLUS ช่วยรวบรวมข้อมูลการลงทุนของคุณใน app เดียว ทั้งเงินฝาก กองทุน และหุ้น และยังมีฟังก์ชันช่วยวางแผนการลงทุนผ่าน Wealth Plus บริการช่วยวางแผนการลงทุนส่วนตัว โดยจะช่วยกำหนดเป้าหมายการลงทุน ช่วยเลือกกองทุนที่พิจารณาแล้วว่ามีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดี มีโอกาสทำกำไร และมีความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของแผนการลงทุนที่เลือก ทั้งยังคอยดูแลแผนการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายตลอดเวลาอีกด้วย
• การลงทุนในตราสารหนี้อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
• ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
• สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ www.kasikornasset.com