กองทุนแนะนำ

K-GDBOND-A(A)

กองทุนตราสารหนี้ระดับโลก กลยุทธ์การลงทุนแบบยืดหยุ่นสูง

ทางเลือกในการบริหารความเสี่ยงให้พอร์ต จากการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลก

เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ จากการกระจายลงทุน ในตราสารหนี้หลากหลายประเภท

ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลงในปีนี้ จึงเป็นโอกาสสะสมตราสารหนี้คุณภาพดี

ทำไมต้อง K-GDBOND-A(A) จากกสิกรไทย

กระจายลงทุนตราสารหนี้ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนทั่วโลก ในหลากหลาย กลุ่มอุตสาหกรรม มากกว่า 100 สินทรัพย์ ผ่านกองทุนหลัก Nomura Funds Ireland – Global Dynamic Bond Fund,Class I USD

ผลการดำเนินงานย้อนหลังของ K-GDBOND-A(A)

ต้นปีถึงปัจจุบัน
-1.38%
3 เดือน
5.88%
6 เดือน
2.49%
1 ปี (ต่อปี)
-0.87%
ตั้งเเต่จัดตั้ง(ต่อปี)
-6.31%

• ข้อมูล ณ วันที่ 25 ม.ค. 67 • กองทุนจัดตั้งวันที่ 6 ต.ค. 64 • ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันอนาคต

ตัวอย่างสินทรัพย์ที่กองทุน K-GDBOND-A(A) ลงทุน

ตราสารหนี้ภาครัฐ
ตราสารหนี้ภาครัฐ

ความเสี่ยงต่ำ ช่วยบริหารความเสี่ยงและเสริมสภาพคล่องให้กับพอร์ต

ตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดี
ตราสารหนี้เอกชนคุณภาพดี

ได้รับการจัดเครดิตเรตติ้งอยู่ในระดับน่าลงทุน (Investment Grade) ช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุน

ตราสาร High Yield
ตราสาร High Yield

ตราสารหนี้ที่ให้ดอกเบี้ยสูงช่วยเพิ่มผลตอบแทนให้กับพอร์ตการลงทุน

กองทุนหลักติดอันดับ 4 ดาว

Morningstar

ข้อมูล ณ 31 ธ.ค. 66

กลยุทธ์การลงทุนแบบยืดหยุ่นสูง

บริหารพอร์ตการลงทุนแบบไม่มีกรอบข้อจำกัด
ในการลงทุน (Unconstrained)

จึงมีความคล่องตัวสูงในการปรับพอร์ตให้เหมาะกับสภาวะตลาด พร้อมใช้ตราสารอนุพันธ์ช่วยบริหารความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพให้พอร์ต เช่น ลงทุนใน Futures เพื่อช่วยในการ จำกัดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการ สร้างผลตอบแทนที่มากกว่าการลงทุน ในตราสารหนี้โดยปกติ

เปรียบเทียบกองทุน K-GDBOND-A(A) และกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศอื่นๆ

คำถามที่พบบ่อย

เกี่ยวกับกองทุนตราสารหนี้

เงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ/เอกชน ทั้งในไทย และต่างประเทศ ตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และ ตั๋วเงินคลัง ตราสารหนี้ภาคเอกชน เช่น หุ้นกู้ของบริษัทต่างๆ และตั๋วแลกเงิน

จากดอกเบี้ยเมื่อถือตราสารหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด (Coupon) และ กำไรจากส่วนต่างราคาซื้อขาย (Capital Gain)

มีโอกาสขาดทุนได้จากการเปลี่ยนแปลงของราคา เนื่องจากการคำนวณมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ ณ สิ้นวัน (NAV) จะต้องปรับมูลค่าอ้างอิงตามราคาตลาด (Mark to Market) ดังนั้นเมื่อราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มปรับตัวลง จะส่งผลต่อราคา NAV ที่ลดลงด้วย อย่างไรก็ตาม หากถือกองทุนจนถึงระยะเวลาที่แนะนำก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง เช่น กองทุนตราสารหนี้ระยะกลางถึงยาว ควรถือกองทุนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปเพื่อลดความผันผวน

อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย

ความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ โดยตราสารหนี้ที่ Credit Rating สูง จะมีความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ต่ำ (เรียงอันดับตั้งแต่จากสูงสุด AAA ไป ต่ำสุด D) โดยเป็นการจัดอันดับจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ได้รับการรับรองจาก ก.ล.ต. ซึ่งในประเทศไทยมี 2 แห่งคือ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด และ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ผลตอบแทนของตราสารหนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น คุณภาพบริษัท สภาพตลาดตราสารหนี้ หรือ การเคลื่อนไหวของอัตราดอกเบี้ย เป็นต้น ส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ของบริษัทคุณภาพดี อันดับความน่าเชื่อถือสูง คือมีความมั่นคงกว่า ดังนั้นความเสี่ยงด้านการผิดนัดชำระหนี้จึงต่ำและให้ผลตอบแทนน้อยกว่า ในทางกลับกัน ตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำ ผลตอบแทนจึงจะสูงกว่าเพื่อบวกค่าความเสี่ยงให้นักลงทุน เนื่องจากมีโอกาสผิดนัดชำระหนี้ได้

สัมพันธ์ในทางตรงกันข้ามกัน เช่น หากตราสารหนี้ที่เข้าลงทุนจ่ายดอกเบี้ยที่ 2% แต่ต่อมาอัตราดอกเบี้ยในตลาดปรับขึ้นเป็น 4% ตราสารหนี้ที่ออกขายใหม่ก็จะจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้นด้วยเพื่อดึงดูดให้เข้าลงทุน ส่งผลให้ตราสารหนี้รุ่นที่ออกขายก่อนหน้ามีความน่าสนใจน้อยลงเนื่องจากจ่ายดอกเบี้ยต่ำกว่ารุ่นใหม่ ดังนั้น หากนักลงทุนที่ต้องการจะขายตราสารหนี้รุ่นเก่าออกมา จึงจำเป็นต้องลดราคาตราสารหนี้เพื่อชดเชยผลตอบแทนให้แก่ผู้ที่เข้าลงทุนให้เทียบเคียงกับที่ได้อัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ 4%

อายุของตราสารหนี้จะมีความสัมพันธ์กับความผันผวนของราคา โดยตราสารหนี้ระยะยาวจะมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่มากกว่า จึงมีความผันผวนของราคาสูงแต่ก็มีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงด้วยเช่นกัน ในขณะที่ตราสารหนี้ระยะสั้นมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาค่อนข้างต่ำ จึงให้ผลตอบแทนที่ต่ำกว่าด้วย

มีตัวเลือกในการลงทุนที่มากกว่า ทำให้มีความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ตที่มากขึ้น ช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน ควบคู่ไปกับโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้น

เกี่ยวกับกองทุน K-GDBOND-A(A)

เน้นการสร้าง Total Return ซึ่งเป็นผลตอบแทนรวมจากทั้งกระแสรายรับดอกเบี้ย (Income) และการเติบโตเงินลงทุน (Capital Gain) จึงมีความแตกต่างจากกลยุทธ์แบบ Income Focus ที่เน้นกระแสรายรับอย่างเดียวซึ่งเป็นกลยุทธ์ส่วนใหญ่ของตลาดในปัจจุบัน

คือกลยุทธ์การลงทุนที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม่มีกรอบข้อจำกัดในการลงทุน จึงทำให้ผู้จัดการกองทุนสามารถเลือกลงทุนในตราสารหนี้ที่มีความหลากหลายทั้งในด้านประเภทตราสารที่มีความเสี่ยงต่างกัน, ประเทศ, อุตสาหกรรม และอายุตราสาร เป็นต้น ตัวอย่าง กองทุนหลักของ K-GDBOND-A(A) สามารถลงทุนในตราสาร High Yield ได้ตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในตราสาร 0-100% ขณะที่กองทุนอื่นที่ไม่ได้ใช้กลยุทธ์ Unconstrained จำกัดน้ำหนักการลงทุนที่ไม่เกิน 50% ทำให้กองทุน K-GDBOND-A(A) สามารถเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นจากการลงทุนในตราสาร High Yield ได้มากกว่ากองทุนที่จำกัดน้ำหนักการลงทุน

เนื่องจากไม่มีดัชนีชี้วัดใดสอดคล้องกับการลงทุนของกองทุนหลัก ทำให้กองทุนหลักไม่สามารถกำหนดดัชนีชี้วัดได้ ดังนั้น กองทุน K-GDBOND-A(A) ที่ลงทุนในกองทุนหลักนี้จึงไม่มีดัชนีชี้วัดด้วยเช่นกัน

เนื่องจากกองทุนหลักไม่มีกรอบจำกัดในการลงทุน จึงสามารถลงทุนในตราสารหนี้ระดับ Non-investment Grade มากกว่า 20% ได้ (แต่น้อยกว่า 60%) ซึ่งเข้าเกณฑ์กองทุนที่มีความเสี่ยงระดับ 5

เนื่องจากกองทุนหลักสามารถลงทุนในทั้งตราสารหนี้ระยะสั้นและยาว ซึ่งการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว อาจทำให้เกิดความผันผวนระหว่างทาง ดังนั้น หากนักลงทุนสามารถถือยาวได้ตามช่วงระยะเวลาที่แนะนำคือ 3 ปีขึ้นไป คาดว่ากองทุนจะทำผลตอบแทนได้ตามเป้าหมาย

เกี่ยวกับการเริ่มต้นลงทุน

สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย

  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ KBank และมีแอป K PLUS แล้ว กดเปิดบัญชีผ่านเมนู “ลงทุน” ได้เลย
  • หากมีบัญชีออมทรัพย์ SCB, KTB เลือกเปิดบัญชีกองทุนผ่าน K-My Funds

สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา

K PLUS และ K-My Funds สามารถทำรายการซื้อ-ขาย กองทุนรวมของ กองทุนรวมของ KAsset ได้ทั้ง 2 แอปพลิเคชัน

K-My Funds เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับกองทุนรวมโดยเฉพาะ ดังนั้นจะมีข้อมูลและฟังก์ชันเชิงลึกมากกว่า เช่น พอร์ตการลงทุนแนะนำตามความเสี่ยง การแจ้งเตือนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกองทุนที่ถืออยู่ และการปรับพอร์ตลงทุน พร้อมทั้งยังมี โปรแกรมช่วยคำนวณภาษี และ การแสดงยอดเงินลงทุนกองทุน RMF/SSF/LTF รายปี เป็นต้น

K PLUS ช่วยรวบรวมข้อมูลการลงทุนของคุณใน app เดียว ทั้งเงินฝาก กองทุน และหุ้น และยังมีฟังก์ชันช่วยวางแผนการลงทุนผ่าน Wealth Plus บริการช่วยวางแผนการลงทุนส่วนตัว โดยจะช่วยกำหนดเป้าหมายการลงทุน ช่วยเลือกกองทุนที่พิจารณาแล้วว่ามีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดี มีโอกาสทำกำไร และมีความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของแผนการลงทุนที่เลือก ทั้งยังคอยดูแลแผนการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายตลอดเวลาอีกด้วย

  • K-GDBOND-A(A) ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
    ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • การลงทุนในตราสารหนี้อาจมีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ย
  • ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน
  • สนใจลงทุนและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ www.kasikornasset.com