ในเวลานี้ที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยยังดูไม่คลี่คลาย แม้ว่าเริ่มมีการทยอยฉีดวัคซ้นต้านโควิดไปแล้วกับประชาชนบางกลุ่ม ซึ่งวิกฤตนี้จะยังคงอยู่กับเราไปอีกพักใหญ่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรการลงทุนยังต้องไปต่อ ซึ่งนอกจากที่เราจะต้องเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองแล้ว เรายังควรต้องเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับพอร์ตการลงทุนของเราด้วย
ฟุตฟิต for fund คุยกันกับ KAsset วันนี้มีคำแนะนำดีๆ ที่จะช่วยให้คุณจัดพอร์ตเพื่อรับมือกับวิกฤตในครั้งนี้ได้อย่างมืออาชีพ และสามารถนำไปปรับใช้ได้กับวิกฤตอื่นๆ ในอนาคตได้อีกด้วย
1. เช็กให้ดี ตอนนี้พอร์ตเราลงทุนเพื่ออะไรและมีสินทรัพย์อะไรบ้าง
สำรวจเส้นทางของตัวเองให้รอบด้าน ปัจจุบันเรามีกี่พอร์ต เป้าหมายคืออะไร เช่น พอร์ตเก็บเงินดาวน์บ้าน พอร์ตทุนการศึกษาสำหรับบุตร พอร์ตเพื่อวัยเกษียณ ฯลฯ แล้วดูในรายละเอียดว่าแต่ละพอร์ตประกอบไปด้วยสินทรัพย์อะไรบ้าง มูลค่ารวมเท่าไร เพื่อให้เห็นว่าพอร์ตไหนจำเป็นหรือพอร์ตไหนรอได้ ก่อนไปพิจารณาในข้อถัดไป
2. มองหาหลุมหลบภัยของตัวเองให้เจอ
Safe Haven หมายถึงสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง ความผันผวนต่ำ และมักใช้เป็นทางรอดเมื่อเกิดวิกฤต หลายคนคิดว่าจะต้องเป็นเงินสดหรือทองคำเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ผิด แต่ในความเป็นจริงแล้วสามารถเป็นสินทรัพย์อื่นก็ได้ โดยต้องพิจารณาถึงสไตล์การลงทุนของแต่ละคนด้วย เช่น เปลี่ยนมาลงทุนในกองทุนหุ้นแทนหุ้นรายตัว เพื่อลดความเสี่ยงสำหรับคนที่ไม่มีเวลาศึกษาข้อมูล เป็นต้น
3. ปรับสัดส่วนพอร์ตให้เสี่ยงน้อยลง เพื่อความสบายใจที่มากขึ้น
การปรับสัดส่วนพอร์ต หรือ Rebalancing ไม่ได้มีประโยชน์แค่จัดการสินทรัพย์ให้ตรงกับเป้าหมายตั้งต้นเท่านั้น แต่ยังจำเป็นมากในยุคที่มีโควิด-19 แบบนี้ เพราะจะช่วยให้พอร์ตของเราไม่ผันผวนหรือเสี่ยงมากจนเกินไป แม้จะได้รับผลตอบแทนไม่ตรงตามที่คาดหวัง แต่ก็ไม่เสี่ยงที่จะขาดทุนหนักแน่นอน
4. เน้นกระจาย ไม่กระจุกอยู่ในการลงทุนแค่แบบเดียว
คำว่า “อย่าใส่ไข่หลายใบไว้ในตะกร้าใบเดียว” ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย ยิ่งโควิด-19 มาก็ทำให้เห็นชัดขึ้นไปอีกว่าการกระจายการลงทุนย่อมดีกว่ากระจุกตัวอยู่ในรูปแบบเดียวเป็นแน่ ในขณะที่ภาวะตลาดเกิดความผันผวนทำให้สินทรัพย์บางตัวติดลบหนัก ก็จะมีสินทรัพย์บางตัวเช่นกันที่ปรับตัวขึ้น หรือได้รับอานิสงส์จากวิกฤตในครั้งนั้น ยกตัวอย่าง วิกฤตโควิด-19 ทำให้หุ้นกลุ่มสุขภาพ ยาและเวชภัณฑ์ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นกลุ่มอีคอมเมิร์ซ ได้รับอานิสงส์เป็นอย่างมาก เป็นต้น หรือกระจายลงทุนไปในภูมิภาค/ประเทศ ที่เศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ดีกว่า และหากลงทุนในสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวตามไปด้วยเช่นกัน
แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ไทยประสบกับวิกฤตโควิด-19 แต่ต้องยอมรับว่าวิกฤตครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และอาจส่งผลกระทบที่กินเวลาไปอีกสักพัก ทางที่ดีคือควรรีบปรับพอร์ตการลงทุนให้เข้ากับสถานการณ์ หรือถ้าต้องการตัวช่วยปรับพอร์ต ขอแนะนำแอปพลิเคชัน K-My Funds ที่พร้อมแนะนำพอร์ตดีๆ ที่เหมาะกับสไตล์และเป้าหมายการลงทุน และให้คุณซื้อ ขาย สับเปลี่ยนกองทุนที่สนใจได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ไว้ว่าคุณจะต้องเจออีกกี่วิกฤต พอร์ตของคุณก็จะสตรองไม่สตั๊นง่ายๆ แน่นอน
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน