ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของบริษัท
จดทะเบียนส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาด
และ Earnings Revision มีสัญญาณที่ดีขึ้น
วัฎจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed
มีแนวโน้มใกล้จบแล้ว
เงินเฟ้อค่อยๆ ปรับตัวลง ตลาดรับรู้
ปัจจัยดังกล่าวไปเกือบทั้งหมดแล้ว
ลดแรงกดดันต่อราคาหุ้นในระยะถัดไป
กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
โดยรวมยังขยายตัวได้ดี
แม้ยังมีโอกาสเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่คาด
จะเป็นเพียงแบบไม่รุนแรง (Mild Recession)
ระดับราคาหุ้นสหรัฐฯ ไม่แพง
เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวในอดีต
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนต่อเนื่อง
เพื่อการเติบโตของเงินทุนในระยะยาว
สำหรับผู้ที่ต้องการรับผลตอบแทนจากเงินปันผล
มีนโยบายพิจารณาจ่ายเงินปันผล ไม่เกินปีละ 4 ครั้ง
ลงทุนระยะยาว 10 ปี
พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อลงทุนตามเงื่อนไข
ลงทุนเติบโตเพื่อวัยเกษียณ
พร้อมรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีเมื่อลงทุนตามเงื่อนไข
K-USA-A(D)
ดัชนีชี้วัด
• ข้อมูล ณ วันที่ 31 พ.ค. 66 • กองทุนจัดตั้งเมื่อวันที่ 7 ก.ย. 55 • ดัชนีชี้วัด S&P 500 • ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้ยืนยันอนาคต
โดย Rolling Return 3 ปีอยู่ใน Quartile 1 และ 2 ได้สม่ำเสมอ
เพิ่มเติม คลิก
(Sustainable Business Advantages)
ซึ่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้ธุรกิจสร้างรายได้และกำไรในระยะยาว รวมถึงแก้ปัญหาใน 3 ด้าน ได้แก่
ลดค่าใช้จ่ายอย่างยั่งยืน เพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้น
ลดการใช้ทรัพยากร เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ช่วยสร้างผลกระทบในด้านบวกต่อสังคม เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
ในช่วงปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจสหรัฐฯได้เผชิญความเสี่ยงและความผันผวนในหลายด้าน ทั้งความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของ Fed แรงตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ และผลกระทบจากวิกฤตภาคธนาคารของสหรัฐฯ ได้สร้างความผันผวนให้กับตลาดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้นที่มีการเติบโตสูง
วัฎจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed มีแนวโน้มใกล้สิ้นสุดแล้ว ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯปัจจุบันปรับขึ้นสะท้อนคาดการณ์ดังกล่าว จึงลดแรงกดดันต่อราคาหุ้นในระยะถัดไป นอกจากนี้เศรษฐกิจสหรัฐฯยังขยายตัวได้ดีสะท้อนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ตลาดจึงมีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะถดถอยแบบไม่รุนแรง (Soft landing) รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนมีสัญญาณที่ดีขึ้น เห็นการปรับประมาณการกำไรขึ้น (Earning Revisions) จึงมองว่าเป็นโอกาสดีในการทยอยสะสมสำหรับการลงทุนระยะยาว
กองทุน K-USA มีการเปลี่ยนกองทุนหลักเป็น Brown Advisory US Sustainable Growth Fund (มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2566) เนื่องจากผลการดำเนินงานของกองทุนหลักเดิม (Morgan Stanley US Advantage Fund) ทำได้ไม่ดีระหว่างปี 2021-2022 โดยแพ้ทั้งดัชนีชี้วัด และกองทุนอื่นๆในกลุ่ม US Large Cap Growth อย่างมาก นอกจากนี้ ค่าความผันผวนของกองทุนสูงกว่าดัชนีชี้วัดและคู่แข่งอย่ำงมีนัยสำคัญ รวมถึงพอร์ตมีความกระจุกตัวเพิ่มขึ้นมาก ทั้งในมุมหุ้นรายตัวและในภาพกลุ่มอุตสาหกรรมท่ามกลางภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง สะท้อนถึงความพยายามในการ Bet กับหุ้น High Conviction และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้พอร์ตเผชิญกับ Drawdown อย่างรุนแรงในปี 2022 ซึ่งแสดงถึงปัญหาด้านการบริหารความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
จำนวนหุ้นในพอร์ตจะใกล้เคียงกับกองทุนหลักเดิม คือประมาณ 30-40 ตัว แต่หุ้นในพอร์ตจะมีน้ำหนักประมาณ 1-5% จึงจะไม่มีหุ้นตัวใดตัวหนึ่งที่สามารถส่งผลกระทบต่อพอร์ตได้มากเกินไป
สามารถเปิดบัญชีกองทุนรวมได้เองทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปสาขา โดยเตรียมเลขที่บัญชีออมทรัพย์ และข้อมูลตามบัตรประชาชนให้เรียบร้อย
สำหรับผู้ที่มีบัญชีกองทุนรวมอยู่แล้ว กดซื้อได้เลยง่ายๆ ผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds และช่องทางออนไลน์ที่ K-Cyber Invest หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา
K PLUS และ K-My Funds สามารถทำรายการซื้อ-ขาย กองทุนรวมของ KAsset ได้ทั้ง 2 แอปพลิเคชัน
K-My Funds เป็นแอปพลิเคชันเกี่ยวกับกองทุนรวมโดยเฉพาะ ดังนั้นจะมีข้อมูลและฟังก์ชันเชิงลึกมากกว่า เช่น พอร์ตการลงทุนแนะนำตามความเสี่ยง การแจ้งเตือนและให้คำแนะนำเกี่ยวกับกองทุนที่ถืออยู่ และการปรับพอร์ตลงทุน พร้อมทั้งยังมี โปรแกรมช่วยคำนวณภาษี และ การแสดงยอดเงินลงทุนกองทุน RMF/SSF/LTF รายปี เป็นต้น
K PLUS ช่วยรวบรวมข้อมูลการลงทุนของคุณใน app เดียว ทั้งเงินฝาก กองทุน และหุ้น และยังมีฟังก์ชันช่วยวางแผนการลงทุนผ่าน Wealth Plus บริการช่วยวางแผนการลงทุนส่วนตัว โดยจะช่วยกำหนดเป้าหมายการลงทุน ช่วยเลือกกองทุนที่พิจารณาแล้วว่ามีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดี มีโอกาสทำกำไร และมีความเหมาะสมกับระดับความเสี่ยงของแผนการลงทุนที่เลือก ทั้งยังคอยดูแลแผนการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายตลอดเวลาอีกด้วย