ประกาศแจ้งผลการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนและ
การแก้ไขโครงการของกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2022H (KFF22H)
ตามที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บริษัทจัดการ) ในฐานะผู้จัดตั้งและจัดการกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2022H (KFF22H) ได้ส่งหนังสือขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุน KFF22H โดยมีระยะเวลาในการใช้สิทธิออกเสียงลงมติตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม - 20 เมษายน 2565 ซึ่งกองทุน KFF22H มีจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด 430,207,631.3530 หน่วย จากผู้ถือหน่วยลงทุนจำนวน 1,238 ราย บริษัทจัดการได้ตรวจนับมติเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 มีผู้ถือหน่วยลงทุนแสดงมติจำนวน 303 ราย คิดเป็น 202,384,862.1650 หน่วย หรือเท่ากับร้อยละ 47.04 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุน โดยได้รับมติเห็นชอบให้แก้ไขโครงการจำนวน 154,944,349.3080 หน่วยหรือคิดเป็นร้อยละ 76.56 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนที่ส่งหนังสือแจ้งมติและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน จึงถือว่าผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนอนุมัติให้แก้ไขโครงการตามที่ได้ขอมติ โดยบริษัทจัดการได้ดำเนินการแก้ไขโครงการต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. (“สำนักงาน") พร้อมกันนี้ บริษัทได้ยื่นขอแก้ไขโครงการในเรื่องอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานได้รับทราบการแก้ไขดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 โดยสรุปสาระสำคัญของการแก้ไขโครงการ ดังนี้
สรุปสาระสำคัญของโครงการที่แก้ไขแล้ว ตามที่ได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุน
- ชื่อกองทุน : กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 2022H (K Fixed Income 2022H Fund : K-FI22H)
- นโยบายการลงทุน
- ลงทุนในตราสารหนี้ได้ทั้งในและต่างประเทศ โดยไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศ
- สามารถลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอื่นซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทจัดการเดียวกันได้โดยไม่จำกัดอัตราส่วน
- ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
- อายุโครงการ : ไม่กำหนดอายุโครงการ
- การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน : ขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการซื้อขายของกองทุน
- มูลค่าขั้นต่ำในการขายคืนและมูลค่าคงเหลือในบัญชีขั้นต่ำ :
- มูลค่าขั้นต่ำของการขายคืน 500 บาท
- มูลค่าคงเหลือในบัญชีขั้นต่ำ 50 บาท
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุน :
- ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวมทั้งหมด อัตราไม่เกินร้อยละ 2.5145 ต่อปี ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ อัตราไม่เกินร้อยละ 1.0700 ต่อปี ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน หักมูลค่าหนี้สินทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่าหนี้สินทั้งหมดไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียน
- ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ อัตราไม่เกินร้อยละ 0.2675 ต่อปี ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน หักมูลค่าหนี้สินทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่าหนี้สินทั้งหมดไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียน
- ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน อัตราไม่เกินร้อยละ 0.1070 ต่อปี ของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน หักมูลค่าหนี้สินทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่าหนี้สินทั้งหมดไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียน
- ค่าธรรมเนียมอื่นๆ อัตราไม่เกินร้อยละ 1.0700 ต่อปี ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
- ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุน :
- ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า (Switching In) : ไม่มี
- ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนออก (Switching Out) : เรียกเก็บในอัตราเท่ากับค่าธรรมเนียมการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนต้นทางหรือค่าธรรมเนียมการขายหน่วยลงทุนของกองทุนปลายทางแล้วแต่อัตราใดจะสูงกว่า
- ข้อจำกัดการโอนหน่วยลงทุน :
ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถโอนหน่วยลงทุนได้ในกรณีดังต่อไปนี้
1. การโอนให้บิดา มารดา บุตร และคู่สมรสของผู้ถือหน่วยลงทุน
2. การโอนทางมรดกตามกฎหมาย
3. การโอนตามคำสั่งศาล
4. การโอนอันเนื่องมาจากการบังคับจำนำหน่วยลงทุน
5. การโอนในกรณีพิเศษอื่นๆ ซึ่งบริษัทจัดการเห็นสมควรอนุมัติให้โอนได้
นายทะเบียนจะไม่รับจดทะเบียนการโอนหน่วยลงทุนนอกเหนือจากกรณีที่ระบุข้างต้น
สรุปสาระสำคัญของการแก้ไขโครงการในเรื่องอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
1. แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้เป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ที่ สน. 9/2564 สน. 29/2564 และประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน ที่ ทน. 11/2564
สาระสำคัญ :
- ปรับปรุงข้อความในหัวข้อ การไม่ขาย ไม่รับซื้อคืน ไม่สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนตามสั่ง ให้เป็นไปตามประกาศ
- ปรับปรุงข้อความเกี่ยวกับการดำเนินการในกรณีที่ผู้ออกตราสารหนี้หรือลูกหนี้ตามสิทธิเรียกร้องผิดนัดชำระหนี้ หรือตราสารที่ลงทุนประสบปัญหาขาดสภาพคล่องหรือไม่สามารถจำหน่ายได้ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ให้เป็นไปตามประกาศ
- ปรับปรุงการเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลในโครงการจัดการ เพื่อให้โครงการมีข้อมูลที่เป็นลักษณะเฉพาะของกองทุนรวม และแนวทางการบริหารจัดการกองทุนรวมเท่านั้น โดยไม่ต้องเปิดเผยรายละเอียดที่ซ้ำซ้อนกับเอกสารอื่น รวมทั้งไม่ต้องระบุกฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ไว้ในโครงการ
2. เปลี่ยนที่อยู่ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนเป็น 400/22 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
ทั้งนี้ การแก้ไขโครงการดังกล่าวข้างต้นมีผลตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2565 เป็นต้นไป
ตารางการแก้ไขโครงการกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2022H (KFF22H)
คำถามและคำตอบเกี่ยวกับกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 2022H (KFF22H)
ท่านสามารถขอทราบรายละเอียดการแก้ไขเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center โทร. 0 2673 3888 กด 1 e-mail : ka.customer@kasikornasset.com
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด
ประกาศ ณ วันที่ 11 พฤษภาคม 2565