ประกาศแจ้งผลการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนและการแก้ไขโครงการของ
กองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท ไฮยีลด์ 2023B ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KHY23B-UI)
ตามที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บริษัทจัดการ) ในฐานะผู้จัดตั้งและจัดการกองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท ไฮยีลด์ 2023B ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KHY23B-UI) ได้ส่งหนังสือขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุน KHY23B-UI โดยมีระยะเวลาในการใช้สิทธิออกเสียงลงมติตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม – 9 กันยายน 2565 ซึ่งกองทุน KHY23B-UI มีจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด 237,464,928.2911 หน่วย จากผู้ถือหน่วยลงทุนจำนวน 170 ราย บริษัทจัดการได้ตรวจนับมติเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 มีผู้ถือหน่วยลงทุนแสดงมติจำนวน 92 ราย คิดเป็น 130,307,102.8640 หน่วย หรือเท่ากับ ร้อยละ 54.87 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุน โดยได้รับมติเห็นชอบให้แก้ไขโครงการจำนวน 129,610,228.4137 หน่วยหรือคิดเป็นร้อยละ 99.47 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนที่ส่งหนังสือแจ้งมติและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน จึงถือว่าผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนอนุมัติให้แก้ไขโครงการตามที่ได้ขอมติ โดยบริษัทจัดการได้ดำเนินการแก้ไขโครงการต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. (“สำนักงาน”) พร้อมกันนี้ บริษัทได้ยื่นขอแก้ไขโครงการในเรื่องอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานได้รับทราบการแก้ไขดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 โดยสรุปสาระสำคัญของการแก้ไขโครงการ ดังนี้
สรุปสาระสำคัญของโครงการที่แก้ไขแล้ว ตามที่ได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุน
1. ชื่อกองทุน : กองทุนเปิดเค เอเชีย ไฮยีลด์ A ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (K Asia High Yield A Fund Not for Retail Investors :
K-AHYA-UI)
2. ข้อมูลกองทุนหลัก
ชื่อกองทุนหลัก | LO Funds – Asia Diversified High Yield Bond, (USD), NA |
บริษัทจัดการ | Lombard Odier Funds (Europe) S.A. |
นโยบายการจ่ายเงินปันผล | ไม่มี |
นโยบายการลงทุน | ลงทุนส่วนใหญ่ในพันธบัตร ตราสารหนี้ทั้งที่จ่ายดอกเบี้ยแบบคงที่หรือลอยตัว หุ้นกู้แปลงสภาพ หุ้นกู้ที่มีใบสำคัญแสดงสิทธิในตราสารที่เปลี่ยนมือได้ และตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้หรือเทียบเท่า ซึ่งตราสารดังกล่าวออกหรือค้ำประกันโดยหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงองค์กรที่จัดตั้งหรือดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (รวมถึงประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย) ซึ่งกองทุนหลักเน้นลงทุนในตราสารสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
อาจลงทุนในสกุลเงิน (รวมถึงสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่) และเงินสดและตราสารเทียบเท่าเงินสด (รวมถึงตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีสินทรัพย์อื่นเป็นหลักประกัน (Asset-backed securities) หรือตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (Mortgage-backed securities) ซึ่งจะลงทุนไม่เกินร้อยละ 10 ของการลงทุนในเงินสดและตราสารเทียบเท่าเงินสด) ทั้งนี้ กองทุนอาจถือเงินสดและตราสารเทียบเท่าเงินสดเพื่อเป้าหมายการลงทุนหรือในกรณีที่สภาวะตลาดไม่ปกติ |
ดัชนีชี้วัด | ดัชนี JP Morgan JACI Non-Investment Grade Total Return |
3. อายุโครงการ : ไม่กำหนดอายุโครงการ
4. การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน : ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการซื้อขายของกองทุน ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป
5. มูลค่าขั้นต่ำของการรับซื้อคืน : 500 บาท
6. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม :
- ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวมทั้งหมด อัตราไม่เกินร้อยละ 4.8685 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ อัตราไม่เกินร้อยละ 3.2100 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน หักมูลค่าหนี้สินทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่าหนี้สินทั้งหมดไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียน
- ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ อัตราไม่เกินร้อยละ 0.2675 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน หักมูลค่าหนี้สินทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่าหนี้สินทั้งหมดไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียน ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ดังกล่าวได้รวมค่าธรรมเนียมการรับฝากทรัพย์สินในต่างประเทศแล้ว
- ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน อัตราไม่เกินร้อยละ 0.3210 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน หักมูลค่าหนี้สินทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่าหนี้สินทั้งหมดไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียน
- ค่าธรรมเนียมอื่นๆ อัตราไม่เกินร้อยละ 1.0700 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
7. ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้สั่งซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุน :
- ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า (Switching In) : ไม่มี
8. ข้อจำกัดการโอนหน่วยลงทุน :
ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถโอนหน่วยลงทุนได้ในกรณีดังต่อไปนี้
1. การโอนให้บิดา มารดา บุตร และคู่สมรสของผู้ถือหน่วยลงทุน
2. การโอนทางมรดกตามกฎหมาย
3. การโอนตามคำสั่งศาล
4. การโอนอันเนื่องมาจากการบังคับจำนำหน่วยลงทุน
5. การโอนในกรณีพิเศษอื่นๆ ซึ่งบริษัทจัดการเห็นสมควรอนุมัติให้โอนได้
นายทะเบียนจะไม่รับจดทะเบียนการโอนหน่วยลงทุนนอกเหนือจากกรณีที่ระบุข้างต้น
9. เครื่องมือบริหารความเสี่ยงสภาพคล่องของกองทุนรวม :
สำหรับการไม่ขายหรือไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามคำสั่งที่รับไว้หรือจะหยุดรับคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุน (suspension of dealings) ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ตามที่ประกาศกำหนด บริษัทจัดการสามารถดำเนินการได้สูงสุดไม่เกิน 5 วันทำการ
ทั้งนี้ การแก้ไขโครงการดังกล่าวข้างต้นจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป
ท่านสามารถขอทราบรายละเอียดการแก้ไขเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center โทร. 0 2673 3888 กด 1 e-mail : ka.customer@kasikornasset.com
ตารางการแก้ไขโครงการกองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท ไฮยีลด์ 2023B ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KHY23B-UI)
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด
ประกาศ ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2565