10/21/2022

​​​​​​

ประกาศแจ้งผลการขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนและการแก้ไขโครงการของ

กองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท ไฮยีลด์ 2023B ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KHY23B-UI)​

 

ตามที่บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บริษัทจัดการ) ในฐานะผู้จัดตั้งและจัดการกองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท ไฮยีลด์ 2023B ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KHY23B-UI) ได้ส่งหนังสือขอมติผู้ถือหน่วยลงทุนเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมโครงการจัดการกองทุน KHY23B-UI โดยมีระยะเวลาในการใช้สิทธิออกเสียงลงมติตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม – 9 กันยายน 2565 ซึ่งกองทุน KHY23B-UI มีจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด 237,464,928.2911 หน่วย จากผู้ถือหน่วยลงทุนจำนวน 170 ราย  บริษัทจัดการได้ตรวจนับมติเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 มีผู้ถือหน่วยลงทุนแสดงมติจำนวน 92 ราย คิดเป็น 130,307,102.8640 หน่วย หรือเท่ากับ ร้อยละ 54.87 ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกองทุน โดยได้รับมติเห็นชอบให้แก้ไขโครงการจำนวน 129,610,228.4137 หน่วยหรือคิดเป็นร้อยละ 99.47 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของผู้ถือหน่วยลงทุนที่ส่งหนังสือแจ้งมติและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน จึงถือว่าผู้ถือหน่วยลงทุนของกองทุนอนุมัติให้แก้ไขโครงการตามที่ได้ขอมติ โดยบริษัทจัดการได้ดำเนินการแก้ไขโครงการต่อสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. (“สำนักงาน”) พร้อมกันนี้ บริษัทได้ยื่นขอแก้ไขโครงการในเรื่องอื่นๆ เพื่อให้เป็นไปตามประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสำนักงานได้รับทราบการแก้ไขดังกล่าวแล้วเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 โดยสรุปสาระสำคัญของการแก้ไขโครงการ ดังนี้


สรุปสาระสำคัญของโครงการที่แก้ไขแล้ว ตามที่ได้รับมติจากผู้ถือหน่วยลงทุน

1.  ชื่อกองทุน : กองทุนเปิดเค เอเชีย ไฮยีลด์ A ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (K Asia High Yield A Fund Not for Retail Investors :
K-AHYA-UI)

2.  ​ข้อมูลกองทุนหลัก

ชื่อกองทุนหลัก​​LO Funds – Asia Diversified High Yield Bond, (USD), NA
บริษัทจัดการLombard Odier Funds (Europe) S.A.
นโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่มี
นโยบายการลงทุน​

ลงทุนส่วนใหญ่ในพันธบัตร ตราสารหนี้ทั้งที่จ่ายดอกเบี้ยแบบคงที่หรือลอยตัว หุ้นกู้แปลงสภาพ หุ้นกู้ที่มีใบสำคัญแสดงสิทธิในตราสารที่เปลี่ยนมือได้ และตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้หรือเทียบเท่า ซึ่งตราสารดังกล่าวออกหรือค้ำประกัน​โดยหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงองค์กรที่จัดตั้งหรือดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (รวมถึงประเทศญี่ปุ่นและออสเตรเลีย) ซึ่งกองทุนหลักเน้นลงทุนในตราสารสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

อาจลงทุนในสกุลเงิน (รวมถึงสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่) และเงินสดและตราสารเทียบเท่าเงินสด (รวมถึงตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีสินทรัพย์อื่นเป็นหลักประกัน (Asset-backed securities) หรือตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน (Mortgage-backed securities) ซึ่งจะลงทุนไม่เกินร้อยละ 10 ของการลงทุนในเงินสดและตราสารเทียบเท่าเงินสด)

ทั้งนี้ กองทุนอาจถือเงินสดและตราสารเทียบเท่าเงินสดเพื่อเป้าหมายการลงทุนหรือในกรณีที่สภาวะตลาดไม่ปกติ

ดัชนีชี้วัดดัชนี JP Morgan JACI Non-Investment Grade Total Return

 

3.  อายุโครงการ : ไม่กำหนดอายุโครงการ


4.  การรับซื้อคืนหน่วยลงทุน : ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการซื้อขายของกองทุน ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป

 

5.  มูลค่าขั้นต่ำของการรับซื้อคืน : 500 บาท

 

6.  ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวม :

  • ค่าใช้จ่ายที่เรียกเก็บจากกองทุนรวมทั้งหมด อัตราไม่เกินร้อยละ 4.8685 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
  • ค่าธรรมเนียมการจัดการ อัตราไม่เกินร้อยละ 3.2100 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน หักมูลค่าหนี้สินทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่าหนี้สินทั้งหมดไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียน
  • ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ อัตราไม่เกินร้อยละ 0.2675 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน หักมูลค่าหนี้สินทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่าหนี้สินทั้งหมดไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียน ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ดังกล่าวได้รวมค่าธรรมเนียมการรับฝากทรัพย์สินในต่างประเทศแล้ว
  • ค่าธรรมเนียมนายทะเบียนหน่วยลงทุน อัตราไม่เกินร้อยละ 0.3210 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดของกองทุน หักมูลค่าหนี้สินทั้งหมด ทั้งนี้ มูลค่าหนี้สินทั้งหมดไม่รวมถึงค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ และค่าธรรมเนียมนายทะเบียน
  • ค่าธรรมเนียมอื่นๆ อัตราไม่เกินร้อยละ 1.0700 ต่อปีของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน

 

7.  ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้สั่งซื้อหรือผู้ถือหน่วยลงทุน :

  • ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้า (Switching In) : ไม่มี

8.  ข้อจำกัดการโอนหน่วยลงทุน :

ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถโอนหน่วยลงทุนได้ในกรณีดังต่อไปนี้

1. การโอนให้บิดา มารดา บุตร และคู่สมรสของผู้ถือหน่วยลงทุน

2. การโอนทางมรดกตามกฎหมาย

3. การโอนตามคำสั่งศาล

4. การโอนอันเนื่องมาจากการบังคับจำนำหน่วยลงทุน

5. การโอนในกรณีพิเศษอื่นๆ ซึ่งบริษัทจัดการเห็นสมควรอนุมัติให้โอนได้

นายทะเบียนจะไม่รับจดทะเบียนการโอนหน่วยลงทุนนอกเหนือจากกรณีที่ระบุข้างต้น

 

9.  เครื่องมือบริหารความเสี่ยงสภาพคล่องของกองทุนรวม :

สำหรับการไม่ขายหรือไม่รับซื้อคืนหน่วยลงทุนตามคำสั่งที่รับไว้หรือจะหยุดรับคำสั่งซื้อหรือคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุน (suspension of dealings) ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ตามที่ประกาศกำหนด บริษัทจัดการสามารถดำเนินการได้สูงสุดไม่เกิน 5 วันทำการ

ทั้งนี้ การแก้ไขโครงการดังกล่าวข้างต้นจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป


ท่านสามารถขอทราบรายละเอียดการแก้ไขเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center โทร. 0 2673 3888 กด 1 e-mail : ka.customer@kasikornasset.com


ตารางการแก้ไขโครงการกองทุนเปิดเค ฟิกซ์เดท ไฮยีลด์ 2023B ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KHY23B-UI)​



​บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด

ประกาศ ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2565​


Yes
10/21/2022