2/8/2019

​​​​​​​​​​ภาพรวมการลงทุน​

          ในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานักลงทุนมีกังวลจากความไม่แน่นอนในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนภายหลังที่แคนาดาจับตัว CFO ของบริษัท Huawei จากโอกาสที่จะเกิด Inverted Yield Curve ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเศรษฐกิจโลกอาจชะลอตัวลงเพิ่มสูงขึ้น และจากความไม่แน่นอนในกลุ่มสหภาพยุโรปที่เพิ่มสูงขึ้นจากการเลื่อนการลงมติ Brexit ออกไป ขณะที่การประชุม ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยและจะยุติ QE สิ้นปี 2018 ตามตลาดคาด ด้านราคาน้ำมันดิบโลก (WTI) ยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากความกังวลอุปสงค์ที่อาจชะลอตัวลงจากเศรษฐกิจโลก โดยทำจุดต่ำสุดของเดือนที่ USD42.36/bbl ก่อนที่จะรีบาวน์กลับมาปิดสิ้นเดือนที่ USD45.41/bbl ด้าน FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามตลาดคาด โดยสัปดาห์สุดท้ายรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่สามารถตกลงกันได้ทำให้เกิด Government Shutdown ค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวในกรอบแคบ 96.0-97.7 ในระหว่างเดือน โดยในเดือนนี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียนส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น (ยกเว้นไทยและเวียดนาม) ขณะที่ค่าเงินประเทศในอาเซียนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้น (ยกเว้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์)

          ในเดือนธันวาคม SET Index ปรับตัวลง 4.75% MoM ยังคงนำโดยหุ้นกลุ่มกลุ่มพลังงาน ภายหลังราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย JCI Index ปรับตัวขึ้น 2.28% MoM นำโดยหุ้นกลุ่ม Consumer Staples และ Utilities ภายหลังค่าเงินรูเปียห์มีเสถียรภาพมากขึ้นจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางแห่งประเทศอินโดนีเซีย 1.75% ในระหว่างปีตลอดจนแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ ในปี 2019 ที่เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ PCOMP Index ปรับตัวขึ้น 1.33% MoM ตลาดได้รับแรงสนับสนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายนที่ปรับตัวสูงขึ้นในอัตราที่ลดลง +6% จาก +6.7% ในสองเดือนก่อนหน้า โดยหุ้นกลุ่ม Industrials และ Consumer Discretionary ปรับตัวได้ดีกว่าตลาด ขณะที่ค่าเงินเปโซอ่อนค่าเล็กน้อย 0.25% MoM เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่แข็งค่าในเดือนก่อนหน้า ตลาดหุ้นมาเลเซีย FTSE BURSA Index ปรับตัวขึ้น 0.64% โดยเป็นการปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งเดือนหลังเนื่องจากราคาน้ำมันที่ยืนได้ในช่วงปลายเดือน หุ้นกลุ่ม Telco และ Industrials ปรับตัวขึ้นโดดเด่นกว่าตลาด ตลาดหุ้นประเทศเวียดนาม VNI Index ปรับตัวลง 3.67% MoM โดยได้รับแรงกดดัน


สถานการณ์ตลาดหุ้นในอาเซียน



กองทุนเปิดเค อาเซียน อีโคโนมิค คอมมูนิตี้ หุ้นทุน (K-AEC)

ผลการดำเนินงาน​

          ในเดือนที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานต่ำกว่า Benchmark อยู่ 1.35% โดยกองทุนได้รับผลกระทบเชิงลบจากการ Overweight ประเทศเวียดนาม ซึ่งตลาดปรับตัวลงเนื่องจากปัจจัยภายนอก ขณะที่ได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการ Underweight ประเทศไทยซึ่งตลาดปรับตัวลงเนื่องจากราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานในประเทศ


กลยุทธ์การลงทุน

          โดยในปัจจุบันทางกองทุนยังคงลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ในสัดส่วนต่ำกว่า Benchmark เนื่องจากคาดการณ์ว่านโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใหม่จะยังคงส่งผลเชิงลบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในบางกลุ่ม โดยเฉพาะบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล (Government-Linked Companies: GLC) และราคาน้ำมันโลกที่อยู่ในระดับต่ำ สำหรับรายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทางกองทุนให้น้ำหนักการลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุปโภคบริโภค

มุมมองในอนาคต

          คาดว่าตลาดหุ้นอาเซียนยังคงเผชิญกับปัจจัยภายนอกเป็นหลัก เช่น ความไม่แน่นอนเรื่องข้อสรุปมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ความผันผวนของค่าเงินในภูมิภาคกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และความกังวลของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ขณะที่เรามีมุมมองเป็นบวกในประเทศ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และประเทศเวียดนาม ซึ่งผลักดันโดยการบริโภคในประเทศและภาคการส่งออกที่ยังเจริญเติบโตได้ ตลอดจนมี Valuation ที่เหมาะสม อย่างไรก็ดียังคงมุมมองระมัดระวังในประเทศมาเลเซีย เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐและราคาน้ำมันโลกที่ยังผันผวน

​----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้อาจไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ l เนื่องจากกองทุนลงทุนในหุ้นเฉพาะภูมิภาค จึงมีความเสี่ยงและมีราคาผันผวนสูงกว่ากองทุนรวมที่มีการกระจายการลงทุนหลายภูมิภาค l ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต


ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน l สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 02-6733888 หรือ
www.kasikornasset.com l ข้อมูลจัดทำ ณ วันที่ 10 มกราคม 2562 โดยฝ่ายจัดการกองทุนตราสารทุน บลจ.กสิกรไทย​​​


Yes
2/8/2019