11/23/2018

​​

​​​​​​​​​​​​​​​ภาพรวมการลงทุน​

          เดือนที่ผ่านมาเริ่มต้นด้วยนักลงทุนจับตาดูผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ โดยผลออกมาตามคาดพรรคเดโมแครตพลิกกลับมาครองเสียงข้าง​มากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งผลการเลือกตั้งทำให้จำกัดความสามารถในการผลักดันร่างกฎหมายของประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งผลให้โอกาสที่สหรัฐฯและจีนจะเจรจาทางการค้าระหว่างสองประเทศเปิดกว้างขึ้น ในช่วงปลายเดือนตลาดหุ้นทั่วโลกกลับมาคึกคักอีกครั้ง ภายหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐฯได้มีแถลงการณ์ว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายกำลังเข้าใกล้ระดับสมดุล ขณะที่ราคาน้ำมันยังคงปรับตัวลงตลอดทั้งเดือน (WTI ลดลง 22% จากเดือนก่อนหน้า) หลังจากที่สหรัฐฯ ผ่อนผันให้ 8 ประเทศซื้อน้ำมันจากอิหร่านได้ประกอบกับรัสเซียและกลุ่ม OPEC มีการเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาชดเชย ค่าเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวในกรอบแคบ 95.7-97.7 โดยในเดือนนี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียนส่วนใหญ่ปรับตัวสูงขึ้น (ยกเว้นไทยและมาเลเซียที่ได้รับผลกระทบเชิงลบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง) ขณะที่ค่าเงินประเทศในอาเซียนเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้น

          ในเดือนพฤศจิกายน SET Index ปรับตัวลง 1.64% MoM นำโดยหุ้นกลุ่มกลุ่มพลังงาน ภายหลังราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย JCI Index ปรับตัวขึ้น 3.85% MoM นำโดยหุ้นกลุ่ม Financial และ Material ภายหลังธนาคารกลางแห่งประเทศอินโดนีเซียปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% โดยค่าเงินรูเปียห์ต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 6.3% MoM ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ PCOMP Index ปรับตัวขึ้น 3.19% MoM โดยได้รับแรงสนับสนุนจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือนตุลาคมทรงตัวที่ +6.7% YoY ต่อจากเดือนที่แล้วและธนาคารกลางแห่งประเทศฟิลิปปินส์ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ค่าเงินเปโซแข็งค่า 2.07% MoM เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ ตลาดหุ้นมาเลเซีย FTSE BURSA Index ปรับตัวลดลง 1.72% MoM ซื่งความไม่แน่นอนรายละเอียดของการทบทวนแผนพัฒนาเศรษฐกิจมาเลเซียฉบับที่ 11 และราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดันตลาด ตลาดหุ้นประเทศเวียดนาม VNI Index ปรับตัวขึ้น 1.29% MoM โดยเป็นการปรับตัวขึ้นของหุ้นในกลุ่มพลังงาน และ Consumer Staples ซึ่งตลาดโดยรวมได้รับผลกระทบเชิงบวกจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่มีท่าทีผ่อนปรนลงและโอกาสการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯที่ลดลง


สถานการณ์ตลาดหุ้นในอาเซียน



กองทุนเปิดเค อาเซียน อีโคโนมิค คอมมูนิตี้ หุ้นทุน (K-AEC)

ผลการดำเนินงาน​

          ในเดือนที่ผ่านมากองทุนมีผลการดำเนินงานสูงกว่า Benchmark อยู่ 1.32% โดยกองทุนได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการ Overweight ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งตลาดปรับตัวขึ้นได้อย่างโดดเด่นกว่าตลาดอื่นในภูมิภาค และ Underweight ประเทศมาเลเซียภายหลังตลาดยังคงได้รับผลกระทบเชิงลบจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐและราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

กลยุทธ์การลงทุน

          โดยในปัจจุบันทางกองทุนยังคงลงทุนในประเทศมาเลเซียและฟิลิปปินส์ในสัดส่วนต่ำกว่า Benchmark เนื่องจากความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและแนวโน้มค่าเงินของประเทศฟิลิปปินส์ สำหรับประเทศมาเลเซียคาดการณ์ว่านโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดใหม่จะยังคงส่งผลเชิงลบต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในบางกลุ่ม โดยเฉพาะบริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาล (Government-Linked Companies: GLC) และราคาน้ำมันโลกปรับตัวลงมา สำหรับรายกลุ่มอุตสาหกรรมที่ทางกองทุนให้น้ำหนักการลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอุปโภคบริโภค​

มุมมองในอนาคต

          คาดว่าตลาดหุ้นอาเซียนยังคงเผชิญกับปัจจัยภายนอกเป็นหลัก เช่น ความไม่แน่นอนเรื่องข้อสรุปมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ความผันผวนของค่าเงินในภูมิภาคกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และความกังวลของเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลง ขณะที่เรามีมุมมองเป็นบวกในประเทศอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม ซึ่งผลักดันโดยการบริโภคในประเทศและภาคการส่งออกที่ยังเจริญเติบโตได้ ขณะที่ประเทศฟิลิปปินส์เริ่มกลับมาน่าสนใจภายหลังเงินเฟ้อในประเทศเริ่มทรงตัวและตลาดหุ้นปรับตัวลงมาจนมี Valuation ที่เหมาะสม อย่างไรก็ดียังคงมุมมองระมัดระวังในประเทศมาเลเซีย เนื่องจากความไม่แน่นอนของนโยบายภาครัฐและราคาน้ำมันโลกที่ยังผันผวน


​------------------------------------------------------------------------------​----------------------------------------------------------------------------------------

กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจของผู้จัดการกองทุน เนื่องจากกองทุนไม่ได้อาจไม่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ l เนื่องจากกองทุนลงทุนในหุ้นเฉพาะภูมิภาค จึงมีความเสี่ยงและมีราคาผันผวนสูงกว่ากองทุนรวมที่มีการกระจายการลงทุนหลายภูมิภาค l ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต


ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน l สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 02-6733888 หรือ
www.kasikornasset.com l ข้อมูลจัดทำ ณ วันที่ 11 ธันวาคม 2561​ โดยฝ่ายจัดการกองทุนตราสารทุน บลจ.กสิกรไทย​​​
Yes
11/23/2018