4/1/2022

เมื่อ SCB แลกหุ้นเป็น SCBx ส่งผลต่อ กองทุน K-BANKING อ​​ย่างไร?

​​​​​กองทุน K-BANKING มีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นธนาคารตามดัชนี SET Banking Sector โดยมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น SCB ที่ 22% (ข้อมูล ณ 28ก.พ.65) และเมื่อ SCB แลกหุ้นเป็น SCBx ส่งผลต่อ กองทุน K-BANKING อย่างไร? ...วันนี้เรามีคำตอบ

ผลกระทบที่อาจเกิดกับกองทุน :

· กองทุนอาจจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาในช่วงที่มีการทำการแลกหุ้น (Tender Offer) และส่งมอบตราสาร

· ผลตอบแทนรายวันของกองทุนอาจไม่สอดคล้องกับดัชนีชี้วัด (ดัชนี SET Banking Sector) เนื่องจากกองทุนไม่สามารถซื้อ-ขายหุ้น SCB ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ 

คำแนะนำการลงทุน :

· หลีกเลี่ยงการทำรายการซื้อ-ขาย / สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในช่วงระหว่างวันที่ 11-27 เม.ย. 2565


สืบเนื่องจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ของกลุ่ม SCB มีการกำหนดให้ผู้ถือหุ้นต้องนำหุ้น SCB ไปแลกเป็นหุ้นบริษัทแม่ SCBx ในช่วงวันที่ 2 มี.ค ถึง 18 เม.ย. 2565 ซึ่งเมื่อกองทุนที่ลงทุนในหุ้น SCB ตอบรับการแลกหุ้นดังกล่าว จะส่งผลให้กองทุนไม่สามารถทำการซื้อขายหุ้น SCB ได้ จนกว่ากระบวนการแลกหุ้น SCB เป็นหุ้น SCBx เสร็จสิ้น โดยคาดว่าหุ้น SCBx จะเข้ามาในตลาดให้ทำการซื้อขายได้ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. 2565 เป็นต้นไป

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นธนาคารตามน้ำหนักในดัชนีหุ้นธุรกิจธนาคารของตลาดหลักทรัพย์ฯ (ดัชนี SET Banking Sector) ได้แก่ กองทุน K-BANKING เนื่องจากมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้น SCB ค่อนข้างสูงกว่ากองทุนอื่น (ณ 28 ก.พ. 65 อยู่ที่ 22%) จึงอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาในช่วงที่มีการทำการแลกหุ้น (Tender Offer) และส่งมอบตราสาร เนื่องจากกองทุนจะไม่สามารถทำการซื้อขายหุ้น SCB ในช่วงเวลาดังกล่าวได้ ส่งผลให้ผลตอบแทนรายวันของกองทุนอาจไม่สอดคล้องกับดัชนีชี้วัด (ดัชนี SET Banking Sector)

ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของผลตอบแทนกองทุน รวมถึงความเสี่ยงจากการที่ผลตอบแทนกองทุนอาจไม่เคลื่อนไหวสอดคล้องกับดัชนีชี้วัด ในช่วงระยะเวลาการแลกหุ้นและส่งมอบตราสาร  ทาง บลจ. กสิกรไทย แนะนำให้หลีกเลี่ยงการทำรายการซื้อ / ขาย / สับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในช่วงระหว่างวันที่ 11 – 27 เม.ย. 2565

 

สำหรับมุมมองต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร :

บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองในเชิงบวก เนื่องจากหุ้นกลุ่มธนาคารจะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และมีระดับราคาที่น่าสนใจ โดยคาดว่าคุณภาพของสินเชื่อจะมีแนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลง เนื่องจากการกลับมาดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ และมีการเริ่มเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทำให้ธนาคารพาณิชย์น่าจะสามารถปรับลดการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตลงได้ จึงคาดว่าผลประกอบการปีนี้น่าจะดีขึ้นชัดเจน นอกจากนี้ การที่ธนาคารหลายแห่งเริ่มปรับโครงสร้างธุรกิจและลงทุนเทคโนโลยี จะเป็นโอกาสสร้างรายได้เพิ่มและเพิ่มศักยภาพในการเติบโตในอนาคตได้อีกด้วย


บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย

ข้อมูล ณ วันที่ 1 เม.ย. 2565 

ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน



Yes
4/1/2022