10/10/2025

ปธน.ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีนำเข้าจากจีน สูงสุด 100%

Key Highlight : ปธน.ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีนำเข้าจากจีน สูงสุด 100%
• เป้าหมายเพื่อตอบโต้กรณีจีนจำกัดการส่งออก “แร่ Rare Earth” ที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมชิปและพลังงานสะอาด
• ทรัมป์ยังระบุว่าอาจ “ยกเลิกการพบกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง” ในเวที APEC
• ข่าวนี้จุดชนวนความกังวลว่า “สงครามการค้า” สหรัฐฯ - จีน อาจกลับมาอีกครั้ง
ที่มา: Reuters, Financial Times, 10 ต.ค. 2025

คำเเนะนำการลงทุน 
ผลกระทบต่อตลาดการเงิน (10 ต.ค. 2025)
• นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง หนีเข้าสินทรัพย์ปลอดภัย
-S&P500 -2.7%, Nasdaq -3.6%, Dow Jones -1.9%
-ดัชนี Semiconductor (SOX) ร่วง -6.3% - หนักสุดในรอบ 6 เดือน

• Bond Yield ร่วงแรง / ทองคำพุ่ง / ดอลลาร์อ่อนค่า
-อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับลงมาที่ ~4.05% (จาก 4.14%)
-ทองคำเพิ่มขึ้น +1.5% แตะ ~4,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์
-ดอลลาร์อ่อนค่าลง -0.6%

• VIX Index พุ่งแตะระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนเมษายน สะท้อนภาวะความผันผวนและความกลัวในตลาดเพิ่มขึ้น
• ราคาน้ำมันร่วงแรง จากความกังวลอุปสงค์โลก
-WTI -5% ปิดที่ ~58.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
-Brent -3.8%

แนวโน้มตลาดในสัปดาห์หน้า
• คาดว่าในวันจันทร์ (13 ต.ค.) ตลาดหุ้นเอเชียจะปรับตัวลงตามทิศทางสหรัฐฯ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ และส่งออก
• ตลาดที่พึ่งพาการค้าโลก เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย น่าจะปรับตัวลงมากกว่าค่าเฉลี่ย
• กลุ่ม Defensive, High Dividend, REITs และ Utilities มีแนวโน้มปรับตัวดีกว่าตลาด (outperform)
• เงินทุนต่างชาติอาจชะลอการไหลเข้า เพื่อรอความชัดเจน

มุมมองการลงทุน
• นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ (Reuters, Bloomberg) มองว่าท่าทีของทรัมป์ครั้งนี้เป็น “กลยุทธ์ต่อรอง” (Negotiation Tactic) เพื่อสร้างแรงกดดันก่อนการเจรจากับจีน คล้ายพฤติกรรมที่ขู่ภาษีเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองในหลายครั้งที่ผ่านมา

• หากมีการเก็บภาษี 100% จริง ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเบื้องต้น (Preliminary Estimate) ดังนี้
-Peterson Institute for International Economics (PIIE, 2025) คาดว่าภาษีเฉลี่ย 30% จะกดดัน GDP สหรัฐฯ ราว -0.5% จากกรณีฐาน (Base Case) โดยหากขึ้นภาษีเต็ม 100% ต่อสินค้าจีนทั้งหมด อาจกระทบ -1.5% ถึง -2.0% ต่อ GDP ภายใน 12 เดือน
-IMF Simulation (2024) ประเมินว่า GDP จีนอาจลดลง -0.8% ถึง -1.0% โดยเฉพาะภาคส่งออกเทคโนโลยี
-Yale Budget Lab (2025) ระบุว่าภาษีอาจทำให้เงินเฟ้อสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 0.8 - 1.2% และลดสวัสดิการผู้บริโภค

คำเเนะนำการลงทุน 
• ทยอยสะสมกองทุนผสมที่มีกลยุทธ์ปรับพอร์ตอย่างคล่องตัว (K-WealthPLUS Series)
• เพิ่มน้ำหนักตราสารหนี้ต่างประเทศ (K-GDBOND) เพื่อช่วยลดทอนความผันผวนของพอร์ตโดยรวม จากกรณีที่เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงในการชะลอตัวมากขึ้น
• รักษาสัดส่วนทองคำไม่เกิน 5% ของพอร์ต (K-GOLD) เพื่อช่วยลดทอนความผันผวนของพอร์ตโดยรวม จากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และภาษีการค้า
• รอจังหวะสะสมหุ้นเทคฯสหรัฐฯ จีน และเอเชียแปซิฟิก ในจังหวะปรับฐาน (K-USXNDQ, K-GTECH, K-ATECH)
• หากภาวะ Risk-off ยืดเยื้อ เน้นกองทุนที่มี Income Strategy (K-GPIN, K-PROPI, K-VALUE)

ที่มา: KAsset Investment Strategy บลจ.กสิกรไทย 

ข้อมูล ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2025

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน​

Yes
10/10/2025
0
situation