3/31/2025

เกิดอะไรขึ้น? เมื่อหุ้นสหรัฐฯร่วงยกแผงในวันศุกร์ที่ผ่านมา


หุ้นสหรัฐฯร่วงยกแผงในวันศุกร์ที่ผ่านมา โอกาสทยอยสะสมหรือรอก่อน​


วัศุกร์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลง 2-3% แรงกดดันจากหลายปัจจัย

• ดัชนี S&P 500 -2% ปิดที่ 5,580.94

• ดัชนี Dow Jones -1.7% ปิดที่ 41,583.90​

• ดัชนี Nasdaq -2.7% ปิดที่ 17,322.99

 

ปัจจัยที่กดดันตลาด

• แรงกดดันเงินเฟ้อ

ดัชนี Core PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญมากที่สุด เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ. สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ และเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่และอาจทำให้ Fed ชะลอการปรับลดดอกเบี้ย ​

• การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย โดย Personal Spending เติบโตดีขึ้นจากเดือนที่แล้ว ที่ 0.4% แต่ต่ำกว่าคาด และตัวเลข Personal Income ที่เติบโตที่ 0.8% ดีขึ้นกว่าที่คาด และดีกว่าเดือนที่แล้ว แต่ตลาดให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อ Core PCE ทำให้ตลาดปรับตัวลง

 

มุมมองการลงทุน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงจากความกังวลต่อเงินเฟ้อ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่แย่ลง และความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งทำให้นักลงทุนเริ่มปรับมุมมองต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและหันไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น

 

คำแนะนำการลงทุน

นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยถึงปานกลาง แนะนำชะลอการลงทุนเพื่อที่จะพิจารณาความรุนแรงของนโยบายการค้าวันที่ 1-2 เม.ย.

 

สำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้สูง สามารถทยอยแบ่งไม้เข้าซื้อ

• ส่วนของ Core พอร์ต ลงทุนในกองทุนผสม แนะนำ K-WealthPLUS Series

• ส่วนของพอร์ต Satellite เน้นลงทุนไปในกองทุนกลุ่มที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงระยะสั้น-กลาง แนะนำกองทุน K-GSELECT K-GTECH K-USA K-VIETNAM และ K-PROPI


สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ต่ำ

• K-FIXEDPLUS กองทุนตราสารหนี้ ที่จะได้รับประโยชน์จากช่วงที่ดอกเบี้ยโลกและไทยกำลังอยู่ในวัฏจักรขาลง  

• K-SF สำหรับผู้ที่ยังไม่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง  และอยากพักเงินระยะสั้น เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนมากกว่าเงินฝาก

 

ที่มา: KAsset Investment Strategy

ข้อมูล ณ วันที่ 29 มีนาคม  2025

 

คำเตือน ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

​ 

​ 


Yes
3/31/2025
0
situation