บลจ.กสิกรไทย ขอบคุณผู้ลงทุนที่มอบความไว้วางใจกองทุน K-WealthPLUS Series เป็นกองทุน Core Port พร้อมประกาศความสำเร็จอีกขั้นปั้น AUM ทะยานแตะ 50,000 ล้านบาท ขึ้นแท่นแชมป์กลุ่มกองทุนผสมยอดขายสูงสุดในอุตสาหกรรม ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญการตลาด “มูฟที่ใช่...พาคุณไปได้ไกลกว่าที่คิด” ตอกย้ำภาพลักษณ์ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง บลจ.กสิกรไทย และ J.P. Morgan Asset Management และสร้างความเชื่อมั่นให้กับกองทุน K-WealthPLUS Series
นายวิน พรหมแพทย์ CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ประกาศความสำเร็จอีกขั้นของกองทุน K-WealthPLUS Series ขึ้นแท่นแชมป์กลุ่มกองทุนผสมที่มียอดขายสูงสุดในอุตสาหกรรม ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) กว่า 50,000 ล้านบาท (ที่มา: Morningstar ณ สิงหาคม 2568) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ขอขอบคุณผู้ลงทุนทุกท่านที่ได้มอบความไว้วางใจให้กองทุน K-WealthPLUS Series เป็นพอร์ตการลงทุนหลัก (Core Portfolio) เพื่อสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนที่ยั่งยืนในระยะยาว
นายวินกล่าวต่อไปว่า ความสำเร็จของกองทุน K-WealthPLUS Series ในครั้งนี้ ยังได้รับแรงสนับสนุนจากความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่าง บลจ.กสิกรไทย และ J.P. Morgan Asset Management (JPMAM) โดยทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันพัฒนาแนวทางการบริหารพอร์ตการลงทุน แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการลงทุนเชิงลึกทั้งในระดับประเทศและระดับโลก ซึ่งช่วยให้สามารถปรับพอร์ตกองทุน K-WealthPLUS Series ให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญการตลาดภายใต้คอนเซ็ปต์ “มูฟที่ใช่...พาคุณไปได้ไกลกว่าที่คิด” เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์และสร้างความเชื่อมั่นในกองทุน K-WealthPLUS Series ทั้งด้านผลการดำเนินงาน ความเชี่ยวชาญของทีมบริหาร และความร่วมมือระดับโลก
“ในช่วงที่ผ่านมา ตลาดการลงทุนทั่วโลกเผชิญกับความผันผวนค่อนข้างสูง ส่งผลให้สินทรัพย์หลายประเภทปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากการลงทุนในพอร์ตที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสมได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ กองทุน K-WealthPLUS Series เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการบริหารพอร์ตแบบกระจายการลงทุน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงเชิงระบบและรักษาเสถียรภาพของผลตอบแทนในช่วงเวลาที่ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง โดยสามารถจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่ควบคุมได้ และฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเมื่อตลาดเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ จึงเชื่อมั่นได้ว่าหากในอนาคตตลาดมีความผันผวนเพียงใด กองทุน K-WealthPLUS Series จะยังคงเป็นกองทุน Core Port ที่แข็งแกร่ง เพื่อรักษาเป้าหมายทางการเงินของผู้ลงทุนได้อย่างมั่นคงในระยะยาว” นายวินกล่าว
นายวินกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน K-WealthPLUS Series มีผลการดำเนินงานนับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ติดอันดับ 1st Quartile ในกลุ่ม Conservative, Moderate และ Aggressive Allocation นอกจากนี้ กองทุน K-WealthPLUS Series ยังได้รับการจัดอันดับ 4-5 ดาวจาก Morningstar (ที่มา: Morningstar ณ สิงหาคม 2568) ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-WealthPLUS Series สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ซื้อง่ายอย่างปลอดภัยผ่าน App K PLUS และ K-My Funds หรือ ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้แทนสนับสนุนการขาย ทั้งนี้ ผู้ลงทุนติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกช่องทางของกสิกรไทย หรือ ผู้แทนสนับสนุนการขาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 และศึกษาข้อมูลด้วยตัวเองได้ที่ www.kasikornasset.com
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน
นายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) พร้อมคณะผู้บริหารของ บลจ.กสิกรไทย ให้การต้อนรับนายแพทริก เฮมเมอร์ (H.E. Mr. Patrick Hemmer) เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย และนายทอม เธโอบาลด์ (Mr. Tom Théobald) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Luxembourg for Finance (LFF) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลการพัฒนาศูนย์กลางการเงินของลักเซมเบิร์ก เนื่องในโอกาสเยี่ยมชมธุรกิจจัดการกองทุน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อการพัฒนาตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงทิศทางการขับเคลื่อนการลงทุนโดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินของทั้ง บลจ.กสิกรไทย และ LFFนายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) พร้อมคณะผู้บริหารของ บลจ.กสิกรไทย ให้การต้อนรับนายแพทริก เฮมเมอร์ (H.E. Mr. Patrick Hemmer) เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย และนายทอม เธโอบาลด์ (Mr. Tom Théobald) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Luxembourg for Finance (LFF) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลการพัฒนาศูนย์กลางการเงินของลักเซมเบิร์ก เนื่องในโอกาสเยี่ยมชมธุรกิจจัดการกองทุน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อการพัฒนาตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงทิศทางการขับเคลื่อนการลงทุนโดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินของทั้ง บลจ.กสิกรไทย และ LFF