3/3/2022

จับตาสถานการณ์รัสเซีย - ยูเครน ส่งผลต่อการลงทุนอย่างไร?

​​​

Highlight :

- ความขัดแย้งรัสเซีย - ยูเครน ทำตลาดการเงินทั่วโลกปั่นป่วน

- ราคาน้ำมันดิบและทองคำยังพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง

- ตลาดหุ้นไทยน่าจะได้รับแรงกดดันน้อยกว่าประเทศอื่น

​หลังจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ปะทุกันมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ล่าสุดประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย ได้เริ่มประกาศปฏิบัติการทางทหารในแคว้นดอนบัสของประเทศยูเครน หลังจากที่รัสเซียประกาศยอมรับเอกราชของเขตโดเนสตก์และลูฮันสก์ในแคว้นดอนบัส ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินทั่วโลกเป็นอย่างมาก

 

- ตลาดหุ้นเอเชียร่วงทั้งกระดาน ไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทย ต่างปรับตัวลง 2-3% (ข้อมูล ณ สิ้นวัน 24 ก.พ. 65)

- ด้านตลาดหุ้นยุโรปก็ร่วงทันทีหลังเปิดตลาด ดัชนี STOXX Europe 600 ปรับตัวลงประมาณ 3%

- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (Yield) อายุ 10 ปี ปรับตัวลงแรง จากระดับ 1.97% มาอยู่ที่ 1.88% (ราคาปรับตัวขึ้น เนื่องจากคนหนีจากสินทรัพย์เสี่ยงมาซื้อ)

- ราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งขึ้นกว่า 7% แตะที่ระดับ 104 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

- ราคาทองคำบวกกว่า 3% มาแตะที่ระดับ 1,968 ดอลลาร์ต่อออนซ์

(ข้อมูลของตลาดหุ้นยุโรป, Bond Yield, น้ำมัน, ทองคำ ณ ช่วงเวลาประมาณ 5 โมง)

 

นักลงทุนควรเตรียมตัวรับมืออย่างไร?

สถานการณ์ภาวะตลาดการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์จะยังคงมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเติบโตสูง (Growth) ที่อาจเผชิญแรงขายออกมามากกว่ากลุ่มอื่น ขณะที่พันธบัตรรัฐบาลและทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาที่ยังขาดความชัดเจน แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ที่จะตามมาอย่างต่อเนื่อง ว่าสหรัฐฯและประเทศพันธมิตรจะมีการตอบโต้อย่างไร หากสถานการณ์บานปลายเข้าสู่ภาวะสงครามเต็มตัวก็อาจส่งผลต่อแนวทางการดำเนินนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ อีกด้วย แต่โดยรวมภาวะตลาดจะยังมีการผันผวนสูง ถือเป็นช่วงที่ควรชะลอการลงทุนและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

 

ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย?

สำหรับผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย สถานการณ์ดังกล่าวน่าจะสร้างแรงกดดันให้ประเทศไทยน้อยกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากผลกระทบโดยตรงจากสถานการณ์ของประเทศยูเครนยังค่อนข้างจำกัด รวมถึงมีน้ำหนักของกลุ่มหุ้นในกลุ่มพลังงานในดัชนีค่อนข้างสูง ประกอบกับแรงหนุนจากการเริ่มกลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเข้าเมือง และเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้ามาในไทยอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างดีตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะเปรียบเทียบกับตลาดอื่น ในระยะสั้นจึงน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เพราะนักลงทุนยังคงรอความชัดเจนจาก Fed รวมถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์ในยูเครนที่อาจรุนแรงมากขึ้นอีกในอนาคต

 

สำหรับใครที่คิดจะลงทุนในช่วงนี้ก็อย่าลืมดาวน์โหลดแอป K-My Funds ติดเครื่องไว้ เพราะแอปนี้ทำได้ทั้งเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชม. อยู่ที่ไหนก็ลงทุนได้ตลอดเวลา ที่สำคัญยังมีการอัปเดตข่าวสารแวดวงการลงทุนทั่วโลก แนะนำกองทุนน่าสนใจ และฟีเจอร์ช่วยจัดพอร์ตกองทุนให้ตรงสไตล์ของเรา ช่วยให้เราตามทันทุกการลงทุนทั่วโลกได้ในแอปเดียว คลิก https://bit.ly/3HfUPoi

 

บทความโดย คุณ นาวิน อินทรสมบัติ

Chief Investment Officer, บลจ.กสิกรไทย​

No
3/3/2022