11/15/2019

​​​

​​


ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเวลาผ่านไปไวเหลือเกิน หลายคนรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งจะจัดการกับภาษีไปได้ไม่นาน ช่วงเวลาของการวางแผนภาษีก็เวียนกลับมาอีกครั้ง

“กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ” หรือ RMF (Retirement Mutual Fund) เป็นหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจและมีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่มองหาทางเลือกในการลดหย่อนภาษี เพราะเมื่อลงทุนกับ RMF แล้ว นักลงทุนจะได้ทั้งวางแผนภาษีและวางแผนเกษียณไปด้วยในตัว แต่ด้วยระยะเวลาการลงทุนที่ใช้เวลานาน อีกทั้งยังมีเงื่อนไขที่ต้องศึกษา ทำให้หลายคนเลือกมองข้ามข้อดีของ RMF ไป

แต่แท้จริงแล้ว RMF มีคุณค่าและมีความหมายกับแผนการเงินระยะยาวมากกว่าที่คิด และเพราะอะไรเราถึงต้องเริ่มลงทุน RMF กันตั้งแต่วันนี้ ติดตามคำตอบได้เลย!


RMF แท้จริงไม่ใช่กองทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว

ก่อนที่จะลงทุนกับ RMF ได้นั้น ต้องเข้าใจจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของ RMF ก่อน...ความจริงอ่านชื่อเต็มก็รู้เป้าหมายที่แท้จริงของกองทุนรวมชนิดนี้แล้วว่าเป็น “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ(ในวัยเกษียณ)” มีเป้าหมายก็เพื่อ “ลงทุนระยะยาวเพื่อเป็นเงินสำหรับใช้จ่ายในช่วงบั้นปลายชีวิต” RMF เป็นกองทุนที่ออกมาเพื่อให้คนไทยรู้จักการวางแผนเกษียณ และมีเงินใช้ในบั้นปลายชีวิต ข้อดีจริงๆคือเป็นเครื่องมือช่วยสร้างเงินก้อนในตอนเกษียณอายุ ซึ่งมนุษย์เงินเดือนชาวไทยส่วนใหญ่ก็จะเกษียณกันในช่วงอายุ 55-60 ปี สอดคล้องกับเงื่อนไขในการขาย RMF นั่นแหละ ส่วนสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีเป็นเพียงโบนัสที่ได้จากการลงทุนใน RMF เท่านั้น ถ้าอยากจะวางแผนเกษียณไปด้วยและลดหย่อนภาษีไปด้วย พิจารณา RMF ไว้เป็นทางเลือกแรกสิ ดีงามแน่นอน


เงื่อนไข RMF คือเครื่องมือสร้างวินัยการเงิน

หลายคนมองว่าเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาลงทุนที่ยาวนานและต่อเนื่องเป็นอุปสรรคของการลงทุนใน RMF ​เนื่องจาก RMF มีเงื่อนไขให้ลงทุนขั้นต่ำ 3% ของรายได้หรือ 5,000 บาท และลงทุนต่อเนื่องทุกปี (เว้นได้ 1ปี) จะขายคืนได้ก็ต้องรออายุ 55 ปี ซึ่งหลายคนคิดว่าเป็นระยะเวลาที่นานเกินไป จึงพลาดโอกาสสร้างวินัยการเงินจากเงื่อนไขเหล่านี้ไป แต่จริงๆ แล้วเงื่อนไขที่บอกให้ลงทุนขั้นต่ำ และลงทุนต่อเนื่อง มีไว้เพื่อสร้างวินัยที่มั่นคงในอนาคตให้กับนักลงทุน หากตอนที่อายุยังน้อยไม่ได้ใช้สิทธิเยอะ อย่างน้อยก็ใช้สิทธิขั้นต่ำเพื่อสร้างความสม่ำเสมอให้กับเงินเกษียณได้ ส่วนเงื่อนไขที่ให้ขายคืนได้ก็ต่อเมื่อมีอายุมากกว่า 55 ปี และถือครองมาไม่น้อยกว่า 5 ปี มีไว้เพื่อช่วยสร้างโฟกัสเป้าหมายของเงินลงทุนให้อยู่กับแผนการการเกษียณในระยะยาว เพราะกว่าจะขายได้ก็คือใกล้ช่วงเวลาเกษียณของคนส่วนใหญ่พอดี ทำให้นักลงทุนไม่นำเงินก้อนนี้ไปใช้เพื่อเป้าหมายอื่น เห็นมั้ยว่าเงื่อนไขของ RMF มีดีกว่าที่คิดนะ


ใครๆ ก็ซื้อ RMF ในวันนี้ได้ เพื่อชีวิตเกษียณเงินล้านในวันหน้า

RMF เหมาะกับคนทุกกลุ่มที่อยากวางแผนเกษียณ เพราะเป็นเงินออมเพื่อการลงทุนระยะยาวที่ไม่ว่าใครก็สามารถซื้อได้ ไม่ว่าจะเป็นคนทำงานฟรีแลนซ์ หรือมนุษย์เงินเดือนที่บริษัทไม่มีสวัสดิการ เพื่อให้มีเงินบั้นปลายชีวิตการทำงานเหมือนกับ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ส่วนใครที่มีสวัสดิการข้างต้นอยู่แล้ว แต่ให้ความสำคัญกับการเกษียณที่มั่งคั่ง หรือเกษียณแล้วจะอยู่อย่างสุขสบายเป็นพิเศษ ก็ซื้อ RMF เพิ่มเติมได้ และอย่าลืมว่านอกจากสิทธิลดหย่อนภาษีที่ได้จากกองทุนสำรองฯ/กบข. ที่มีอยู่แล้ว ยังสามารถซื้อ RMF ได้อีกไม่เกิน 15% ของรายได้ทั้งปี (แต่ลดหย่อนได้ไม่เกิน 5 แสนบาทเมื่อรวมกับสวัสดิการข้างต้นและเบี้ยประกันบำนาญ) แนะนำว่าให้ซื้อเต็มสิทธิ์ไปเลย นอกจากนี้ RMF ก็มีนโยบายการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ให้เลือก เช่น ตลาดเงิน ตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ทำให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนตามความต้องการและความเสี่ยงที่สามารถรับได้ ต่างกับ LTF ที่ทุกกองทุนความเสี่ยงสูงเท่ากัน เพราะลงทุนในหุ้นไทยมากกว่า 65% เรียกได้ว่า RMF เหมาะกับคนทุกไลฟ์สไตล์ ทุกช่วงวัยทำงาน และมีระดับความเสี่ยงให้เลือกตามความสนใจ

 

ซื้อ RMF แบบไหนดี?

RMF เป็นกองทุนรวมที่มีนโยบายให้เลือกลงทุนหลากหลาย สำหรับคนที่อยากวางแผนเกษียณโดยได้โบนัสเป็นการลดหย่อนภาษี สามารถซื้อ RMF ได้มากกว่าหนึ่งกอง เป็นทางเลือกในกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตลงทุนเพื่อการเกษียณของตัวเอง สิ่งที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญคือ ผลตอบแทนที่ต้องการ และ ความเสี่ยงที่รับได้ ถ้ายังอายุน้อย สามารถลงทุนได้ระยะยาว การเลือกลงทุนในหุ้นไทยผ่าน RMF เป็นเรื่องที่นักลงทุนไม่ควรพลาด เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าหุ้นไทยสามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับผลตอบแทนระยะยาวที่ดี และสามารถลดความเสี่ยงจากการขาดทุนได้ เนื่องจากการซื้อ RMF นักลงทุนต้องถือครองหน่วยลงทุนขั้นต่ำคือ 5 ปีขึ้นไป และมีแนวโน้มที่จะถือ RMF เฉลี่ยมากกว่า 10 ปี จนถึง 30 ปีเลยทีเดียว ทำให้มีโอกาสกำไรจากการลงทุนในหุ้นได้มากยิ่งขึ้น หรือหากอยากกระจายความเสี่ยง ลงทุนกับหุ้นไทย ตราสารหนี้ และอสังหาฯ ในระยะยาวเพื่อการเกษียณ ก็สามารถเลือกลงทุนกับ RMF ที่มีนโยบายลงทุนดังกล่าว ด้วยการจัดสัดส่วนพอร์ตตามต้องการ


ลองดูตัวอย่างของการลงทุนใน RMF เพื่อแผนเกษียณกันดีกว่า

สมมติว่า Mr.invest อายุ 30 ปี ตั้งใจลงทุนใน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นเดือนละ 2,000 บาท จนถึงอายุ 55 ปี (นับเป็นระยะเวลาลงทุน 25 ปี) เมื่อลองคำนวณคร่าวๆแล้ว จากเงินต้นทั้งหมดเพียง 600,000 บาท (24,000 x 25 ปี) นายออมเงินมีโอกาสได้เงินก้อนที่ประมาณ

1,385,000 บาท หาก RMF ทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ 6% ต่อปี

1,900,000 บาท หาก RMF ทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ 8% ต่อปี

2,650,000 บาท หาก RMF ทำผลตอบแทนเฉลี่ยได้ 10% ต่อปี


RMF ที่ลงทุนในหุ้นแบบไหนเหมาะกับสภาพตลาด?

ตลาดหุ้นไทยนับเป็นตัวแปรสำคัญสำหรับการเลือกลงทุน RMF ที่ลงทุนในหุ้น ปัจจุบันตลาดยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงภายนอก ทั้งประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ดูน่ากังวลและยังหาทางออกไม่ได้ชัดเจน สภาวะเศรษฐกิจซบเซาจากทั่วโลก แต่ยังโชคดีที่ทิศทางของนโยบายจากธนาคารกลางโลกเริ่มมีความผ่อนคลายมากขึ้น เราอาจเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐออกมาช่วยรองรับความผันผวนจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้บ้าง ในระยะยาวตลาดหุ้นไทยมีภาพรวมเป็นบวก มีปัจจัยสนับสนุนจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ รวมถึงสภาพคล่องจากทั่วโลกที่ยังให้ความสนใจมาที่ตลาดหุ้นไทย คาดการณ์อัตราการเติบโตของกำไรในบริษัทจดทะเบียน ที่ 2.81% ยังถือว่าเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น กองทุน RMF ที่เลือกลงทุนกับหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ศักยภาพดีไม่ผันผวนไปตามภาวะตลาด และสามารถเติบโตในระยะยาวดูเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

 

เลือก KEQRMF กองทุนหุ้นใหญ่

ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อ RMF เพื่อลงทุนในปีนี้ KEQRMF กองทุนหุ้นใหญ่จากบลจ. กสิกรไทย (KAsset) นับว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทใหญ่ชั้นนำที่มีปัจจัยพื้นฐานดีในกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของธุรกิจ และมีกลยุทธ์แบบ Active คือมุ่งทำผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนีชี้วัด หรือดัชนีผลตอบแทนรวมตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET TRI) การถือหุ้นใหญ่พื้นฐานดีจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตลงทุนในระยะยาวได้ในทุกสภาวะตลาดอีกด้วย​


KEQRMF ดียังไง?

KEQRMF เป็นกองทุน RMF ขายดีอันดับ 1 ของ KAsset (ข้อมูล 1 ม.ค.-30 ส.ค.62) และยังได้รับการจัดอันดับ 4 ดาวจาก Morningstar (Overall rating ณ วันที่ 31 ต.ค.62) โดยกองทุน KEQRMF ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล และเน้นไปที่การเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว ซึ่งการเลือกลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีสามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้พร้อมกันทั้งด้านการลงทุนเพื่อการเกษียณ และการวางแผนภาษี  สามารถซื้อได้ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นปีเพื่อผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว


ซื้อผ่านแอปรับโปรพิเศษ!

ใครที่สนใจลงทุนกับกองทุน KEQRMF ของ KAsset สามารถลงทุนได้ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 500 บาท พร้อมรับโปรพิเศษ เมื่อซื้อผ่านแอป K PLUS หรือ K-My Funds ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.-30 ธ.ค.62 รับฟรี Starbucks e-Coupon สูงสุด 500 บาท*

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0-2673-3888

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://www.kasikornasset.com/Pages/LTF-RMF.html


*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บลจ.กสิกรไทยกำหนด • ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน • ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้ยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

Yes
11/15/2019