ศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รายละเอียด ดังนี้
ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเป็นเอกฉันท์ รับคำร้องของประธานวุฒิสภาให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และมีมติ 7 ต่อ 2 สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีชั่วคราวตั้งแต่ 1 ก.ค. 2568 เป็นต้นไป จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยชี้ขาด ให้ส่งเอกสารชี้แจงภายใน 15 วัน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี เข้ารับหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรีในทันที
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ปิดตลาดแตะระดับ 1,110 จุด เนื่องจากนักลงทุนมีการคาดการณ์ไว้ในระดับหนึ่งแล้ว และผลของคำตัดสินไม่ทำให้เกิดภาวะหยุดชะงักของการทำงานของรัฐบาล โดยรักษาการนายกรัฐมนตรีปฏิบัติงานต่อไปได้
ประเด็นที่ต้องจับตาในระยะถัดไป
1. เสถียรภาพของรัฐบาล โดยปัจจุบันรัฐบาลมีเสถียรภาพลดลง หลังจากการถอนตัวของพรรคภูมิใจไทย จึงมีเสียงข้างมากในสภาน้อยลง ทำให้การบริหารจัดการอาจไม่ราบรื่น
2. ผลการพิจารณาของศาลในส่วนของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร และคดีของคุณทักษิณ ชินวัตร
3. ความชัดเจนผลการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้
4. การอนุมัติพ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 โดยวันที่ 14 ส.ค. จะมีการลงคะแนนเสียงพ.ร.บ. งบประมาณในวาระ 2 และ 3
5. สถานการณ์การชุมนุม
มุมมองการลงทุน
ในระยะสั้น แม้ upside ของตลาดหุ้นไทยจะไม่มากเพราะยังมีความไม่แน่นอนหลายด้าน เช่น นโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และการเมืองในประเทศ แต่ downside จำกัด เนื่องจากปัจจัยลบสะท้อนเข้ามาในตลาดค่อนข้างมากแล้ว และ ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยซื้อขายที่ 12-m Forward P/E ในระดับต่ำใกล้เคียงกับช่วงโควิด
"KAsset ยังคงคำแนะนำจัดพอร์ตที่เน้นการลงทุนในหุ้นปันผลสูง เนื่องจากมีโอกาสให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนและตลาดหุ้นที่มีความผันผวนสูง"
กองทุนหุ้นไทยที่ KAsset แนะนำ
K-VALUE : เน้นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด