
ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ 0.50% เหลือ 5.5%
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือน โดยตลาดหุ้นอินเดีย (Nifty 50) ก็มีการตอบรับในเชิงบวก
Key Highlight
• ลดดอกเบี้ยนโยบาย (Repo Rate) 50 bps เหลือ 5.5% ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ส.ค. 2022
• ถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ของปีนี้ (ก่อนหน้านี้ในเดือนก.พ. และเม.ย. ลดครั้งละ 25 bps)
• เป็นการเปลี่ยนจุดยืนนโยบายจาก "ผ่อนคลาย" (Accommodative) เป็น "เป็นกลาง" (Neutral)
• ตลาดหุ้นอินเดีย (Nifty 50) ปรับตัวขึ้นประมาณ 1% ในวันนี้ (6 มิ.ย. 2025)
เหตุผลที่ RBI ลดดอกเบี้ย
1) เงินเฟ้อลดลงต่อเนื่อง
• อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเม.ย. อยู่ที่ 3.16% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายกลางของ RBI ที่ 4%
2) สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
• RBI คงประมาณการ GDP ที่ 6.5% สำหรับปี 2025 - 2026
• แต่เศรษฐกิจยังคงเผชิญความไม่แน่นอน ทั้งภายในและภายนอกประเทศ
• การลดดอกเบี้ยจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยของภาคครัวเรือนและธุรกิจ
3) กระตุ้นการลงทุนและการบริโภค
• การลดดอกเบี้ยทำให้ค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระบ้านและรถยนต์ (EMI) ลดลง
4) บริหารความเสี่ยงจากภายนอก
• RBI ต้องการใช้ช่วงเวลานี้ในการ “เร่ง” การสนับสนุนเศรษฐกิจ ก่อนเผชิญความผันผวนรอบใหม่
มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นอินเดีย
KAsset ได้ปรับมุมมองตลาดหุ้นอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น Overweight ในช่วงเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่า อินเดียจะยังเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจำกัด และธนาคารกลางสามารถลดดอกเบี้ยได้จากเงินเฟ้อที่ลดลงแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีเม็ดเงินจากงบประมาณของภาครัฐที่เริ่มมีการเบิกจ่ายเข้ามาในระบบเศรษฐกิจอีกครั้ง และจากข่าวนี้ เรายังคงมุมมองแนะนำลงทุน สามารถทยอยสะสมได้สำหรับตลาดหุ้นอินเดีย
กองทุนแนะนำ
• K-INDIA กองทุนหุ้นอินเดีย เน้นหุ้นคุณภาพดี เติบโตสูง และไม่จำกัดโอกาสการลงทุนในหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
ECB ลดดอกเบี้ยครั้งที่ 8 ท่ามกลางความเสี่ยงจากสงครามการค้า แต่ส่งสัญญาณพักการลดดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. นี้
Key Highlight
• ลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก (Deposit Facility Rate) ลง 25 bps เหลือ 2.00% อัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ (Main Refinancing Operations) เหลือ 2.15% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (Marginal Lending Facility) เหลือ 2.40%
• ตลาดคาดว่า ECB อาจลดดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ แต่การตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในอนาคต
• ECB เปลี่ยนจุดยืนทางนโยบายเป็น "ระดับเป็นกลาง" และเน้นการตัดสินใจตามข้อมูลเศรษฐกิจที่ได้รับ
เหตุผลที่ลดดอกเบี้ย
• อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนลดลงเหลือ 1.9% ใกล้เป้าหมายของ ECB ที่ 2%
• เศรษฐกิจยูโรโซนเผชิญความเสี่ยงจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และการชะลอตัวของการเติบโต
มุมมองการลงทุนตลาดหุ้นยุโรป
KAsset ยังคงมุมมองยุโรปไว้ที่ Neutral เนื่องจากสงครามการค้ายังมีความไม่ชัดเจน ถึงแม้ว่า ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นได้ดีจากความเชื่อมั่นจากเม็ดเงินการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะประเทศเยอรมัน
KAsset ยังมองว่ายุโรปยังมีความไม่แน่นอน จากเรื่องสงคราม และภาษีนำเข้า อีกทั้ง ECB ส่งสัญญาณพักการลดดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้าอีกด้วย ทำให้เรายังคงมุมมองการลงทุนเช่นเดิม
ที่มา: KAsset Investment Strategy บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2025
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน