บลจ.กสิกรไทย เสิร์ฟกองทุนใหม่ K-GPIN-A(A) เพิ่มการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ลุยคว้าโอกาสทำกำไรจากหุ้น Defensive ทั่วโลก พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการขาย Call Option เสริมความแข็งแรงให้พอร์ตลงทุน รับมือได้ทุกภาวะความผันผวนจากสถานการณ์ตลาดโลกปัจจุบัน เปิดเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 17 - 24 มิถุนายนนี้
นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ตลาดการลงทุนทั่วโลกยังคงเผชิญกับความผันผวนอันเป็นผลจากนโยบายรัฐบาลสหรัฐฯ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อตลาดและมีความไม่แน่นอนอยู่ค่อนข้างสูง ในขณะเดียวกันตลาดยังมีปัจจัยสนับสนุนที่ช่วยจำกัดความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน อย่างไรก็ดี บลจ.กสิกรไทย ยังคงมองเห็นโอกาสการลงทุนจากหุ้นทั่วโลก อีกทั้งผู้ลงทุนส่วนใหญ่ยังมีความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ต่างประเทศ โดยเห็นได้จากเสียงตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงที่ผ่านมา ที่ทำให้กองทุน K-GPINUH ซึ่งเป็นแบบไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มีมูลค่า AUM สูงกว่า 1,500 ล้านบาท (ที่มา: บลจ.กสิกรไทย ณ วันที่ 10 มิ.ย. 68)
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย จัดตั้งกองทุนใหม่ชื่อว่า กองทุนเปิดเค พรีเมียมอินคัมหุ้นโลก-A ชนิดสะสมมูลค่า หรือ K-GPIN-A(A) ที่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และมีนโยบายลงทุนในหุ้นทั่วโลกผ่านกองทุนหลัก JPMorgan ETFs (Ireland) ICAV - Global Equity Premium Income Active UCITS ETF มุ่งหาโอกาสสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอจากเงินปันผล และค่าพรีเมียม (Premium) จากการขายสัญญาสิทธิ หรือ ออปชัน (Options) โดยเปิดขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 17 – 24 มิถุนายน 2568
นายวจนะกล่าวต่อไปว่า ความน่าสนใจของกองทุน K-GPIN-A(A) อยู่ที่กลยุทธ์การกระจายลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงทั่วโลก ทั้งในสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น เน้นหุ้นกลุ่มธุรกิจที่ไม่ผันผวนตามวัฏจักรเศรษฐกิจ (Defensive Stocks) เพื่อลดความผันผวนของพอร์ตให้ต่ำกว่าดัชนีหุ้นโลกอย่าง MSCI World Index นอกจากนี้ กองทุน K-GPIN-A(A) ยังสร้างโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มสม่ำเสมอทุกเดือนจากการขาย Call Option แบบรายสัปดาห์ ซึ่งช่วยสร้างกระแสเงินสดแม้ในภาวะที่ตลาดมีความผันผวนสูงเช่นในสถานการณ์ปัจจุบัน
“สำหรับตัวอย่างหุ้นที่มีอยู่ในพอร์ตของกองทุน K-GPIN-A(A) จะเป็นหุ้น Defensive ทั่วโลก ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในระยะยาว อาทิ Mastercard ผู้ให้บริการเครือข่ายการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดติดอันดับ Top 3 ของโลก Microsoft ผู้ผลิต Software และให้บริการ Cloud Computing รายใหญ่ของโลก Southern บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าที่ใหญ่ติดอันดับ Top 3 ในสหรัฐฯ T-Mobile US บริษัทโทรคมนาคมที่ใหญ่ติดอันดับ Top 3 ในสหรัฐฯ SAP บริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และ NTT ผู้ให้บริการโทรคมนาคมอันดับ 1 ของญี่ปุ่น เป็นต้น (ข้อมูล ณ พ.ค. 2568, KAsset และ J.P. Morgan Asset Management)" นายวจนะกล่าว
นายวจนะกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน K-GPIN-A(A) เหมาะสำหรับผู้ที่มองหาความมั่นคงให้กับพอร์ตลงทุน โดยสามารถรับมือความผันผวนได้ดี และมีโอกาสสร้างกระแสเงินสดสม่ำเสมอทุกเดือน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจสามารถเริ่มต้นลงทุนเพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย และผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน
นายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) พร้อมคณะผู้บริหารของ บลจ.กสิกรไทย ให้การต้อนรับนายแพทริก เฮมเมอร์ (H.E. Mr. Patrick Hemmer) เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย และนายทอม เธโอบาลด์ (Mr. Tom Théobald) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Luxembourg for Finance (LFF) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลการพัฒนาศูนย์กลางการเงินของลักเซมเบิร์ก เนื่องในโอกาสเยี่ยมชมธุรกิจจัดการกองทุน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อการพัฒนาตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงทิศทางการขับเคลื่อนการลงทุนโดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินของทั้ง บลจ.กสิกรไทย และ LFFนายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) พร้อมคณะผู้บริหารของ บลจ.กสิกรไทย ให้การต้อนรับนายแพทริก เฮมเมอร์ (H.E. Mr. Patrick Hemmer) เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย และนายทอม เธโอบาลด์ (Mr. Tom Théobald) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Luxembourg for Finance (LFF) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลการพัฒนาศูนย์กลางการเงินของลักเซมเบิร์ก เนื่องในโอกาสเยี่ยมชมธุรกิจจัดการกองทุน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อการพัฒนาตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงทิศทางการขับเคลื่อนการลงทุนโดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินของทั้ง บลจ.กสิกรไทย และ LFF