บลจ.กสิกรไทย เพิ่มทางเลือกเพื่อคว้าโอกาสทำกำไรที่มากกว่าผ่านกองทุนคลาสใหม่ K-GDBONDUH เน้นกระจายการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่ปรับพอร์ตได้อย่างยืดหยุ่นตามสภาวะตลาด และลงทุนในกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ที่สร้างผลการดำเนินงานติดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar เปิดเสนอขายครั้งแรกในระหว่างวันที่ 13 - 20 สิงหาคม 2568
นายปณตพล ตัณฑวิเชียร CFA, Chief Investment Officer (รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมากองทุน K-GDBOND-A(A) ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก ส่งผลให้กองทุนมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่า 8 เท่านับจากสิ้นปี 2567 โดยมีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิในปัจจุบันกว่า 10,000 ล้านบาท (ที่มา: บลจ.กสิกรไทย ณ วันที่ 31 ก.ค. 68) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย เห็นว่าสภาวะตลาดการเงินโลกยังมีความผันผวน การกระจายการลงทุนจึงยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและมีศักยภาพในการสร้างรายได้สม่ำเสมออย่างตราสารหนี้คุณภาพดีทั่วโลก จึงได้จัดตั้ง กองทุนเปิดเค โกลบอล ไดนามิก บอนด์ UH หรือ K-GDBONDUH เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่มากกว่า โดยมีกำหนดเปิดเสนอขายครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 13 - 20 สิงหาคม 2568
นายปณตพลกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-GDBONDUH มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนหลัก PIMCO GIS Income Fund ที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้หลากหลายประเภททั่วโลก และมีความยืดหยุ่นในการปรับพอร์ตการลงทุนได้อย่างอิสระตามสภาวะตลาดในแต่ละช่วงเวลา เพื่อมุ่งสร้างผลตอบแทนให้อยู่ในระดับที่น่าสนใจอย่างสม่ำเสมอ โดยทีมผู้จัดการกองทุนหลักที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง การันตีได้จากผลการดำเนินงานของกองทุนหลักที่ติดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar (ที่มา: Morningstar ณ วันที่ 30 มิ.ย. 68) ทั้งนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนในกองทุน K-GDBOND เพิ่มเติมได้อีก 2 รูปแบบ ได้แก่ K-GDBOND-A(A) สำหรับการสะสมมูลค่าเพื่อเสริมพอร์ตเติบโตในระยะยาว และ K-GDBONDRMF สำหรับการลงทุนเพื่อการเกษียณ โดยมีตัวอย่างสินทรัพย์ในพอร์ตของกองทุนหลักที่น่าสนใจ ได้แก่ พันธบัตรสหรัฐฯ ระยะสั้น-กลาง ตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง และตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ เป็นต้น
“บลจ.กสิกรไทย มีมุมมองเชิงบวกต่อตราสารหนี้โลก เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่อาจจะทยอยชะลอตัวลงในครี่งปีหลัง จากผลกระทบของนโยบายทางภาษีของสหรัฐฯ โดยมองว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งหมด 2 ครั้งภายในสิ้นปี 2568 โดยจะดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างระมัดระวังท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายทางภาษีที่อาจจะกระทบทั้งอัตราเงินเฟ้อและตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งหากตลาดแรงงานเริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัว ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจได้ จึงยังแนะนำให้ผู้ลงทุนทยอยสะสมตราสารหนี้โลก และมองกรอบอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 10 ปี ณ สิ้นปี 2568 อยู่ที่ 4.1-5.0%" นายปณตพลกล่าว
นายปณตพลกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-GDBONDUH สามารถเริ่มต้นลงทุนได้เพียง 500 บาท ผ่าน App K PLUS, K-My Funds, ธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน โดยติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ตามช่องทางการลงทุนข้างต้น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน • ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต • การลงทุนในหุ้นต่างประเทศอาจมีความผันผวนตามสภาวะตลาดและค่าเงิน • กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน • ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
นายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) พร้อมคณะผู้บริหารของ บลจ.กสิกรไทย ให้การต้อนรับนายแพทริก เฮมเมอร์ (H.E. Mr. Patrick Hemmer) เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย และนายทอม เธโอบาลด์ (Mr. Tom Théobald) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Luxembourg for Finance (LFF) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลการพัฒนาศูนย์กลางการเงินของลักเซมเบิร์ก เนื่องในโอกาสเยี่ยมชมธุรกิจจัดการกองทุน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อการพัฒนาตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงทิศทางการขับเคลื่อนการลงทุนโดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินของทั้ง บลจ.กสิกรไทย และ LFFนายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) พร้อมคณะผู้บริหารของ บลจ.กสิกรไทย ให้การต้อนรับนายแพทริก เฮมเมอร์ (H.E. Mr. Patrick Hemmer) เอกอัครราชทูตลักเซมเบิร์กประจำประเทศไทย และนายทอม เธโอบาลด์ (Mr. Tom Théobald) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Luxembourg for Finance (LFF) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ดูแลการพัฒนาศูนย์กลางการเงินของลักเซมเบิร์ก เนื่องในโอกาสเยี่ยมชมธุรกิจจัดการกองทุน เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองต่อการพัฒนาตลาดเงินตลาดทุน รวมถึงทิศทางการขับเคลื่อนการลงทุนโดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินของทั้ง บลจ.กสิกรไทย และ LFF