แต่ทว่าในทุก ‘วิกฤต’ ย่อมมี ‘โอกาส’ เสมอ เพราะเมื่อดัชนีหุ้นไทยได้ปรับลดลง นั่นหมายความว่า ราคาหุ้นก็จะถูกลงตามไปด้วย ดังนั้น ช่วงเวลานี้จึงเป็นอีก 1 ช่วงเวลาที่น่าสนใจและเหมาะแก่การเข้าลงทุนในหุ้นไทย เพื่อหวังผลทำกำไรในอนาคต และนี่จึงเป็นที่มาของการจัดตั้งกองทุน SSFX ที่มาพร้อมกับเงื่อนไขพิเศษที่เปิดให้ผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนได้ภายใน 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพิ่มขึ้นอีก 2 แสนบาท (ไม่รวมกับวงเงินซื้อหน่วยลงทุนของกองทุน SSF แบบปกติ) โดยมีระยะเวลาการถือครอง 10 ปี นับจากวันที่ซื้อหน่วยลงทุน

บลจ.กสิกรไทย จึงได้จัดตั้ง กองทุนเปิดเค ซูเปอร์สตาร์ เพื่อการออมพิเศษ (K-SUPSTAR-SSFX) เปิดเสนอขายตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 โดยกองทุนมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยไม่ต่ำกว่า 65% โดยเฉลี่ยตามรอบปีบัญชี เน้นลงทุนในหุ้นไทยพื้นฐานดีที่มีศักยภาพ มีกระแสเงินสดที่มั่นคง (Defensive) และสามารถเติบโตได้แม้ในสภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัว (Quality Growth) ผ่านกลยุทธ์การบริหารจัดการแบบ Tactical Trade ที่ผู้จัดการกองทุนจะคอยจับจังหวะซื้อขายหุ้น จึงสามารถทำกำไรได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อย่างไรก็ดี ในระหว่างการถือครอง 10 ปีตามเงื่อนไขที่กำหนด คาดว่ากลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้กองทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ตามนโยบายจ่ายปันผลปีละไม่เกิน 4 ครั้ง

กองทุน K SUPERSTAR SSFX ได้ใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบเดียวกับกองทุน K-STAR-A(R) กองทุนหุ้นไทยที่โดดเด่น ติดอันดับ 5 ดาว จาก Morningstar ในประเภท Overall Rating (ข้อมูล ณ วันที่ 23 มี.ค. 63) อีกทั้ง บลจ.กสิกรไทย ยังเพิ่งคว้ารางวัลบริษัทจัดการกองทุนยอดเยี่ยม ประเภทการลงทุนหุ้นไทย (Best Fund House - Domestic Equity) รวมถึงกองทุน RMF และ LTF หุ้นไทย มาครองได้สำเร็จสูงสุดถึง 3 รางวัล ทั้งนี้ จากผลการจัดอันดับกองทุนติดดาว และรางวัลความสำเร็จที่ได้รับมาจาก Morningstar ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลนั้น ย่อมเป็นการการันตีคุณภาพถึงการบริหารจัดการกองทุนหุ้นไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม สะท้อนได้ถึงผลการดำเนินงานของกองทุนหุ้นไทยของบลจ.กสิกรไทย ที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่น ควบคู่กับการบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม และสามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว

หากคุณไม่อยากพลาดโอกาสการลงทุนในหุ้นไทยที่ถูกทั้งจังหวะ (Timing) และถูกทั้งราคา (Pricing) แถมยังได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก (Tax Saving) ก็สามารถกดซื้อได้ง่ายๆ อยู่บ้าน Work from Home ไปด้วยลงทุนไปด้วยผ่าน App K PLUS และ K-My Funds หรือถ้าใครไม่สะดวกซื้อผ่าน App ก็สามารถติดต่อซื้อผ่านธนาคารกสิกรไทย หรือ ผู้สนับสนุนการขายได้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ลงทุนตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป บลจ.กสิกรไทย ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษเมื่อลงทุนทุก 50,000 บาท รับ Cash Back 100 บาท (สูงสุด 400 บาท/ท่าน) เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด และสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888