7/30/2025 ส่อง 4 เหตุผล ทำไมต้องมี RMF ควบคู่ PVD ? หลายคนอาจคิดว่าแค่มี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ Provident Fund (PVD) เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วสำหรับการเกษียณอายุ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจไม่เป็นเช่นนั้น เพราะข้อมูลจาก ก.ล.ต. ได้เปิดเผยว่า มีสมาชิก PVD เพียง 23% เท่านั้น ที่ได้รับเงินมากกว่า 3.1 ล้านบาท ณ วันเกษียณ ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินเกษียณขั้นต่ำเดือนละ 8,600 บาท สำหรับการใช้จ่ายจนถึงอายุ 90 ปี นี่ยังไม่รวมอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทุกปี หรือค่าครองชีพและค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากลองคิดดูดี ๆ แล้ว เงินก้อนนี้อาจไม่เพียงพอต่อการใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในวัยเกษียณอย่างที่หลายคนฝันไว้ดังนั้น เพื่อให้ชีวิตหลังเกษียณมั่นคงและมั่งคั่งยิ่งขึ้น การมีแค่ PVD อย่างเดียวอาจยังไม่ตอบโจทย์! ถึงเวลาที่จะต้องมองหาการกระจายการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ Retirement Mutual Fund (RMF) ก็นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ มาดู 4 เหตุผลสำคัญว่า ทำไมถึงควรมี RMF ควบคู่ไปกับ PVD 1. ไม่จำกัดขั้นต่ำในการลงทุนข้อดีอย่างหนึ่งของกองทุน RMF คือไม่มีข้อจำกัดด้านเงินลงทุนขั้นต่ำ เราจึงสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนเงินลงทุนได้ตามความเหมาะสมกับรายได้ และความสามารถของตัวเอง2. เพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาวกองทุน RMF มีนโยบายลงทุนที่เปิดกว้าง สามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภททั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ตราสารหนี้ ไปจนถึงสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยง และเพิ่มทางเลือกในการจัดพอร์ตสำหรับสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว3. สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่มากขึ้นหากสำรวจดูสิทธิภาษีที่มี เช่น PVD แล้วพบว่า ยังสามารถลงทุน RMF เพื่อรับสิทธิประโยชน์ทางภาษีได้เพิ่ม ก็ควรที่จะลงทุน โดยเราสามารถนำเงิน RMF มาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 30% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี เมื่อรวมกับกองทุนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น PVD, กบข., ประกันชีวิตแบบบำนาญ และกองทุนสงเคราะห์ครู4. สร้างวินัยการออมระยะยาว กองทุน RMF ถูกออกแบบมาเพื่อการลงทุนระยะยาวโดยเฉพาะ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องถือครองอย่างน้อย 5 ปี และสามารถขายคืนได้เมื่ออายุ 55 ปีขึ้นไป จึงช่วยสร้างวินัยการออมอย่างต่อเนื่องKAsset แนะนำ “𝐊-𝐖𝐞𝐚𝐥𝐭𝐡𝐏𝐋𝐔𝐒 𝐑𝐌𝐅 𝐒𝐞𝐫𝐢𝐞𝐬” กองทุนรวมผสม เน้นลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภท ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมทั้งหุ้น ตราสารหนี้ รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือก เหมาะกับการลงทุนระยะยาว สามารถเลือกให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่รับได้ :𝐊-𝐖𝐏𝐁𝐀𝐋𝐑𝐌𝐅เน้นการลงทุนในหุ้น 30% และตราสารหนี้ 70% เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างต่ำ𝐊-𝐖𝐏𝐒𝐏𝐄𝐄𝐃𝐑𝐌𝐅เน้นการลงทุนในหุ้น 65% และตราสารหนี้ 35% เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางค่อนข้างสูง 𝐊-𝐖𝐏𝐔𝐋𝐓𝐈𝐑𝐌𝐅เน้นการลงทุนในหุ้น 85% และตราสารหนี้ 15% เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง สนใจลงทุนได้ง่าย ๆ ผ่านแอปฯ K-My Funds เริ่มต้นเพียง 500 บาท ที่มา: บลจ.กสิกรไทย ข้อมูล ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2025 คำเตือน : กองทุนนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน