เป็นมนุษย์เงินเดือนอย่าคิดว่าการเกษียณเป็นเรื่องไกลตัว ถึงแม้วันนี้เราอาจจะยังเป็น First Jobber ที่ยังมีกำลัง และเวลาในการทำงานสร้างรายได้อีกหลายปี แต่เมื่อเวลาล่วงเลยมาจนถึงวัย 30 เราจะเริ่มมองหาความมั่นคงในชีวิต บอกเลยว่า ยิ่งเราเริ่มต้นวางแผนเก็บเงินเร็วเท่าไร ชีวิตหลังเกษียณเราก็จะยิ่งสบายขึ้นเท่านั้น วันนี้เรามีเทคนิคการเก็บเงินเพื่อการเกษียณมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองนำไปวางแผนกันดู

ขั้นแรก : คำนวณหายอดเงินที่ต้องการใช้ในอนาคต?  ​

เราต้องคำนวณก่อนว่าหลังจากที่เราเกษียณไปแล้วเราควรจะมีเงินเก็บเท่าไร ถึงจะใช้จ่ายได้แบบสบาย ๆ ซึ่งอาจพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ และปัจจัยด้านสุขภาพ โดยคำนวณจาก

“จำนวนเงินที่ต้องการจะมี ณ วันเกษียณอายุ = ค่าใช้จ่ายปัจจุบัน (ต่อเดือน) x 12 x จำนวนปีที่คาดว่าจะใช้ชีวิตหลังเกษียณ"

เช่น เราเกษียณตอนอายุ 60 ปี และคาดว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงอายุ 85 ปี และอยากมีเงินใช้หลังเกษียณ 30,000 บาท/เดือน เราจะต้องมีเงินเก็บ ณ วันเกษียณ 9,000,000 บาท (30,000 บาท x 12 x 25 ปี) แต่จริงๆ แล้วเราอาจจะเก็บมากกว่านี้ก็ได้ เพราะอาจมีอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอีกใน 20-30 ปีข้างหน้า

ขั้นที่สอง : เราควรเก็บออม หรือลงทุนอย่างไร?

หลังจากรู้แล้วว่าเราควรจะมีเงินเก็บจำนวนเท่าไร เราก็จะสามารถวางแผนต่อได้ว่าเราควรเก็บออมอย่างไร และควรนำเงินเดือนปัจจุบันไปลงทุนอะไรบ้าง เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเราต้องไม่ลืมว่าในวัยเกษียณเราจะสามารถรับความเสี่ยงได้ต่ำกว่าช่วงที่เรายังทำงานอยู่

 ​

ดังนั้น สินทรัพย์ที่เราอยากแนะนำให้ชาวมนุษย์เงินเดือน “เริ่มต้นลงทุนตั้งแต่วันนี้ เพื่อความมั่งคั่งในวันข้างหน้า" ได้แก่

1.กองทุนรวมสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)

เป็นกองทุนที่นายจ้างและลูกจ้างร่วมกันจัดตั้งขึ้น ซึ่งจะประกอบไปด้วยเงินสะสมของลูกจ้าง และเงินสมทบจากนายจ้าง แล้วเอาไปให้บลจ. จัดการบริหารเงินลงทุน ซึ่งมีให้เลือกลงทุนหลากหลายนโยบายเพื่อสร้างผลตอบแทนให้งอกเงย โดยลูกจ้างสามารถเลือกหักเป็นเงินสะสมได้ตั้งแต่ 2-15% ของเงินเดือน และนายจ้างก็จะสมทบให้จำนวนเท่ากัน หรือน้อยกว่าขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละบริษัท

ซึ่งกองทุนนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการออมระยะยาว ลูกจ้างจะได้รับเป็นเงินก้อนโต เมื่อลาออกจากงานหรือเกษียณอายุ ดังนั้น ยิ่งสะสมมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้ผลตอบแทนมากขึ้นเท่านั้น โดยระหว่างนี้ เราสามารถนำเงินสะสมแต่ละปีมาลดหย่อนภาษีได้ แถมยังได้รับสิทธิยกเว้นภาษีจากเงินที่ได้รับหลังเกษียณอีกด้วย

2.กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF)

เป็นกองทุนรวมที่ส่งเสริมให้เกิดการออมในระยะยาวสำหรับใช้ยามเกษียณ ซึ่งจะต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี หรือปีเว้นปี จนถึงอายุ 55 ปี โดยกองทุน RMF จะมีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภท เช่น หุ้น, ตราสารหนี้ หรือทองคำ เป็นต้น

โดยเราสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงของเรา และยังสามารถสับเปลี่ยนกองทุนตามนโยบายการลงทุนให้เหมาะกับช่วงวัยที่ใกล้เกษียณได้ เช่น เลือกลงทุนในหุ้น ช่วงที่เรายังอยู่ในวัยทำงาน เนื่องจากสามารถรับความเสี่ยงได้สูง แล้วค่อยเปลี่ยนมาลงทุนในตราสารหนี้ ช่วงใกล้เกษียณ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่ำกว่า นอกจากนี้ ผู้ลงทุนก็ยังได้สิทธิประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษีประจำปีอีกด้วย

โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนกองทุน RMF เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 500,000 บาท และลงทุนกองทุน PVD ได้ไม่เกิน 15% ทั้งนี้ เมื่อนำไปรวมกับ การลงทุนเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

3.กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF)

เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว โดยรัฐให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เหมาะกับวัยทำงานที่มีรายได้ทั้งปีถึงเกณฑ์เสียภาษี เพื่อเป็นแรงจูงใจในการออมเงินระยะยาว โดยเงินที่ผู้ลงทุนจ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุน SSF จะได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยกองทุน SSF จะมีนโยบายลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายประเภท เช่น หุ้น, ตราสารหนี้ หรือทองคำ เป็นต้น

โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนกองทุน SSF เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมินที่ต้องเสียภาษี แต่ไม่เกิน 200,000 บาท และเมื่อนำไปรวมกับ การลงทุนเพื่อเกษียณอื่น ๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

สำหรับชาวมนุษย์เงินเดือนที่อยากเริ่มต้นลงทุนเพื่อความมั่งคั่งในวัยเกษียณ ก็สามารถเลือกกองทุนที่ถูกใจจาก KAsset ได้เลย เพราะเรามีกองทุน SSF มี 6 กองทุน และ RMF มีให้เลือกถึง 21 กองทุน มีกองทุนที่หลากหลายครบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม กองทุนหุ้นไทย กองทุนหุ้นต่างประเทศ ทำให้สามารถเลือกกองทุนเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนตามความเสี่ยงที่รับได้ รายละเอียด >>https://www.kasikornasset.com/Pages/ssf-rmf.html

ทั้งหมดนี้ก็คือเทคนิคการลงทุนดี ๆ ก่อนวัยเกษียณที่เราอยากบอกต่อชาวมนุษย์เงินเดือนทุกคนได้ลองนำไปปรับให้กับเข้าไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายการออมเงินของตัวเอง เพื่อความมั่นคงในวัยเกษียณ ไม่ว่าวันนี้เราจะมีอายุเท่าไร แต่สำหรับการลงทุนนั้น ยังไงก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปแน่นอน

ส่วนใครที่อยากเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่วันนี้เลย อย่าลืมโหลดแอป K-My Funds ติดเครื่องไว้ เพราะทำได้ทั้งเปิดบัญชีกองทุนออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชม. พร้อมอัปเดตข่าวสารแวดวงการลงทุนทั่วโลก แนะนำกองทุนน่าสนใจ และมีฟีเจอร์ช่วยจัดพอร์ตกองทุนให้ตรงสไตล์ของเราอีกด้วย สนใจลงทุน เริ่มต้นเพียง 500 บาท ผ่านแอป K-My Funds ตลอด 24 ชม. ดาวน์โหลดเลย >>https://www.kasikornasset.com/th/digital-service/Pages/K-My-Funds.aspx

​