​​​​​​

• ความเสี่ยงที่หุ้นจีนซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะถูกถอดออกจากตลาด
• การแพร่ระบาดของโควิดระลอกใหม่ จนรัฐบาลต้องประกาศล็อกดาวน์เสินเจิ้น 1 สัปดาห์
• Nasdaq Golden Dragon China ปรับลดลงต่อเนื่องประมาณ -24% ในรอบ 1 สัปดาห์

ตลาดหุ้นจีนปรับตัวผันผวนต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มเทคฯ (ข้อมูล ณ 15 มี.ค. 65) มาจากปัจจัยกดดันด้านความกังวลใน 2 ประเด็นหลัก ได้แก่​

1. หุ้นเทคฯสัญชาติจีน 5 ตัวที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ (ADR) เข้าข่ายถูกเพิกถอนจากกระดาน

ได้แก่ Yum China Holding, BeiGene, ACM Research Inc, Zai Lab Limited และ HUTCHMED (China) Limited หลังก.ล.ต.สหรัฐฯเริ่มทยอยประกาศรายชื่อบริษัทที่ไม่ทำตามข้อกำหนดภายใต้กฏ HFCAA (Holding Foreign Companies Accountable Act) ในการส่งรายงานงบการเงินประจำปี

2. รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์เมืองเสินเจิ้นอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่

หลังผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (เพิ่มขึ้นเกือบ 3,400 รายในวันอาทิตย์ ที่ 13 มี.ค. ซึ่งสูงกว่าวันก่อนหน้าถึง 2 เท่า) ทำให้ตลาดกังวลว่าจะกระทบภาวะติดขัดด้านการขนส่งและการผลิตอุตสาหกรรมโดยเฉพาะภาคเทคโนโลยีทั่วโลก เนื่องจากเป็นเมืองศูนย์กลางเทคฯ และมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 17.5 ล้านคน

ผลกระทบต่อตลาดหุ้นจีน

Nasdaq Golden Dragon China ซึ่งเป็นดัชนีแทนหุ้นจีนที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงต่อเนื่องประมาณ -24% ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และดัชนีทำระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2013 ด้านดัชนี Hang Seng ของฮ่องกงและ Shanghai Composite ของจีนย่อตัวลงกว่าประมาณ -8.8% และ -4.26% ตามลำดับ (ราคา ณ 11.45 วันที่ 15 มี.ค. 2022)

มุมมองการลงทุนจาก JPMorgan (ผู้จัดการกองทุนหลัก K-CHINA)

การออกมาให้ข้อมูล 5 บริษัท จาก ก.ล.ต. สหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องใหม่ และหากจะมีการเพิกถอนหุ้นออกจากตลาดจริง จะเกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุดคือปี 2024 หากบริษัทนั้นๆไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของ HFCAA เป็นเวลาสามปีติดต่อกัน

อย่างไรก็ดี ประเด็นนี้จะยังไม่จบในระยะใกล้ เนื่องจากเป็นช่วงที่บริษัทเริ่มทยอยส่งงบการเงินประจำปี 2021 จึงจะเห็นรายชื่อประกาศออกมาเพิ่มเติมได้อีก ​

ทั้งนี้ หลายบริษัทในจีนมีการจดทะเบียนใน 2 ตลาด (dual list ในฮ่องกงและสหรัฐฯ) โดยบางบริษัทมีการเริ่มดำเนินการเตรียมย้ายหุ้นออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯแล้ว ส่วนบริษัทที่ยังไม่ได้ dual list หากจะต้องถูกเพิกถอนจริง ก็มีเวลามากพอที่จะย้ายการจดทะเบียนจากในสหรัฐฯ มายังตลาดหุ้นฮ่องกงหรือจีน

ผลกระทบต่อกองทุนหุ้นจีนที่มีสัดส่วนในตลาดหุ้น ADR

K-CHINA มีสัดส่วนหุ้น ADR อยู่ 6 ตัว คิดเป็นสัดส่วน 5.7% ของพอร์ต (ณ 31 ธ.ค. 2021) แม้ไม่มีหุ้น 5 ตัวที่อยู่ในรายชื่อที่กลต.สหรัฐฯประกาศ แต่ก็ได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรง เนื่องจาก ADR ของจีนถูกแรงขายจากนักลงทุนออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น Pinduoduo (1.64% ของพอร์ต ณ 31 ม.ค. 2022) ราคาปรับตัวลดลงราว 34% ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา และ Huazhu Group (1.42% ของพอร์ต ณ 31 ม.ค. 2022) ราคาลดลง -33.25% 

มุมมองและคำแนะนำการลงทุน

ความเสี่ยงในตลาดหุ้นโลกรวมถึงตลาดหุ้นจีนโดยรวมยังอยู่ในระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ขณะที่จีนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับกฎระเบียบในจีนที่แม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ยังกดดันตลาดอยู่เป็นระยะ รวมไปถึงการถูก Delist ของ ADR และการล็อกดาวน์จากโควิด-19 รอบใหม่

ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ประกาศเป้าหมายการเติบโตของ GDP ในปี 2565 ที่ 5.5% ดังนั้น การที่รัฐบาลจีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้ คาดว่าจะต้องมีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่จากรัฐบาลจีน ซึ่งจะสามารถทำให้ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวได้ อย่างไรก็ดี ในปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจีนหรือธนาคารกลางจีนจะดำเนินการอย่างไรในอนาคต

คำแนะนำการลงทุน : ชะลอการลงทุนในประเทศจีนในตอนนี้ เพื่อรอดูความชัดเจนและท่าทีของรัฐบาลจีนอีกครั้ง

บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย

ข้อมูล ณ วันที่ 15 มี.ค. 2565

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

สรุปทิศทาง “กองทุนหุ้นจีน" >> คลิกอ่าน​ 

แนวโน้มธีมการลงทุนปี 2022 >> คลิกอ่าน