“ไมโครพลาสติก” ภัยเงียบที่เรามองไม่เห็น แต่สร้างผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมอย่างมหาศาล
จากรายงานของ Global Risks Report 2025 พบว่าพลาสติกคือ หนึ่งในมลพิษหลัก และในพลาสติกนั้นมีสิ่งที่เรียกว่า ไมโครพลาสติก ที่มีขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตรแฝงอยู่ ซึ่งสิ่งนี้กำลังจะทำลายระบบนิเวศ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเราทุกคนอย่างเลี่ยงไม่ได้เลย
ผลกระทบต่อสุขภาพ
เนื่องจากไมโครพลาสติกมีขนาดเล็กจึงสามารถเข้ามาปะปนในอากาศและปนเปื้อนในอาหาร ส่งผลให้ไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์ได้ผ่านทางการหายใจและการรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนเข้าไป
หากเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะส่งผลต่ออวัยวะภายในหลายระบบ เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบภูมิคุ้มกัน ระบบการทำงานของสมอง นอกจากนี้ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบอสตัน ยังพบว่า แบคทีเรียที่สัมผัสกับไมโครพลาสติกจะดื้อยาปฏิชีวนะหลายชนิดที่ใช้รักษาการติดเชื้ออีกด้วย
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ไมโครพลาสติกนั้นย่อยสลายได้ยาก จึงเกิดการตกค้างในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะระบบนิเวศของชายฝั่งทะเล และหากสัตว์ทะเลกินไมโครพลาสติกเข้าไป จะทำให้เกิดผลกระทบในห่วงโซ่อาหารได้
ไมโครพลาสติกยังมีการสะสมในชั้นบรรยากาศที่สามารถแพร่กระจายไปทั่วโลก และเมื่อไปสัมผัสกับรังสีจากแสงแดด จะทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกได้
ความรุนแรงของไมโครพลาสติก จึงไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไป และกลายเป็นประเด็นที่ทั่วโลกต้องหันมาใส่ใจอย่างเร่งด่วน ด้วยการพยายามหาแนวทางป้องกัน เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกไม่ให้เกิน 1.5 องศาเซลเซียส
ประเทศไทยทำอะไรบ้าง ?
ได้มีการประกาศเป้าหมายว่าจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065
ทั้งนี้ ยังมีการจัดทำ Road Map การจัดการขยะพลาสติกปี 2018 - 2030 เพื่อใช้เป็นทิศทางในการดำเนินการแก้ไขจัดการขยะพลาสติกในประเทศ ประกอบด้วย 2 เป้าหมายหลัก คือ
1. การลดและเลิกใช้พลาสติก และหันไปใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
2. การนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์และกำจัดส่วนที่เป็นของเสียได้อย่างถูกวิธี
โดยมีการคาดการณ์ว่า Road Map ดังกล่าวจะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัด ประหยัดงบประมาณในการกำจัดขยะมูลฝอย และลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ด้วย
นอกจากแผนการดำเนินการในระดับประเทศแล้ว เราก็สามารถเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้ห่างไกลจากไมโครพลาสติกได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น.. การลดใช้ถุงพลาสติก หรือเสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์ โดยเน้นเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติ รวมทั้งหมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำ ด้วยเครื่องดูดฝุ่นที่มีตัวกรอง HEPA จะช่วยลดอันตรายที่เกิดจากไมโครพลาสติกได้
ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยได้ก็คือ การลงทุนในบริษัทที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการดูแลสิ่งแวดล้อม และยังช่วยเพิ่มโอกาสให้พอร์ตการลงทุนของคุณสามารถเติบโต ไปพร้อมกับเทรนด์โลกในอนาคตได้ ด้วยการลงทุนในกองทุน Thai ESG และกองทุน Thai ESGX จาก KAsset ที่มีให้เลือกหลากสไตล์
กองทุน Thai ESG เพื่อช่วยขับเคลื่อนเเนวคิดการลงทุนในบริษัทที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
K-ESGSI-ThaiESG
เน้นลงทุนตราสารที่ออกโดยภาครัฐ มีความเสี่ยงด้านเครดิตต่ำ และบริหารโดยทีมที่มีประสบการณ์สูง ได้รับรางวัลมากมาย
K-BL30-ThaiESG
กองทุนผสมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ 70% และหุ้นอีก 30% ของบริษัทที่คำนึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
K-TNZ-ThaiESG
ลงทุนในหุ้นไทยในบริษัทที่มีเป้าหมาย และแผนการดำเนินงาน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ชัดเจนในอนาคต