5/26/2022

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสหรัฐฯทรุด จากนักลงทุนกังวลผลประกอบการ หุ้นกลุ่มเทคฯจะย่ำแย่ลงในอนาคต​



ตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งตัวผันผวนตลอดวันก่อนที่ ตลาดหุ้น Nasdaq จะปิด -2.4% แย่ที่สุดใน 3 ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ ขณะที่ S&P 500 -0.8% และ Dow Jones ทำได้ดีที่สุดโดยย่อตัวลงเพียง -0.2%  

 

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีโดยเฉพาะ Communication Services ทรุดตัวลงแรง 

Snap ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทด้าน Social Network ออกมาเตือนว่า รายได้และกำไรในอนาคตจะแย่กว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลงแรงกว่า -40% และทำให้ราคาหุ้นอื่นๆในกลุ่มเดียวกันทรุดตัวแรงเช่นเดียวกัน เช่น Meta หรือเฟซบุ๊ค (-7%), Twitter (-5%) และ Pinterest (-23%)  

 

ราคาหน่วยลงทุนกองทุนหลักของ K-USA ปรับตัวลดลง 

กองทุน MS US Advantage Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลักของ K-USA ราคา NAV วันที่ 24 พ.ค. 65 ปรับตัวลง -5.63% หลังราคาหุ้น Snap ทรุดหนักและนักลงทุนกังวลผลประกอบการหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะย่ำแย่ลงในอนาคต 

 

สำหรับหุ้น 10 อันดับแรกที่อยู่ในพอร์ตกองทุนหลัก K-USA (อ้างอิง factsheet เดือนเมษายน) ต่างปรับตัวลงแรงในกรอบ -2% ถึง -18% โดยตัวที่ปรับลงมากที่สุดคือ Trade Desk (-18.5%), Shopify (-11.8%) และ ZoomInfo (-10.6%) 

 

ความแข็งกร้าวของเฟดต่อทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ย สร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน 

แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีส่วนใหญ่จะยังมีทิศทางดี แต่ความคาดหวังที่ตั้งไว้สูงมาก ประกอบกับ Valuation ที่แพงกว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเผชิญกับแรงขายที่รุนแรงกว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ  

 

การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นปัจจัยลบโดยตรงต่อหุ้นเทคโนโลยี เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อการคำนวณราคาเหมาะสมของหุ้นในระยะยาว โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีที่มักมี Cash Flow สูง ซึ่งจะทำให้ราคาเหมาะสมจะถูกปรับลดลงค่อนข้างมาก ทำให้ความน่าสนใจลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ลดน้อยลง 

 

ทั้งนี้หากแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯมีทิศทางที่เติบโตน้อยลง ก็จะช่วยลดความกังวลของนักลงทุนได้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามดูต่อไป 

 

คำแนะนำการลงทุน  

KAsset ยังคงคำแนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ระดับเป็นกลาง (Neutral) ยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุน 

เนื่องจากการใช้นโยบายการเงินที่ตึงตัวมากขึ้น ส่งผลให้สภาพคล่องในระบบลดลง จะเป็นปัจจัยกดดัน valuation ของตลาดหุ้นโดยภาพรวม แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจ จะฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากเงินเฟ้อที่เร่งตัว ส่งผลลบต่อแนวโน้มความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในอนาคต อีกทั้งมีตลาดหุ้นของภูมิภาคอื่นที่ระดับราคาและ Upside ที่น่าสนใจมากกว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ 

 

บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย  

ข้อมูล ณ วันที่ 25 พ.ค. 2565​​ 


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 

ตลาดหุ้นสหรัฐฯทรุดหนัก >>อ่านต่อ

ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น >>อ่านต่อ​



Yes
5/26/2022