ยุคนี้คือยุค ไร้พรมแดน ที่ทุกอย่างสามารถเชื่อมถึงกันได้ทั่วโลกแค่ปลายนิ้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งโลกของการลงทุนด้วยเช่นกัน ที่ไม่ว่าจะเลือกกองทุนที่ลงทุนในประเทศหรือต่างประเทศ ก็กลายเป็นเรื่องง่าย ที่ใคร ๆ ก็สามารถลงทุนได้ทั้งนั้น
โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศ ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเหมาะแก่การวางแผนกระจายการลงทุน (Asset Allocation) เพื่อช่วยเสริมโอกาสสร้างผลกำไรให้พอร์ตได้มากขึ้นในระยะยาวนั่นเอง ส่วนของการลงทุนในประเทศ ก็ยังคงเป็นทางหลักที่สำคัญของนักลงทุนไทย เพราะเป็นตลาดที่คุ้นเคยและเข้าใจดีอยู่แล้ว ในแง่ของการติดตามข้อมูลเพื่อการลงทุน
"อย่างไรก็ดี การลงทุนทั้งสองรูปแบบยังคงมีรายละเอียดที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับเป้าหมายการลงทุนของเราเป็นหลัก"
สำหรับนักลงทุนมือใหม่คนไหนที่สนใจอยากประเดิมกองทุนตัวแรก ไม่ว่าจะเลือกกองทุนในประเทศหรือต่างประเทศก็ตาม สามารถเริ่มต้นลงทุนแบบ DCA ได้เลยเพื่อโอกาสทำกำไรในระยะยาว ผ่าน K-My Funds แอปพลิเคชั่นที่รวบรวมกองทุนชั้นดีมากมายที่ลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศเริ่มเพียง 500 บาท ก็ได้ทั้งหุ้นไทยหุ้นต่างประเทศแบบครบจบในแอปเดียว
1. โอกาสของการลงทุน
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดของตลาดการลงทุนในไทยและต่างประเทศ นั่นคือความหลากหลายของกลุ่มธุรกิจต่อการลงทุน
แม้ว่าไทยจะถือเป็นกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่(Emerging Market) ที่เติบโตอย่างน่าสนใจในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็เป็นตลาดที่มีธุรกิจแบบ Old Economy เสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น การท่องเที่ยว การส่งออก เป็นต้น
ขณะที่ฝั่งของตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว (Developed Market) มักมีโมเดลธุรกิจอย่าง New Economy ออกมาเสมอ ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ไม่ว่าจะ เป็นธุรกิจพลังงานสะอาด เทคโนโลยี นวัตกรรมทางสุขภาพ ที่เป็น Mega Trend สำคัญในชีวิตประจำวัน ของผู้คนทั่วโลก
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงการแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างในภาพรวมเท่านั้น ยังมีรายละเอียดในการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกมากมายอยู่ในภาพนี้
2. ความเสี่ยงของการลงทุน
เมื่อกล่าวถึงความเสี่ยงของกองทุน ไม่ว่าจะเป็นของต่างประเทศหรือในประเทศ ส่วนใหญ่จะไม่ได้แตกต่างกันมากนักโดยมีปัจจัยหลักจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆ ที่ส่งผลกระทบไปถึงความเสี่ยงอื่น ๆ ที่สำคัญ อย่างเช่น ความเสี่ยงจากการบริหารงานของกลุ่มธุรกิจที่กองทุนถือหุ้นอยู่ (Business Risk) หรือความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ยผันผวน (Interest Rate Risk) เป็นต้น
แต่สำหรับกองทุนต่างประเทศที่นักลงทุนมือใหม่ต้องใส่ใจ จะเป็นเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยน หากค่าเงินมีความผันผวนในช่วงเวลานั้น หรือความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศ ที่เป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก ที่เราควรศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน
ส่วนจุดร่วมในรายละเอียดอื่นๆ จะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามอ่านได้ในภาพนี้เลย
3. เทคนิคของการลงทุน
โดยรวมแล้วหลักการเลือกลงทุนกองทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ล้วนมีหลักการที่คล้ายคลึงกัน อาจมีความแตกต่างกันในแง่ของค่าเงิน เวลาการดำเนินการ และการได้รับมูลค่าหน่วยลงทุนที่แตกต่างจากเวลาที่เลือกลงทุน ดังนั้น จึงควรกระจายการลงทุน เพื่อช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มโอกาสการทำกำไรจากการลงทุนทั้ง 2 รูปแบบ
นอกจากนี้ การใช้เทคนิคลงทุนในระยะยาวยังสามารถใช้เหมือนกันได้ ด้วยการลงทุนแบบ DCA ที่ไม่ต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่เน้นความสม่ำเสมอ ในการลงทุนเพื่อถัวเฉลี่ยหน่วยลงทุนให้ได้ในราคาที่เหมาะสม และสามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว
หมายเหตุ ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com
บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 4 กรกฎาคม 2023
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
เทคนิคแบ่งโบนัสก้อนใหญ่ ...ให้ดีต่อใจระยาว >>
Clickรวม 5 วิธีเริ่มวางแผนการเงิน ฉบับคนรุ่นใหม่ >>
ClickLTF ครบกำหนด แต่ยังมีอยู่ในพอร์ต ..ทำอย่างไร >>
Click5 เทคนิค สร้างเงินล้านผ่าน PVD >>
Click