เป็นวลีสุดฮิต ที่สะท้อนถึงความในใจของคนรุ่นใหม่ ได้เป็นอย่างดี
เพราะคนเหล่านี้รู้ดีว่า หากเอาแต่นั่งหลังขดหลังแข็งทำแต่งานๆๆๆๆ คงเป็นเรื่องยากที่จะลืมตาอ้าปากได้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในทุกวันนี้
คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน หรือ First Jobber อาจมองว่า การประสบความสำเร็จด้านการเงินในยุคนี้ เป็นเรื่องยาก เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพที่สูง และภาระที่ต้องรับผิดชอบเต็มไปหมด แต่การสร้างฐานะ ก็ยังคงเป็นเป้าหมายสำคัญของคนรุ่นใหม่อยู่ดี ที่สำคัญคือ ยิ่งเราเริ่มสร้างฐานะเร็ว ก็ยิ่งได้เปรียบ
แล้วแบบนี้ เราจะเริ่มต้นวางแผนการเงินอย่างไร ให้มีเงินใช้ในระยะยาวแบบไม่ลำบาก
วันนี้ KAsset ได้รวม 5 วิธี รวยได้ง่ายๆ …แค่วางแผนการเงินเป็น
1. คำนวณค่าใช้จ่าย ที่จำเป็นต้องใช้ยามเกษียณ
สำหรับใครที่อยู่ในช่วงเพิ่งเริ่มต้นทำงาน โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ ควรวางแผนค่าใช้จ่ายในยามเกษียณของตัวเองคร่าว ๆ โดยประเมินจากไลฟ์สไตล์ที่ตัวเองออกแบบไว้ ซึ่งควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุม ทั้งค่ากินอยู่ ค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายเพื่อปรนเปรอตัวเอง ตลอดจนเงินบริจาคให้แก่สังคม
ซึ่งถ้าถามว่าแล้วแบบนี้ เราควรมีเงินจำนวนเท่าไรในช่วงที่เกษียณอายุ เราสามารถอิงได้จากสมการ “จำนวนเงินที่ควรมีเมื่อเกษียณ = ค่าใช้จ่ายต่อปีหลังเกษียณ x จำนวนปีที่จะใช้ชีวิตในช่วงเกษียณ”
เช่น ถ้าเราประเมินว่าจะมีค่าใช้จ่ายต่อปีที่ 200,000 บาท แล้วจะใช้ชีวิตในช่วงเกษียณ 20 ปี เท่ากับว่า เราควรมีเงินก้อนนี้ราว 4,000,000 บาท
2. อย่าก่อหนี้ ถ้าไม่จำเป็น
แม้การเป็นหนี้จะมีข้อดีอยู่บ้าง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการเป็นหนี้ โดยเฉพาะการก่อหนี้ที่ไม่ได้จำเป็นในชีวิต เพื่อสนอง Need ของตัวเอง เช่น ถอยรถยนต์คันใหม่ ทั้ง ๆ ที่รถยนต์คันเก่ายังใช้งานได้ดีอยู่ หรือการยอมเป็นหนี้เพื่อซื้อของฟุ่มเฟือยทั้งที่ไม่จำเป็น
ซึ่งการก่อหนี้ ไม่เพียงแต่เป็นภาระที่คอยฉุดรายได้ไปจากกระเป๋าของเราเท่านั้น แต่ยังลดคุณภาพชีวิต และทำให้เสียเครดิตทางการเงินอีกด้วย เพราะฉะนั้น เราจึงควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้เงิน โดยเริ่มจากลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย รวมไปถึงการฝึกให้ตัวเองรู้จักยับยั้งชั่งใจ
3. เริ่มเก็บออม ตั้งแต่วันนี้
“เงินออม” เป็นเงินก้อนที่มีสัดส่วนสำคัญอย่างมากในทุกช่วงวัยของชีวิต โดยเฉพาะในช่วงวัยเกษียณอายุ ที่เราไม่มีรายได้จากงานประจำ แต่ต้องอาศัยเงินออมที่สะสมมาในการดำรงชีวิตแทน
ซึ่งสำหรับคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน ควรเริ่มออมเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยอาจเริ่มต้นจากการเก็บเงิน 5-10% จากรายได้ต่อเดือน จากนั้น เมื่อเรามีรายได้มากขึ้น เงินเก็บของเราก็จะพอกพูนขึ้น สิ่งสำคัญของการออมคือ การมีวินัยในการออมเงินที่สม่ำเสมอ
4. ลงทุน ให้เป็นเงินออมถึงงอกเงย
การจะออมเงินให้งอกเงยนั้น แค่ฝากเงินในบัญชีธนาคารอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าดึงดูดเท่าไร เพราะอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ไม่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้ ดังนั้น ถ้าเราอยากมีเงินตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็อาจต้องมองหาตัวเลือกอื่น ๆ ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าเงินฝาก นั่นคือการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ นั่นเอง
แต่ถ้าใครนึกไม่ออกว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ประเภทไหนดี ก็อาจจะเริ่มต้นลงทุนผ่านกองทุนผสม ที่มีหลากหลายสินทรัพย์ ซึ่งจัดพอร์ตมาให้แล้ว สามารถลงทุนได้ทุกสถานการณ์ แถมมีความเสี่ยงปานกลาง
ซึ่งผลตอบแทนจากการลงทุนสามารถงอกเงยได้มากขึ้น จากพลังดอกเบี้ยทบต้น ด้วยการนำดอกเบี้ยที่ได้มาลงทุนทบต้นต่อไปเรื่อย ๆ สะสมกำไร จนกลายเป็นเงินก้อนใหญ่ได้มากขึ้นนั่นเอง
5. เพิ่มรายได้ และควบคุมรายจ่าย
ใครที่รู้สึกว่าเก็บออมก็แล้ว ลงทุนก็แล้ว แต่ทำไมเป้าหมายทางการเงินยังอยู่ไกลเกินเอื้อมอยู่
ก็ถึงเวลาแล้ว ที่อาจจะต้องมองหาแหล่งรายได้ช่องทางอื่นเพิ่มเติม เช่น ทำงานเสริมนอกเวลา
ควบคู่กับการควบคุมรายจ่าย ไม่ใช้เงินเกินกว่ารายได้ เพียงเท่านี้ ก็เพิ่มโอกาสให้เรามีเงินเก็บที่มากขึ้น