หุ้นสหรัฐฯ :
ยังคงมุมมอง Neutral ต่อการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ (K-USA, K-USXNDQ) ผลจากการดำเนินนโยบายที่ตึงตัวต่อเนื่องของ Fed เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูง จะทำให้เศรษฐกิจชะลอ รวมถึงแนวโน้มการทำกำไรของบริษัทจดทะเบียนยังถูกกดดันเพิ่มเติม ล้วนเป็นปัจจัยที่จำกัดการปรับตัวขึ้น (Upside) ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในระยะนี้
คำแนะนำ : ผู้ที่ถือหน่วยลงทุนอยู่สามารถถือต่อไปได้
สินทรัพย์โดยรวม
ตลาดหุ้น :
ช่วงสั้นมองการปรับฐานหลังจากตลาดหุ้นส่วนใหญ่ฟื้นตัวขึ้นมาในไตรมาส 3 โดยมองการพักฐานของตลาดหุ้นโดยรวมช่วง 1-2 เดือนข้างหน้านี้เป็นโอกาสในการสะสม
สำหรับนักลงทุนที่รับความผันผวนระยะสั้นได้ แนะนำให้ selective หุ้นกลุ่มเอเชีย ที่มีทิศทางนโยบายเศรษฐกิจยังผ่อนคลาย พร้อมสนับสนุนการเติบโต สวนทางกับสหรัฐฯที่ดำเนินนโยบายตึงตัว ซึ่งจะสนับสนุนให้หุ้นกลุ่มดังกล่าวน่าจะผันผวนน้อยกว่าหุ้นประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและยุโรป
คำแนะนำ : แนะนำทยอยเข้าสะสม กองทุนหุ้นจีน K-CHX, กองทุนหุ้นเวียดนาม K-VIETNAM, กองทุนหุ้นญี่ปุ่น K-JP และกองทุนหุ้นไทย K-STAR, K-BANKING
ตราสารหนี้ :
แม้ตลาดตราสารหนี้ไทยจะผันผวนตามทิศทางของสหรัฐฯ แต่น่าจะจำกัดกว่า โดยกนง.มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่ช้ากว่า Fed นอกจากนี้ ตลาดตราสารหนี้ของไทยในปัจจุบันมีการ Priced-in อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับประมาณ 2% แล้ว ส่งผลให้ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ยังอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้
คำแนะนำ : ภาพรวมยังอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้
กองทุนแนะนำสำหรับสภาวะตลาดในปัจจุบัน
สำหรับผู้ที่ต้องการพักเงินลงทุน จากความผันผวนในระยะนี้
- K-CASH (ถือ 3 วัน ขึ้นไป) สำหรับผู้ที่รับความผันผวนของราคา NAV ไม่ได้เลย
- K-SF (ถือ 3 เดือน ขึ้นไป) สำหรับผู้ที่รับความผันผวนของราคา NAV ได้เล็กน้อย โดยในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น จะได้ประโยชน์จากการที่กองทุนนำเงินที่ถือตราสารหนี้จนครบอายุไปลงทุนต่อในตราสารหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น
สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ Asset Allocation
- K-CBOND (ถือ 1 ปี ขึ้นไป)
- K-FIXED (ถือ 1.5 ปี ขึ้นไป)