6/7/2024

ECB ปรับลดดอกเบี้ยตามคาด ครั้งแรกในรอบ 5 ปี

ECB ปรับลดดอกเบี้ยตามคาด

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติเกือบเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกที่เป็นตัวแทนจากชาติต่างๆในยุโรป (มีสมาชิกเพียง 1 รายที่ลงมติคัดค้านจากทั้งหมดจำนวน 20 ราย) ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ตามการคาดการณ์ของตลาด

 

โดยเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี หรือตั้งแต่เดือน ก.ย.2562 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ระดับ 3.75% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 4.50% และอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์อยู่ที่ระดับ 4.25% มีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 มิ.ย. นี้

 

ทั้งนี้ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาแล้ว 10 ครั้งติดต่อกันรวม 4.5% หลังจากที่ได้เริ่มวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นมาตั้งแต่เดือนก.ค.2565 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง และได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้นต่ออีกเป็นเวลา 9 เดือน

 

ECB ปรับลดดอกเบี้ยเร็วกว่า Fed

การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้ ทำให้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่า Fed ซึ่งปัจจุบันตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ย. นี้

 

สื่งที่น่าสนใจ คือ ECB มีการปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ของยูโรโซนในปี 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 0.9% (จากเดิมคาดไว้ที่ 0.6% ในเดือน มี.ค.) แต่ปรับลดคาดการณ์สำหรับปี 2568 เหลือ 1.4% (จากเดิมคาดไว้ที่ระดับ 1.5%) ขณะเดียวกัน ECB ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อเฉลี่ยของปี 2567 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.5% (จากเดิมคาดไว้ที่ 2.3% ในเดือน มี.ค.) และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของปี 2568 อยู่ที่ระดับ 2.2% (จากเดิมคาดไว้ที่ระดับ 2.0%)

 

มุมมองการลงทุน ตลาดหุ้นยุโรป

KAsset มองว่า การปรับลดดอกเบี้ยของ ECB ในระยะถัดไป ยังขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจเป็นสำคัญ โดยเฉพาะพัฒนาการด้านอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งแม้ว่าในการประชุมครั้งนี้ ECB จะมีการปรับประมาณการเงินเฟ้อขึ้น แต่ตลาดยังคงมุมมองว่า ECB จะสามารถลดดอกเบี้ยได้อีก 2 ครั้ง ในปีนี้ ในการประชุมเดือน ก.ย. และ ธ.ค.  

 

โดย KAsset คาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยของ ECB จะเป็นปัจจัยสนับสนุนตลาดหุ้นในระยะถัดไปได้ โดยเฉพาะในช่วงรอยต่อจนกว่า Fed จะเริ่มส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลง ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจยุโรปที่อยู่ในช่วงฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด และนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ในตลาดเริ่มปรับประมาณการกำไรสุทธิขึ้น อีกทั้ง Valuation ที่อยู่ในระดับค่าเฉลี่ย 

 

คำแนะนำการลงทุน

ทั้งนี้ ในแง่ของ Asset Allocation โดยรวม KAsset ยังคงแนะนำน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นยุโรปเป็น Neutral เนื่องจากเมื่อเทียบการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) พบว่า ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มที่ EPS Growth ในปีนี้จะขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 5% เทียบกับของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ KAsset ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น Overweight ที่คาดว่าจะเติบโตถึง 11% 

​ 

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com

 

ที่มา: KAsset Investment Strategy บลจ.กสิกรไทย

ข้อมูล ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2567

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

จัดพอร์ตลงทุนด้วย Core-Satellite Portfolio >>Click

พอร์ตกองทุนประหยัดภาษี ที่ไม่ควรมองข้าม >>Click

จัดพอร์ตแบบ De-Risking เทคนิคเกษียณง่าย >>Click

หุ้น Nvidia ผลประกอบการ แข็งแกร่งต่อเนื่อง >>Click


Yes
6/7/2024
none