7/3/2024

อยากเริ่มลงทุนแบบเสี่ยงต่ำ ในสกุลเงิน USD เริ่ม....ยังไงดี?

คุณรู้หรือไม่? ในปัจจุบัน พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ให้ผลตอบแทนสูงสุด ในรอบเกือบ 20 ปี

โดยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 6 เดือน ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ร้อยละ 5.34 ต่อปี* สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 2006 และอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงไปอีกระยะ

 

ทั้งนี้ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ คือ ตราสารหนี้ที่ออกและรับรองโดยรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำมาก ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในเวลานี้

(หมายเหตุ *ก่อนหักค่าใช้จ่ายกองทุน ที่มา : Bloomberg ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2567)

 

หากคุณ กำลัง.....

“มีแผนการลงทุน หรือต้องการใช้เงินสกุล USD และคาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากประจำสกุล USD (FCD) หลังหักภาษี ณ ที่จ่าย"

 

บลจ.กสิกรไทย ขอเสนอ “กองทุนเปิดเค พันธบัตรต่างประเทศ 6MA USD" เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 6 เดือน โดยกองทุนจะมุ่งเน้นลงทุนเพียงครั้งเดียวโดยถือทรัพย์สินที่ลงทุนไว้จนครบกำหนดอายุทรัพย์สิน หรือครบอายุของกองทุนรวม (buy-and-hold fund)

 

ทำไม? การลงทุนเป็น “เงินสกุล USD" น่าสนใจ

1.ช่วยกระจายความเสี่ยง จากภาวะค่าเงินบาทที่ผันผวน

2.โอกาสรับผลตอบแทนจาก อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ที่สูงกว่าไทย

3.เพิ่มโอกาสการลงทุน สำหรับผู้ที่มีเงินในสกุล USD หรือวางแผนจะใช้จ่ายเงินในสกุล USD ในอนาคต

 

กองทุน เหมาะกับใคร?

  • ผู้ลงทุนที่มีความต้องการลงทุน หรือ ต้องการใช้สกุลเงิน USD
  • ผู้ลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนสูงกว่าเงินฝากประจำ USD
  • บุคคล หรือ นิติบุคคลที่มีเงินสดหมุนเวียนในสกุลเงิน USD และมีกำหนดระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจน

 

ข้อดี ของการลงทุนใน กองทุนเปิดเค พันธบัตรต่างประเทศ 6MA USD

1.ล็อก Yield พันธบัตรสหรัฐฯ ที่อยู่ระดับสูง

โดยประมาณการผลตอบแทน ต่อปี หลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมด อยู่ที่ 4.92%* ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำพิเศษ 6 เดือนสกุล USD หลังหักภาษี 

(หมายเหตุ *ประมาณการอัตราผลตอบแทนอาจเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับอัตราผลตอบแทน ณ วันที่ลงทุน, ข้อมูลประมาณการ ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2567)

 

2.ความเสี่ยงเครดิตต่ำมาก

-การจัดอันดับเครดิตพันธบัตรสหรัฐฯระยะสั้น (≤1 ปี) จัดอันดับโดย S&P/Fitch คือ A-1+/ F1+ ซึ่งเป็นระดับเครดิตดีที่สุด

-การจัดอันดับเครดิตพันธบัตรสหรัฐฯระยะยาว จัดอันดับโดย Moody's/S&P/Fitch คือ Aaa/ AA+/ AA+ ตามลำดับ

(หมายเหตุ ที่มา: Bloomberg ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2567)

 

3.ลงทุนเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ

เนื่องจากต้นทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงอยู่ที่ประมาณ -3% ทำให้ผลตอบแทนในรูปสกุลเงินบาทไม่น่าสนใจ

 

4.เงินลงทุนขั้นต่ำไม่สูง เริ่มเพียง 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

5.ลงทุนได้ต่อเนื่องเมื่อกองทุนครบกำหนด

ทางหลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย มีแผนที่จะออกกองทุนเปิดเค พันธบัตรต่างประเทศ 6MA USD อย่างต่อเนื่อง

 

ความเสี่ยงที่สำคัญ ของการลงทุนใน กองทุนเปิดเค พันธบัตรต่างประเทศ 6MA USD

เนื่องจากลงทุนอยู่ในรูปสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ หากลูกค้าแลกเงินบาทเป็นดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อมาลงทุน อาจมีกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

 

โดยจากข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี (ม.ค. 2562 – พ.ค. 2567) ผลตอบแทนจากการแลกเงินบาทเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วถือครอง 6 เดือนอยู่ในช่วง -11% ถึง +15% จะเห็นได้ว่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน กรณีลูกค้าแลกเงินบาทเป็นดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อมาลงทุน ค่อนข้างสูง

 

ตัวอย่างการได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน

เมื่อจองซื้อหน่วยลงทุนมูลค่า 1,036,000 บาท ที่อัตราแลกเปลี่ยน 37 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินลงทุน 28,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน 6 เดือน คาดการณ์ผลตอบแทนอยู่ที่ 4.92% ต่อปี จะได้เงินคืน 28,688.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ตารางแสดงตัวอย่าง กรณีต่างที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคำนวณผลตอบแทนในรูปสกุลเงินบาท

 
อัตราแลกเปลี่ยน USDTHB ณ วันเลิกกองทุน
ถ้าแลกเงินลงทุนกลับเป็นสกุลเงินบาท ณ วันเลิกกองทุน (บาท)คาดการณ์ผลตอบแทน ช่วงระยะเวลาลงทุน (6เดือน) ในสกุลบาทคาดการณ์ผลตอบแทน ต่อปี ในสกุลบาท

กรณีที่ 1

กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน

38.85

(บาทอ่อนค่า 5%)

1,114,560
7.58%
15.17%

กรณีที่ 2

อัตราแลกเปลี่ยนไม่เปลี่ยนแปลง

37

(อัตราแลกเปลี่ยนคงที่)

1,061,4862.46%4.92%

กรณีที่ 3

ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในสัดส่วนที่เท่ากับผลตอบแทนจากกองทุน

36.11

(บาทแข็งค่า 2.4%)

1,036,0000.00%0.00%

กรณีที่ 4

ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน

35.15

(บาทแข็งค่า 5%)

1,008,411-2.66%-5.33%

 

จากตารางด้านบน ถึงแม้ว่าเมื่อครบกำหนดอายุกองทุน 6 เดือน ทุกกรณีจะได้ผลตอบแทนต่อปีที่อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯเท่ากันที่ 4.92%

 

แต่เมื่อคำนวณผลตอบแทนในรูปสกุลเงินบาท อาจมีความแตกต่างของผลตอบแทนต่อปีได้ค่อนข้างมากตั้งแต่ขาดทุน -5.33% ถึง +15.17% เลยทีเดียว

 

ดังนั้น นักลงทุนที่มีความจำเป็นต้องแลกเงินลงทุนกลับมาเป็นสกุลเงินบาท ณ วันเลิกกองทุน จำเป็นต้องพิจารณาความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน และลงทุนด้วยความระมัดระวัง

 

ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com

 

บทความโดย

ที่มา: ฝ่ายจัดการกองทุนตราสารหนี้ บลจ.กสิกรไทย

ข้อมูล ณ วันที่ 3 มิ.ย. 2024

 

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

ESG Bond คืออะไร ทำไมน่าลงทุน? >>Click

เป้าหมาย Net Zero ไทย ไม่ไกลเกินเอื้อม  >>Click

เทคนิคจัดพอร์ตลงทุน ให้โตไว  >>Click

จัดพอร์ต Core-Satellite ไม่ใช่เรื่องยาก >>Click



Yes
7/3/2024
none