
สรุปประเด็นที่น่าสนใจ
NVIDIA ทำรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
รายได้ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สำหรับปีงบประมาณเต็ม รายได้เพิ่มขึ้น 114% สะท้อนถึงโมเมนตัมที่แข็งแกร่งของบริษัทและความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI
การขยายตัวของธุรกิจ Data Center
เติบโตอย่างโดดเด่น โดยรายได้ในไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 93% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า การเติบโตนี้ได้รับการสนับสนุนจากการนำโครงสร้างพื้นฐาน AI, Cloud Computing และ accelerated computing solutions มาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากขึ้น
กำไรพุ่งสูงขึ้น
ความสามารถในการทำกำไรของ NVIDIA เติบโตอย่างมาก โดยกำไรต่อหุ้น (GAAP) เพิ่มขึ้น 147% ตลอดทั้งปี สิ่งนี้สะท้อนถึงความสามารถของบริษัทในการขยายขนาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับใช้ประโยชน์จากกระแส AI ที่กำลังเติบโต
ความต้องการที่พุ่งสูงสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI Blackwell
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI Blackwell ของ NVIDIA ได้รับความต้องการอย่างล้นหลาม สร้างรายได้หลายพันล้านดอลลาร์ภายในไตรมาสแรกที่มีวางจำหน่าย ระบบ AI ประสิทธิภาพสูงเหล่านี้กำลังขับเคลื่อนความก้าวหน้าใน deep learning, scientific computing และ enterprise AI applications
การปฏิวัติ AI และการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม
Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA เน้นย้ำถึงวิวัฒนาการที่รวดเร็วของ AI และผลกระทบที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ ได้
มุมมองการลงทุน
ผลประกอบการ NVIDIA ทําได้ดีกว่าคาดการณ์ จากยอดขาย Chip Blackwell และรายได้จากธุรกิจ Data Center นอกจากนี้ คาดการณ์รายได้ในไตรมาสแรกของปีหน้ายังมากกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ประเด็นความสามารถของ DeepSeek และการพัฒนา Al ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ชิปประมวลผลระดับสูง มีส่วนทำให้ตลาดกังวลถึงแนวโน้มในอนาคตของ NVIDIA เช่นกัน แต่ Jensen Huang, CEO มองว่าเป็นโอกาส เพราะโมเดล AI แบบ Reasoning เช่น R1 ของ DeepSeek ต้องการพลังงานคำนวณที่สูงขึ้นในระยะยาว และคาดการณ์ว่าในอนาคต AI ยังคงต้องใช้พลังการประมวลผลมากขึ้น เป็นหลายเท่าเมื่อเทียบกับปัจจุบัน จะช่วยเพิ่มความต้องการใช้ชิปของ NVIDIA ต่อไป
ผลกระทบต่อตลาด
ส่วนราคาหุ้น NVIDIA ณ สิ้นสุดเวลาทำการ ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.7% และตลาดหุ้นปิดทำการ ก่อนประกาศงบ ทำให้ราคา After-hour ค่อนข้างผันผวนมาก
ถึงแม้ว่างบจะออกมาเติบโต และให้ guidance ที่ดี แต่ตลาดยังกังวลเรื่องความเสี่ยงภาษีศุลกากรระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งอาจนำไปสู่การห้ามส่งออกชิปบางประเภท และยังคงมีความกังวลว่า การใช้จ่ายในเรื่อง Datacenter อาจจะชะลอตัวในอนาคต
คำแนะนำการลงทุน
KAsset ยังคงมีมุมมองเชิงบวกเล็กน้อย (Slightly Overweight) ต่อหุ้นสหรัฐฯโดยรวม และยังคงมองว่าหุ้นเทคฯ ยังคงมีกำไรโดยรวมที่เติบโต แนะนำทยอยสะสมเมื่อตลาดย่อตัว
กองทุนแนะนำ
K-GTECH (NVIDIA 4.8% 31 ม.ค. 2025) : ลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคฯชั้นนําทั่วโลก เกาะกระแสเทรนด์ AI กองทุนหลักได้รับ Morningstar 5 ดาว (31 ม.ค. 2025)
K-USXNDQ (NVIDIA 8.0% 31 ม.ค. 2025) : ลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคฯของสหรัฐฯ ผ่าน ETF ที่ล้อผลตอบแทนไปกับดัชนี Nasdaq 100
K-USA (NVIDIA 6.5% 31 ม.ค. 2025) : มีการกระจายการลงทุนในหุ้นชั้นนำในกลุ่มอื่นนอกจากเทคฯ
ที่มา: KAsset Investment Strategy บลจ.กสิกรไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2025
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และคู่มือการลงทุนก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com / กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้