5/4/2023

ดอกเบี้ยขาขึ้น สิ้นสุดแล้วหรือยัง? ประชุม FED รอบนี้ …ส่งสัญญาณอะไรบ้าง​

HIGHLIGHTS :
• Fed เห็นชอบเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ย 25 bps ตามคาด สู่ระดับ 5.0-5.25% 
• โยบายการเงินที่เข้มข้นยังต้องใช้เวลาอีกซักระยะเพื่อที่จะกดเงินเฟ้อให้ลงมาสู่เป้าหมายที่ 2%​
• สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลกับความผันผวน KAsset แนะนำให้เข้าลงทุนในกองทุนผสม K-PLAN2 และ K-PLAN3 ที่เน้นลงทุนในประเทศ และกองทุนผสม K-GINCOME ที่เน้นกระจายการลงทุนในต่างประเทศ

Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด
Fed มีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ตามตลาดคาด นับเป็นครั้งที่ 10 ที่ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันของวัฏจักรนี้ที่เริ่มในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.00% ทั้งนี้ Fed มีการยกเลิกประโยคที่เคยระบุในแถลงการณ์ก่อนหน้านี้ที่ว่า "คณะกรรมการ Fed คาดการณ์ว่าการคุมเข้มนโยบายเพิ่มเติมอาจมีความเหมาะสม" เพื่อให้ Fed บรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2%

Fed ยังคงมุ่งมั่นที่จะลดเงินเฟ้อ ลงสู่ระดับ 2%
นายพาวเวล ประธาน Fed เปิดเผยในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า "เรายังคงมุ่งมั่นอย่างมากที่จะลดเงินเฟ้อลงสู่ระดับ 2% และเราเตรียมที่จะดำเนินการมากขึ้น หากจำเป็น" ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ นอกจากนี้ นายพาวเวลยังระบุว่า เงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายอย่างมาก และการคุมเข้มนโยบายการเงินจะต้องใช้เวลากว่าจะส่งผลกระทบอย่างเต็มที่ และเมื่อพิจารณาจากมุมมองของเราที่ว่า เงินเฟ้อจะต้องใช้เวลาอีกระยะกว่าจะปรับลดลงนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจึงยังไม่เหมาะสม

นักลงทุนยังไม่แน่ใจว่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย
แม้ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด และตลาดตอบรับเชิงบวกในช่วงแรก แต่ย่อตัวลงภายหลัง จากแถลงข่าวของประธาน Fed ที่ระบุว่า เงินเฟ้อของสหรัฐฯยังอยู่ในระดับที่สูงเกินไป และยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะสิ้นสุดลง โดยดัชนี Nasdaq -0.46% ดัชนี S&P 500  -0.70% และดัชนี Dow Jones -0.80% (3 พ.ค. 2566) 
ที่มา : RYT9

มุมมองการลงทุน
การส่งสัญญาณถึงความกังวลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะถัดไปของ Fed อันเป็นผลจาก 1) ดอกเบี้ยนโยบายที่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับแต่กลางปีปี 2007 ที่ 5.25% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยสะสมมาแล้วถึง 5% ตั้งแต่ปี 2022 ประกอบกับ 2) ความตึงตัวในด้านการให้สินเชื่อ (tighter credition conditions) แก่ภาคธุรกิจและครัวเรือน จากสถานการณ์ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและเล็กของสหรัฐฯที่ทยอยปิดกิจการ รวมถึง 3 ) การทยอยลดงบดุลของ Fed ตามแผนนั้น ขณะที่ Fed เองยังคงมองว่าเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูง ทำให้เรามองว่า Fed ยังคงต้องรักษาสมดุลระหว่างนโยบายการเงินเพื่อเสถียรภาพของราคา และเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน โดยคาดว่า Fed น่าจะถึงจุดสูงสุดของวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังคงดอกเบี้ยนโยบายในระดับ 5.25% ต่อไป  

อย่างไรก็ดี หลังจากการประชุม Fed นั้น ตลาดกลับมาคาดการณ์การปรับลดดอกเบี้ย Fed ที่มากขึ้นในปีนี้ โดยคาดว่า Fed Fund Rate จะปรับลงไปที่ 4.2% ณ เดือนธันวาคมนี้ ซึ่งแสดงดึงความกังวลการถดถอยทางเศรษฐกิจ

คำแนะนำการลงทุน​ ในตราสารหนี้
แม้ บลจ.กสิกรไทย จะคาดว่า Fed จะยังคงดอกเบี้ยในระดับสูงสุดของวัฎจักรในปีนี้ แต่การที่แนวโน้มดอกเบี้ยเป็นทรงตัวและมีโอกาสลดได้ในปีหน้า ประกอบการคาดการณ์ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอถึงขึ้นถดถอยนั้น ทำให้มองว่าการลงทุนในตราสารหนี้ระยะกลางคุณภาพดีมีความน่าสนใจ เนื่องจากได้รับดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูง และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนส่วนเพิ่ม (Capital Gain) จากราคาที่ปรับขึ้นได้ ในยามที่นักลงทุนกังวลกับการชะลอตัวเศรษฐกิจและหันมา flight to quality 

กองทุนตราสารหนี้ แนะนำ
• กองทุน K-FIXEDPLUS สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ไทย  
• กองทุน K-GB และ K-GDBOND สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ  

มุมมองการลงทุนตราสารทุน
คาดว่าความอ่อนแอของตัวเลขเศรษฐกิจน่าจะเริ่มทยอยออกมาเรื่อยๆ ประกอบกับแรงกดดันจากดอกเบี้ยที่อยู่ระดับสูง และการปะทุของปัญหาธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางและเล็ก นำไปสู่การกดดันของสินเชื่อในภาคธุรกิจและครัวเรือน และท้ายสุดการปรับคาดการณ์การเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจและกำไรลง คาดว่าตลาดน่าจะอยู่ช่วงพักฐานเพื่อประเมินความรุนแรงของการถดถอยของเศรษฐกิจ 

โดยการคาดหวังว่า Fed จะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้ ทำให้ตลาดยังทรงตัวได้ แต่เรามองว่าค่อนข้างเป็นมุมมองบวกเกินไป (Optimism) และคาดว่าตลาดจะมีความผันผวนเมื่อปรับคาดการณ์ดังกล่าว ดังนั้น จึงแนะนำ selective ในการลงทุนหุ้นโลก โดยเน้นภูมิภาคที่เศรษฐกิจกลับมามีแรงส่งที่ดีกว่า และนโยบายการเงินมีแนวโน้มตึงตัวลดลง เช่น จีน เอเชีย

คำแนะนำการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ
• ผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่ม : แนะนำให้รอประเมินสถานการณ์ ตลาดในระยะนี้จะยังผันผวนและปรับฐาน จากแนวโน้มศรษฐกิจที่ชะลอลง ท่ามกลางต้นทุนทางการเงินที่ยังคงอยู่ระดับสูง และโอกาสที่มีธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางถูกปิดกิจการเพิ่มเติม
• ผู้ที่ถือหน่วยลงทุนเดิม : แนะนำให้ถือหน่วยลงทุนต่อไปได้ จาก Valuation ปรับลงมามากแล้ว

คำแนะนำสำหรับนักลงทุนช่วงตลาดผันผวน
สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลกับความผันผวน แนะนำให้เข้าลงทุนในกองทุนผสม K-PLAN2 และ K-PLAN3 ที่เน้นลงทุนในประเทศ และกองทุนผสม K-GINCOME ที่เน้นกระจายการลงทุนในต่างประเทศ

หมายเหตุ ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com

บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย 
ข้อมูล ณ วันที่ 4 พฤษภาคม 2023

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
เกิดอะไรขึ้น? เมื่อ GDP สหรัฐฯ โตเพียง 1.1% >>Click​
มุมมองการลงทุนหลังเกิดวิกฤต Credit Suisse >>Click
เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรก ขยายตัว 4.5% สูงกว่าคาด​ >>Click

Yes
5/4/2023
0