สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานตัวเลข GDP ไตรมาส 1/2566 ขยายตัว 4.5% (เทียบรายปี) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขยายตัว 4% ผลจากการยกเลิกนโยบายควบคุมโควิด ซึ่งถูกบังคับใช้เป็นเวลานานถึง 3 ปี และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ GDP จีนขยายตัวเพียง 3% ในปี 2565 ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ 5.5% ขณะที่เป้าหมาย GDP ในปีนี้ รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ประมาณ 5%

ยอดค้าปลีกเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 10.6% (เทียบรายปี) สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ 7.4% และสูงกว่าในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่ขยายตัวเพียง 3.5% ด้านตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค. ของจีนปรับตัวขึ้น 3.9% (เทียบรายปี) ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4% แต่ก็แข็งแกร่งกว่าในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ที่มีการขยายตัว 2.4% ด้านการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรช่วงไตรมาสแรก ปรับตัวขึ้น 5.1% น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.7% หลังจากที่มีการขยายตัว 5.5% ในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.

KAsset ยังมีมุมมองในด้านบวก ต่อเศรษฐกิจจีนในระยะยาว จากการเปิดเมืองซึ่งจะหนุนให้เศรษฐกิจของประเทศจีน สามารถขยายตัวต่อไปได้ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกในภาพรวมที่กำลังชะลอตัวลง อีกทั้งรัฐบาลจีนมีการกำหนดนโยบายแผนการพัฒนาประเทศในระยะยาว เพื่อให้ประเทศจีนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม และการลดคาร์บอน ซึ่งเมื่อพิจารณาควบคู่กับการบริโภคในประเทศที่กำลังกลับมาเติบโตอีกครั้ง ทำให้ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในประเทศจีนมีโอกาสเติบโตโดดเด่นในระยะยาว 

นอกจากนี้ Valuation ของหุ้นจีนยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจมาก เมื่อเทียบกับดัชนีหุ้นหลักอื่นๆของโลก และนักลงทุนสถาบันจำนวนมากเข้าลงทุนในตลาดหุ้นจีนเพียงสัดส่วนน้อย เป็นปัจจัยดึงดูดให้นักลงทุนหันมาลงทุนในตลาดหุ้นจีนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ดี จีนมีความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) ซึ่งยังคงเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนความผันผวนของตลาดหุ้นจีน แต่คาดว่าไม่กระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนในปัจจุบัน

คำแนะนำการลงทุน 

 

จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หนึ่งเดียวที่ไม่มีแรงกดดันทางด้านเงินเฟ้อ โดยตั้งแต่ปลายปี 2565 ตลาดหุ้นจีนเริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยบวกหลายอย่าง รวมถึงการเปิดเมืองที่เร็วกว่าคาด ควบคู่ไปกับภาคการบริโภคที่มีสัดส่วนเงินออมที่สูงเป็นประวัติการณ์ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ และการผ่อนคลายการควบคุมกฎระเบียบในกลุ่มอสังหาฯและกลุ่มเทคฯ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้ส่งผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจมีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ หลังการประชุมสองสภาในต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ภาพด้านการเมืองมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเห็นการประกาศนโยบายเศรษฐกิจเชิงรุกในระยะข้างหน้า

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 

ธนาคาร SVB ปิดกิจการ !! กระทบกองทุนหรือไม่? >>Click

มุมมองการลงทุนหลังเกิดวิกฤต Credit Suisse >>Click

Fed ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และส่งสัญญาณใกล้จบ >>Click​

กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยมี.ค. +0.25% ตามคาดการณ์ >>Click

​