4/28/2023

เกิดอะไรขึ้น? เมื่อ GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 1/66 โตเพียง 1.1% และต่ำกว่าคาดการณ์ ​

HIGHLIGHTS :
• GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 1/66 (ประมาณการครั้งที่ 1) ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์
• ตลาดมอง Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมต้นเดือน พ.ค.นี้
• KAsset แนะนำให้รอประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนเพิ่มในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

GDP สหรัฐฯไตรมาส 1/66 ต่ำกว่าคาด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผย GDP ไตรมาส 1/66 (ประมาณการครั้งที่ 1) ขยายตัวเพียง 1.1% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.0% เนื่องจากภาคธุรกิจปรับลดการลงทุนในการสต็อกสินค้า ซึ่งบดบังตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้น 

โดยตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ในแบบจำลองของ Fed สาขาแอตแลนตาที่ระบุว่าจะขยายตัว 1.1% ทั้งนี้ ในปี 2565 เศรษฐกิจสหรัฐฯหดตัว 1.6% ในไตรมาส 1 และ 0.6% ในไตรมาส 2 ทำให้เข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค ก่อนที่จะการขยายตัว 3.2% และ 2.6% ในไตรมาส 3 และ 4 ตามลำดับ

ตลาดมอง Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือน พ.ค. นี้
อย่างไรก็ดี แม้ GDP จะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ แต่นักลงทุนยังคงมองว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมในวันที่ 2-3 พ.ค. นี้ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักประมาณ 84% ที่ Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% และให้น้ำหนักเพียง 16% ที่จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%

มุมมองการลงทุน
KAsset ยังมีมุมมอง slightly negative และแนะนำให้รอประเมินสถานการณ์ก่อนเข้าลงทุน โดยระยะสั้นนักลงทุนให้น้ำหนักกับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่กำลังทยอยออกมา ล่าสุดหุ้นบิ๊กเทคฯอย่าง Meta Platforms รายงานผลประกอบการแข็งแกรง ช่วยหนุนราคาหุ้นบริษัทอื่นๆในกลุ่มเทคด้วย ทั้งนี้ มีบริษัทที่ประกาศออกมาแล้วเพียง 18% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ทั้งหมด โดยบริษัทที่รายงานออกมารวมๆแล้วมีกำไรดีกว่าคาดที่ 5.8% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี ที่ 8.4%

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยยังคงมุมมองว่า การดำเนินนโยบายการเงินของ Fed ช่วงถัดไปจะมีความยากลำบากมากขึ้นในการรักษาสมดุลระหว่างเป้าหมายเงินเฟ้อ และเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน 

นอกจากนี้ ผลของการขึ้นดอกเบี้ยสะสมมาถึง 5% ณ ปัจจุบัน เริ่มส่งผลต่อต้นทุนของทุกภาคส่วน ในระยะถัดไปจึงอาจเห็นการปรับลดประมาณการกำไรลงได้อีก และคาดการณ์กำไร (EPS) ในปีนี้จะทรงตัวจากปีก่อนหน้า จึงยังคงมุมมอง Slightly Negative สำหรับการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ 

คำแนะนำการลงทุน
ผู้ที่ต้องการลงทุนเพิ่ม : แนะนำให้รอประเมินสถานการณ์ โดยจับตาการสื่อสารของ Fed ต่อมุมมองของดอกเบี้ย และพัฒนาการของตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ

ผู้ที่ถือหน่วยลงทุนเดิม : แนะนำให้ถือหน่วยลงทุนต่อไปได้ เนื่องจาก Valuation ของตลาดใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย และใกล้จุดสูงสุดของวัฎจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

หมายเหตุ ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน โดยศึกษานโยบายกองทุนและความเสี่ยงได้ที่ www.kasikornasset.com

บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย 
ข้อมูล ณ วันที่ 28 เมษายน 2023

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
ธนาคาร SVB ปิดกิจการ !! กระทบกองทุนหรือไม่? >>Click
มุมมองการลงทุนหลังเกิดวิกฤต Credit Suisse >>Click
เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรก ขยายตัว 4.5% สูงกว่าคาด​ >>Click

Yes
4/28/2023
0