7/15/2022

CHINA COMEBACK : ตลาด Laggard หุ้นราคาไม่สูง และมีโอกาสเติบโตในระยะยาว (ตอนที่ 2)​

​​​​​​​​​​​​​​​​​​​

HIGHLIGHTS :
• หุ้นจีนคือตลาด Laggard หรือหุ้นที่ราคายังไม่ปรับขึ้นมากเมื่อเทียบกับหุ้นอื่นในอุตสาหกรรม และมีโอกาสเติบโตสูง
• ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวได้จากนโยบายการเงินและการคลังที่สวนทางกับประเทศพัฒนาแล้ว
• ประเมินว่าเศรษฐกิจของจีนจะแตะจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ปี 65 และคาดจะฟื้นตัวได้ในไตรมาสต่อๆไป 
• หุ้นจีนมีระดับราคาที่ค่อนข้างต่ำ ขณะที่การเติบโตของกำไรสูง เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลก 
• แนะนำนักลงทุนควรต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในจีนอย่างใกล้ชิด​
KAsset เชื่อว่าตลาดหุ้นจีนน่าจะผ่านจุดต่ำสุดของรอบนี้ไปแล้ว และมีโอกาสเห็นตลาดหุ้นจีนสามารถทำผลตอบแทนได้โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลกในระยะถัดไป สัญญาณเชิงบวกที่เราเห็นมีหลายปัจจัย ดังนี้ 

นโยบายการเงินและการคลัง ที่สวนทางกับประเทศพัฒนาแล้ว
ในปัจจุบันประเทศจีนยังไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเหมือนสหรัฐฯและยุโรป โดยเงินเฟ้อของจีนเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับเพียง 2.5% เท่านั้น ดังนั้นธนาคารกลางจีนจึงสามารถใช้นโยบายการเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ย LPR (Loan Prime Rate) การลดอัตราการตั้งสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR – Reserve Requirement Ratio) หรือการบริหารสภาพคล่องในตลาดอสังหาริมทรัพย์ 

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเป้าหมาย GDP ที่ 5.5%
ขณะที่รัฐบาลได้เร่งรัดการลงทุนในระบบโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อพัฒนาศักยภาพของประเทศควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่าจะมีนโยบายสนับสนุนการบริโภคในประเทศและภาคส่วนอื่นๆตามมาอีกมากในภายหลัง เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าการเติบโตของ GDP ในปีนี้ที่ 5.5% การใช้นโยบายในรูปแบบดังกล่าวเป็นในทิศทางตรงกันข้ามกับสหรัฐฯและยุโรปที่ใช้นโยบายทางการเงินตึงตัวอย่างชัดเจน ดังนั้นตลาดหุ้นจีนจึงมีความได้เปรียบอย่างมากในมุมของสภาพคล่องและความน่าสนใจลงทุน

1. เศรษฐกิจจีนอยู่ในภาพของการฟื้นตัว 
เริ่มเห็นทิศทางตัวเลขเศรษฐกิจที่สวนทางกันชัดขึ้น โดยดัชนี PMI เดือนมิ.ย.ของฝั่งจีนเป็นภาพของการฟื้นตัว ขยับขึ้นมาอยู่ในแดนขยายตัว (มากกว่า 50 จุด) ทั้งภาคการผลิตและบริการ เป็นไปตามที่ตลาดคาด ด้วยอานิสงส์จากการคลายล็อกดาวน์ ขณะที่ของทั้งสหรัฐฯและยุโรปออกมาชะลอตัวลง ผลกระทบจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและเงินเฟ้อยังสูง 

ทั้งนี้ KAsset ประเมินว่าเศรษฐกิจของจีนจะแตะจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ปี 2565 และคาดจะฟื้นตัวได้ในไตรมาสต่อๆไป การลงทุนจากภาครัฐจะส่งผลบวกต่อตัวเลขเศรษฐกิจได้ในทันที ขณะที่ปัญหาคอขวดด้านห่วงโซ่อุปทานจะค่อยๆคลี่คลาย และการบริโภคอาจต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ไตรมาส แต่คาดว่ารัฐบาลจีนจะมีนโยบายส่งเสริมการบริโภคในประเทศเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วขึ้น 

2. ระดับราคา (Valuation) ที่ค่อนข้างต่ำ ขณะที่การเติบโตของกำไรสูง 
ราคาหุ้นจีนในมุมของ Forward Price to Earnings Ratio (P/E) อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลก ขณะที่คาดการณ์การเติบโตของกำไรโดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ จึงช่วยเพิ่มความน่าสนใจการลงทุนในตลาดหุ้นจีนเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ
index.jpg
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามดูต่อไป เนื่องจากรัฐบาลจีนยังคงใช้มาตรการควบคุมการระบาดที่เข้มข้นเมื่อเทียบกับประเทศฝั่งตะวันตกและอีกหลายประเทศที่พยายามจะอยู่ร่วมกับโควิด จึงยังมีความเป็นไปได้ที่หากเกิดการระบาดในวงกว้างบริเวณเมืองใหญ่ก็อาจทำให้รัฐบาลจีนตัดสินใจล็อกดาวน์อีกครั้ง ทำให้ตลาดหุ้นจีนจะยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี เราเห็นสัญญาณที่ดีในช่วงก่อนหน้าที่จีนได้ผ่อนปรนมาตรการควบคุมโควิด ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เคยซบเซาค่อยๆกลับมา 
รัฐบาลมีการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มเรื่องการเดินทางเข้าประเทศเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ลดการกักตัวของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจากเดิม 14 วันมาเหลือ 7 การเพิ่มโควต้าเที่ยวบินจากต่างประเทศเข้าจีน นอกจากนี้ยังเร่งฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ รวมถึงบังคับใช้มาตรการบังคับฉีดวัคซีนในปักกิ่งเป็นเมืองแรก ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายการควบคุมโควิด-19 ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจีนในระยะถัดไป

นอกจากเรื่องสถานการณ์ระบาด ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ต้องจับตา ไม่ว่าจะเป็นการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อ การออกกฏระเบียบที่เข้มงวดกว่าคาด หรือปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบต่อทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจจีนและอาจทำให้ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงได้อีก

คำแนะนำการลงทุน
อย่างไรก็ตาม KAsset เชื่อว่าหากนักลงทุนสามารถลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นจีนได้ รวมถึงสามารถอดทนต่อความผันผวนที่เกิดขึ้นจากปัจจัยระยะสั้น 

ตลาดหุ้นจีนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนระยะยาวที่โดดเด่นกว่าตลาดหุ้นอื่นๆ 
จากปัจจัยเฉพาะตัวที่น่าสนใจทั้งทิศทางนโยบายการเงินและการคลัง แผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ระดับราคาหุ้นที่ไม่แพง การบริโภคที่เติบโต และการให้ความสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูง KAsset จึงมองว่า ในช่วงนี้เป็นจังหวะที่ดี ในการทยอยเข้าสะสมกองทุนหุ้นจีน เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้


บทความโดย ฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์การลงทุน บลจ.กสิกรไทย 
ข้อมูล ณ วันที่ 15 ก.ค. 2565​

หมายเหตุ "ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน"


เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง 
CHINA COMEBACK EP.1 >> อ่านต่อ​ ​​ ​ 
4 โอกาสการลงทุนในเอเชีย >> อ่านต่อ
เกิดอะไรขึ้นกับภาคอสังหา​ฯ >> อ่านต่อ



​​​​​
Yes
7/15/2022